ข้อมูลเศรษฐกิจจีนสดใสหนุนราคาน้ำมัน

ข้อมูลเศรษฐกิจจีนสดใสหนุนราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่สดใสและการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอนที่ไม่แน่นอน

รอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวัน จันทร์ (2 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตในจีนซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และจากการที่อิสราเอลกลับมาโจมตีเลบานอนอีกครั้งแม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง ส่งผลให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 8 เซ็นต์ หรือ 0.1% อยู่ที่ 71.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 01.07 น. GMT ในขณะที่ราคา น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐอยู่ที่ 68.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 9 เซ็นต์ หรือ 0.1%

ราคาปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการสำรวจอย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตของจีนขยายตัวเพียงเล็ก น้อยเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งบ่งชี้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังทยอยส่งผลดีในที่สุด ใน ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ขู่ว่าจะทำ สงครามทางการค้า

โทนี ซิคามอร์ นักวิเคราะห์ตลาดของกลุ่มบริษัทบริการทางการเงิน IG ซึ่งประจำอยู่ที่ซิดนีย์ กล่าวว่า “ข้อมูลของจีน ช่วยได้ แต่ผมคิดว่าข้อมูลดังกล่าวยังมาจากความกังวลว่า การหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอนอาจใช้ไม่ได้ผล” 

ข้อตกลงสงบศึกระหว่างอิสราเอลและเลบานอนมีผล บังคับใช้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ทั้งสองฝ่ายกล่าวหาซึ่งกัน และกันว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอนออกแถลงการณ์ว่ามีผู้ได้ รับบาดเจ็บหลายคนจากการโจมตีของอิสราเอล 2 ครั้งใน เลบานอนตอนใต้ นอกจากนี้ การโจมตีทางอากาศยังทวี ความรุนแรงมากขึ้นในซีเรีย โดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล- อัสซาดให้คำมั่นว่าจะปราบปรามกลุ่มกบฏที่บุกโจมตีเมืองอา เลปโป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบในทั้งสองตลาดลดลง มากกว่า 3% ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลที่ลดลง เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านอุปทานจากความขัดแย้งระหว่าง อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ และการคาดการณ์อุปทานส่วน เกินในปี 2568 ถึงแม้จะมีการคาดกันว่าโอเปกพลัส OPEC+ จะขยายเวลาลดการผลิต

แหล่งข่าวโอเปกพลัส เปิดเผยกับรอยเตอร์สเมื่อสัปดาห์ที่ แล้วว่า องค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (OPEC) และพันธมิตร ซึ่งรู้จักกันในชื่อ OPEC+ ได้เลื่อน การประชุมออกไปเป็นวันที่ 5 ธันวาคม และกำลังหารือเกี่ยว กับการเลื่อนการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันซึ่งจะเริ่มใน เดือนมกราคม การประชุมในสัปดาห์นี้จะตัดสินนโยบายใน ช่วงต้นปี 2025

“การขยายเวลาการลดการผลิตจะทำให้ OPEC+ มีเวลามาก ขึ้นในการประเมินผลกระทบของการประกาศนโยบายของ ทรัมป์เกี่ยวกับภาษีศุลกากรและพลังงาน และยังช่วยให้เห็น ว่าจีนจะตอบสนองอย่างไร” ซิคามอร์กล่าว

ผลสำรวจราคาน้ำมันรายเดือนของรอยเตอร์สเมื่อวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่าราคาน้ำมันเบรนท์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 74.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2025 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ อ่อนแอในจีนทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง และมีอุปทาน ทั่วโลกที่เพียงพอซึ่งจะมีนำหนักมากกว่า ผลกระทบจากความ ล่าช้าในการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+ ถือเป็นการมองแนวโน้มราคาปรับลงสำหรับปี 2025 ในการ สำรวจทั้งครั้งเจ็ดติดต่อกัน

"ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดโลกใช้อ้างอิง ซึ่ง ณ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสำหรับปี 2024"