ปตท. จี้ ป.ป.ช. เร่งไต่สวนคดีปาล์มอินโดฯ หวั่นความผิดบางมาตราหมดอายุความ
ปตท.ตามจี้ ป.ป.ช. ให้เร่งรัดกระบวนการไต่สวนคดีปลูกปาล์มอินโดฯ หวั่นความผิดบางมาตราจะหมดอายุความ หลังส่งเรื่องให้ตั้งแต่ปี 2556
ปตท.ทำหนังสือฉบับที่ 16 ถึง ป.ป.ช. สอบถามความคืบหน้าไต่สวนคดีทุจริตในโครงการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มและผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย (คดีปาล์มอินโดฯ) ของ PTTGE หลังส่งเรื่องให้ตั้งแต่ปี 2556 ชี้การ กระทำผิดบางมาตราอาจครบกำหนดอายความไปตั้งแต่ปี 2565 แล้ว จึงขอให้เร่งรัดกระบวนการ หวั่นองค์กรได้รับผลกระทบ มีคดีพิพาทผู้เกี่ยวข้องแพ่ง-อาญา อยู่ใ
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) เป็นครั้งที่ 16 เพื่อขอให้ ป.ป.ช.เร่งรัดกระบวนการไต่สวนคดีทุจริตในโครงการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มและผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย (คดีปาล์มอินโดฯ) โดยเร็ว เนื่องจากการกระทำความผิดตามกฎหมายบางมาตราอาจจะหมดอายุความไปแล้ว และองค์กรยังมีคดีพิพาทกับผู้เกี่ยวข้องซึ่งในระหว่างการพิจารณาศาลแพ่งและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหลายคดี
แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า ในช่วงต้นเดือน พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ปตท.ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อสอบถามความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) หลังจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้แจ้งความคืบหน้าให้ ปตท. ทราบ
ซึ่งการทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริง ของ ปตท. ฉบับใหม่นี้ นับเป็นฉบับที่ 16 หลังจากทำหนังสือแจ้ง ป.ป.ช. มาแล้ว จำนวน 15 ฉบับ นับตั้งแต่ ปตท.ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.พิจารณาในช่วงปี 2556
ทั้งนี้ ปตท. ระบุในหนังสือฉบับใหม่ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ปตท. น่าเชื่อว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2550 - 2555 ความผิดตามมาตราที่เกี่ยวข้องมีกำหนดอายุความในการดำเนินคดีอาญา 20 ปี และ 15 ปี ตามลำดับ
ดังนั้น การกระทำบางฐานความผิดจึงอาจครบกำหนดอายความไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 หากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงไม่แล้วเสร็จจนถึงขั้นการชี้มูลความผิดต่อผู้ถูกกล่าวหารายใดภายในกำหนดอายุความ กรณีดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อ ปตท. และ PTTGE รวมทั้งพนักงานและอดีตพนักงาน เนื่องจากคดีความที่พิพาทกับผู้เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหลายคดี
"เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของ ปตท. จึงขอความอนุเคราะห์ดณะกรรมการ ป.ป.ช.เร่งรัดกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าว และแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการ รวมทั้งกรอบเวลาที่คาดว่ากระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จและนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อลงพิจารณามติชี้/ไม่ชี้มูลสำหรับการ กระทำที่ถูกกล่าวหาสำหรับผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวต่อไป" หนังสือ ปตท. ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน PTTGE ที่อยู่ในการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะไปแล้ว คือ กรณีกล่าวหาการลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่พบความไม่ชอบมาพากลในการลงทุน และมีการจ่ายค่านายหน้าแพงเกินจริงกว่า 32 ล้านดอลลาร์