ราคาทองพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์จากแรงซื้อของจีน
ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ มากกว่า 1% จากการที่ธนาคารกลางของจีนหันกลับมาซื้อทองคำอีกครั้งหลังจากหยุดมา 6 เดือน อีกทั้งตลาดยังคาดว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า เป็นแรงหนุนราคาทองคำโลกด้วย
รอยเตอร์สรายงานว่า ในวันจันทร์(9 ธ.ค.) ราคาทองคำในตลาดซื้อขายทันที Spot Gold เพิ่มขึ้น 1.2% อยู่ที่ 2,665.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำล่วงหน้า Gold Futures ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% อยู่ที่ 2,688.40 ดอลลาร์
“ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือข่าวที่ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) รายงานว่าได้กลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางอื่นๆ จะกลับมาซื้อทองคำตามจีน และเราอาจเห็นการซื้อทองคำในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัทหลักทรัพย์ TD Securities กล่าว
การที่จีนกลับมาซื้ออีกครั้งอาจช่วยสนับสนุนความต้องการของนักลงทุนในประเทศ ในปี 2023 จีนเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ PBOC ได้หยุดการซื้อทองคำในเดือนพฤษภาคม หลังซื้อติดต่อกันมา 18 เดือน
การซื้อของธนาคารกลางอย่างแข็งแกร่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มวงจรการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 0.5%ในเดือนกันยายน ตามมาด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 %ในเดือนพฤศจิกายน นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 87% ที่ธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25 %ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคม
ขณะที่ โรนา โอคอนเนลล์ นักวิเคราะห์ของกลุ่มการเงิน StoneX กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากเฟดหยุดชะงักและแสดงท่าทีเพิ่มความระมัดระวัง อาจสร้างแรงกดดันชั่วคราวต่อราคาทองคำ
“ในระยะกลาง แรงหนุนทางภูมิรัฐศาสตร์และแรงซื้อจากธนาคารมีมากกว่าแรงต้านใดๆ”
ความปั่นป่วนในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากกบฏซีเรียเข้ายึดครองดามัสกัสหลังจากสงครามกลางเมืองที่กินเวลานาน 13 ปี บังคับให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดต้องหนีไปรัสเซีย
ทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย มักจะมีราคาสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และโดยปกติจะดึงดูดนักลงทุนในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจผันผวนรุนแรง
ด้านราคาเงินเพิ่มขึ้น 3.4% เป็น 32.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้น 2% เป็น 945.68 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 2.9% เป็น 983.93 ดอลลาร์