จุลพันธ์ จ่อประกาศรายชื่อรับเงิน 10,000 เฟส 2 ธ.ค.นี้ เฟสแรกดัน GDP ปี 67 แตะ 2.8%
“จุลพันธ์” หวังอานิสงส์แจกเงินหมื่นดันจีดีพีปีนี้แตะ 2.8% ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ ธ.ค.นี้กางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าใส่เงินที่เหลือจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออีก 1.47 แสนล้านบาท ลงระบบเศรษฐกิจไตรมาส 2 ปี 68 ชี้การช่วยเหลือต้องยิงให้ตรงเป้าหมายเป็นรายกลุ่ม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ว่าหลังจากที่รัฐบาลได้มีการใส่เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการนี้ในระยะที่ 1 วงเงิน 1.45 แสนล้านบาทให้กับกลุ่มเปราะบาง ได้มีการรายงานการประเมินผลสำเร็จว่าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี และจะมีผลส่งต่อไปยังเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2.8%
ส่วน เศรษฐกิจในปี 2568 ก็ยังเป็นทิศทางที่ดี ซึ่งรัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้ปัญหาหนี้สิน และเพิ่มการลงทุน ซึ่งต้องช่วยเหลือเป็นรายกลุ่ม
ส่วนในปี 2568 การกระตุ้นเศรษฐกิจนอกจากมีการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟสที่ 2 ให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวนไม่เกิน 4 ล้านราย ซึ่งจะพยายามปรับโครงการให้สามารถจ่ายเงินได้ก่อนวันตรุษจีนซึ่งจะมีการประกาศผลในการลงทะเบียนกลุ่มนี้หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้
ยืนยันว่าทุกคนที่ลงทะเบียนในระบบผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้วจะได้เงินทุกคน โดยในเฟสที่ 3 จะเป็นการอนุมัติให้จ่ายเงินในกลุ่มที่เหลือซึ่งมีการลงทะเบียนไว้รวมทั้งกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟนที่จะเปิดให้มีการลงทะเบียนในระยะต่อไป ซึ่งเงินจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย. 2568 ซึ่งจะใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือวงเงินรวมประมาณ 1.47 แสนล้านบาท
“เงินจำนวนนี้จะใช้ลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไตรมาสที่ 2 ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้ เพราะในช่วงที่เหลือของปีหน้าในไตรมาสที่ 3 ก็จะมีงบประมาณใหม่ที่เข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่วนไตรมาสที่ 4 ก็จะเป็นช่วงไฮซีซันที่จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามา ถ้าเป็นไปตามนี้ก็จะสามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนจะได้เกิน 3% หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพยายามเพราะแม้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3% พวกเราก็ยังไม่ได้พอใจต้องทำงานหนักเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากขึ้น” นายจุลพันธ์ กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์