วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ บวกจากรมว.คลังใหม่สหรัฐฯ vs ความกังวลการเก็บภาษี และหยุดยิงตอ.กลาง

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ บวกจากรมว.คลังใหม่สหรัฐฯ vs ความกังวลการเก็บภาษี และหยุดยิงตอ.กลาง

นักลงทุนมองบวกกับรายชื่อรมว.คลังใหม่ของสหรัฐฯ การเสนอชื่อ Scott Bessent ขึ้นเป็นรมว.คลัง ทำให้นักลงทุนตอบรับเชิงบวก

เนื่องจากมองว่าอดีตผู้บริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยง (Hedge fund) Key Square Group มีความสามารถและมีจุดยืนสนับสนุนการปรับลดภาษี และสนับสนุนวินัยการคลัง ทำให้ตลาดประเมินว่า Bessent จะมีบทบาทในการคอยคานและลดผลกระทบจากนโยบายที่อาจจะสุดโต่งด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์

กลับเข้าสู่ยุคเก็งกำไรจากโซเชี่ยลมีเดียหลังทรัมป์ประกาศจะเก็บภาษีเพิ่ม ว่าที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social กล่าวหาว่าจีนไม่ทำตามสัญญาที่จะกำหนดโทษประหารชีวิตต่อผู้ค้ายาเฟนทานิล พร้อมระบุว่ายาเสพติดหลั่งไหลเข้ามาผ่านเม็กซิโก และจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 10% สำหรับสินค้าทุกชนิดจากจีน ขณะที่ในอีกโพสต์ ทรัมป์ประกาศว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้าทั้งหมดจากเม็กซิโกและแคนาดา โดยจะลงนามคำสั่งบริหารในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ความไม่แน่นอนในประเด็นสงครามการค้าเริ่มสูงขึ้นอีกครั้งและจิตวิทยาของตลาดมีแนวโน้มผันผวนตามความเห็นของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจปรากฎตามสื่อโซเชี่ยลมีเดีย

ข่าวหยุดยิงในตะวันออกกลางกระทบน้ำมันและสินทรัพย์ปลอดภัย มีรายงานว่าเฮซบอลเลาะห์และอิสราเอล อยู่ระหว่างทำข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งเมื่อคืนมีรายงาน CNN โฆษกของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล อนุมัติแผนการดังกล่าวในหลักการ และรอครม.ลงมติอย่างเป็นทางการ ซึ่งรายงานข่าวยังอ้างคาดการณ์เจ้าหน้าที่เลบานอน คาดการณ์ว่าข้อตกลงหยุดยิงจะประกาศใน 24 ชม. ทำให้ระยะสั้นอาจเป็นลบต่อน้ำมันดิบและสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะ ทองคำ  


 

ภาพรวมกลยุทธ์ “มีโอกาสซึมลงจากข่าวหยุดยิงในตะวันออกกลางกดดันน้ำมันดิบและกลุ่มพลังงาน เลือกเก็งกำไรรายตัว ให้น้ำหนักกับหุ้นที่โมเมนตัมผลประกอบการดีไปถึงไตรมาส 1/68 เราชอบกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, ค้าปลีก โดยคาดธนาคาร จะเป็นกลุ่มช่วยประคองบรรยากาศรวม // อาจเลือกหุ้นที่ได้แรงหนุนจากรายจ่ายภาครัฐ ได้แก่ SYNEX, SIS, SAMART, CSS, CK, STECON

แนวรับ: 1,405-1,423  แนวต้าน : 1,455 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    CPN* (66) : ผลการดำเนินงานเข้า high season และได้แรงหนุนจากมาตรการเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐในช่วงปลายปี-ต้นปี ตัดขาดทุน 60.75 บาท  
•    SAMART* (9) : ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนในช่วง 2567-68 ทั้งจากการใช้จ่ายภาครัฐ และการกลับมาเริ่มมีกำไรของบ.ลูกอย่าง SDC ตัดขาดทุน 7.45 บาท 
•    ERW* (4.60) : ผลการดำเนินงานเข้า high season และได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตัดขาดทุน 4.02 บาท
•    SIS* (32) : ผลประกอบการได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายภาครัฐ และการเปลี่ยนอุปกรณ์เข้ายุค AI ตัดขาดทุน 28 บาท 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    คาดสหรัฐเผยดัชนี PCE +2.3% เดือนต.ค.
-    บีโอไอ เผยผลสำเร็จเยือนจีน ผู้ผลิตแบตเตอรี่ - อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ตบเท้าลงทุนไทย
-    บจ. mai ผลงาน 9 เดือนแรกกวาดยอดขายรวม 155,843 ลบ.โกยกำไรพุ่ง 27.2%
-    BEM มั่นใจปี 68 รายได้-กำไรโตรับยอดผู้โดยสารสายสีน้ำเงินคาดโตกระฉูด
-    SIRI อัพเป้ายอดโอนคอนโดเป็น 1.45 หมื่นลบ.หลัง 10 เดือนลูกค้าโอนฉลุยกว่า 1.13 หมื่นลบ.
-    THG ยันไม่เกี่ยวข้องกับ “หมอบุญ” เล็งถอด “จารุวรรณ-นลิน วนาสิน” พ้นบอร์ด
-    กลุ่ม Finance คงน้ำหนัก OVERWEIGHT, Top Picks : MTC/ TFG แนะนำ “ซื้อ” เป้า 6 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

26 พ.ย. – TH Exports (Oct) คาด +5.1% YoY (เทียบ ก.ย. +1.1%)

 


 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ บวกจากรมว.คลังใหม่สหรัฐฯ vs ความกังวลการเก็บภาษี และหยุดยิงตอ.กลาง วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ บวกจากรมว.คลังใหม่สหรัฐฯ vs ความกังวลการเก็บภาษี และหยุดยิงตอ.กลาง