แนวโน้มเศรษฐกิจโลกไม่ดี กดราคาน้ำมันร่วง

รอยเตอร์สรายงานในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าลดลง 51 เซ็นต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 72.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตล่วงหน้าลดลง 67 เซ็นต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 69.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในวันพุธ  (18 ธ.ค.) แต่ประธานเจอโรม พาวเวลล์ เตือนว่าเงินเฟ้อที่ยังคง ค้างอยู่สูงจะทำให้ธนาคารกลางระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ทำให้ผู้ซื้อที่ ถือสกุลเงินอื่นต้องซื้อน้ำมันในราคาแพงขึ้น

“เฟดมีท่าทีผ่อนปรนน้อยกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกในปี 2025 (2568) ทำให้ตลาดต้องปรับคาดการณ์” อเล็กซ์ โฮดส์ นัก วิเคราะห์จากบริษัทนายหน้าซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ StoneX กล่าว

ในประเทศอื่น ธนาคารแห่งอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยในวัน พฤหัสบดี ขณะที่ผู้บริหารฯไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะตอบ สนองต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวพร้อมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อย่างไร ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ เนื่องจากคำมั่นสัญญาของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ที่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรนั้นสร้างความไม่แน่นอน ให้กับเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างญี่ปุ่น

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงอาจทำให้การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลงในปีหน้า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำ มันเบรนท์ลดลงมากกว่า 5% ในปีนี้ ทำให้ร่วงลงเป็นปีที่สอง ติดต่อกัน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาส่งผลกระทบอย่าง หนักต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ

มาตรการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานยังส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอีกด้วย ซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี คาดว่าการบริโภคน้ำมัน ของจีนจะถึงจุดสูงสุดในปี 2027 (2570) เนื่องจากอุปสงค์ น้ำมันอ่อนตัวลง ตลาดน้ำมันคาดว่าจะมีปริมาณน้ำมันเกินความต้องการในปีหน้า โดยนักวิเคราะห์ของธนาคารเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า อุปทานจะล้นเกินถึง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd)

ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนบางส่วน เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบ ของสหรัฐ ลดลง 934,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13  ธันวาคม อย่างไรก็ตาม การลดลงดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะลด 1.6 ล้านบาร์เรล