'เอกนัฏ' เปิดกล่องของขวัญปี'68 อัดงบลงฐานรากหนุนผู้ประกอบการ-ประชาชน

'เอกนัฏ' เปิดกล่องของขวัญปี'68 อัดงบลงฐานรากหนุนผู้ประกอบการ-ประชาชน

"เอกนัฏ" รมต.อุตสาหกรรม ส่งความสุขทั่วไทย เตรียมของขวัญปีใหม่ 2568 จำนวน 4 กล่อง คั้นโครงการเด็ดเพื่อ ผปก.-ปชช. ปลดล็อกโซลาร์รูฟท๊อป-จัดสรรเงินสู่ท้องถิ่น-เพิ่มราคารับซื้อใบอ้อย ยอดอ้อย-เติมเงินทุน SME ฮาลาล เติมแรงกระตุ้นภาคอุตฯ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้านโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่" โดยเน้นมาตรการและกลไกมุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ สร้างความสำเร็จให้ภาคธุรกิจ-ดูแลสังคมโดยรอบโรงงาน-รักษาสิ่งแวดล้อม-กระจายรายได้ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานมอบของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ผู้ประกอบการและประชาชน อาทิ

1. สนับสนุนสินค้าและบริการดี 2. เสริมแกร่งธุรกิจ 3. สร้างโอกาส กระจายรายได้ 4. เสริมสภาพคล่อง เพื่อช่วยสร้างโอกาส เสริมศักยภาพ อำนวยความสะดวก และแบ่งเบาภาระ ให้ประชาชนและผู้ประกอบการ ชูผลงานเด่นของกระทรวงอุตสาหกรรม ปลดล็อก "โซลาร์รูฟท๊อป" จัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้ อปท. 187 แห่งครอบคลุม 54 จังหวัด เพื่อพัฒนาชุมชนกว่า 525 ล้านบาท เพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อย 300 บาท/ต้นใบ เติมเงินทุนต่อยอด ขับเคลื่อน SME อุตฯ ฮาลาลสู่ตลาดโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 กล่อง ดังนี้ 
     
กล่องที่ 1 สนับสนุนสินค้าและบริการดี ประกอบด้วย 1) ปลดล็อกโซลาร์รูฟท๊อปทุกกำลังการผลิต ไม่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เพื่อสนับสนุนใช้ไฟฟ้าสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมตอบสนองกติกาสากลและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศแบบซีโร่คาร์บอน 

2) ส่งเสริมการลงทุน นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ในพื้นที่ Rubber City ซื้อที่ดินตั้งแต่ 3-121 ไร่ รับส่วนลดร้อยละ 3-15 ของอัตราราคาขายที่ดิน 3) ส่วนลดราคาพิเศษ อาทิ ลดค่าสมาชิกสถาบันอาหาร 20%  จำนวน 100 สิทธิ์ 4) ลดราคาโปรแกรม HR สำหรับ SME 15% เป็นระยะเวลา 3 ปี ทดลองใช้ฟรี 30 วัน จำนวน 200 สิทธิ์  

กล่องที่ 2 เสริมแกร่งธุรกิจ ประกอบด้วย 1) บริการซอฟต์แวร์จากดีพร้อมแคร์ ฟรี 6 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจ อาทิ โปรแกรม SekWeb เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อัจฉริยะพร้อมข้อมูล โปรแกรม PEAK บัญชีออนไลน์อำนวยความสะดวกด้านการเงินและงบการเงินต่าง ๆ โปรแกรมบอทน้อย เสริมพลังธุรกิจด้วยแชทบอทอัจฉริยะ ที่จะช่วยให้การสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI มูลค่า 25 ล้านบาท

2) ฟรีอบรมด้าน ESG (E-Environment, S-Social และ
G-Governance) แก่บุคลากรของผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว จำนวนกว่า 400 คน และ 3) ฟรีอบรมการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ การพัฒนากระบวนการผลิต 
และการประยุกต์ใช้ระบบไอที ผ่าน www.plaskills.com จำนวน 100 ท่าน

กล่องที่ 3 สร้างโอกาส กระจายรายได้ ประกอบด้วย 1) โครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชน ปีที่ 8 อาทิ บริการตรวจสุขภาพฟรี ให้กับประชาชนรอบสถานประกอบการเหมืองแร่กว่า 30,000 ราย โครงการจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐ ซึ่งเป็นเงินที่ผู้ได้รับอาชญาบัตรพิเศษหรือประทานบัตรตอบแทนแก่รัฐตามที่ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 กำหนดให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 187 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัด เพื่อนำไปพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชน รวมกว่า 525 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งฟื้นฟูผลกระทบที่เกิดจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

2) สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้ (1) สร้างแรงจูงใจแก่ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด คุณภาพดีร้อยละ 100 โดยจ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย คาดการณ์ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 75 ล้านตัน (2) เพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อยในอัตรา 300 บาทต่อตันใบและยอดอ้อย หรือเท่ากับ 51 บาทต่อตันอ้อย (3) การจัดหาเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมใช้ ทั้ง 4 ภูมิภาค จำนวน 288 เครื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระชาวไร่อ้อย (4) การแจกอ้อยพันธุ์ดี ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยนำไปขยายพันธุ์ในฤดูการผลิตปี 2568/2569 ทั่วประเทศ 200,000 ไร่ ผลผลิต 2 ล้านตัน มูลค่าไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบา

กล่องที่ 4 เสริมสภาพคล่อง ประกอบด้วย 1) ยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการ (1) ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการลงทุนในระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ ร้อยละ 10 ของรายจ่ายที่จ่ายไปเพื่อการลงทุนในเครื่องจักร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งแล้วเสร็จและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในระบบอัตโนมัติกว่า 4,500 ล้านบาท (

2) ยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอใบรับรอง ฉบับละ 1,000 บาท ค่าธรรมเนียมใบรับรองฉบับละ 10,000 บาท (3) ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ลดค่าแปลใบอนุญาต มอก. 300 บาท / มผช. 100 บาท / มอก.เอส 100 บาท ลดค่าตรวจโรงงานในประเทศ 50% (มอก.) ลดค่าหลักสูตร TGI Industry Management Reform ยกระดับการจัดการอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน สูงสุด 20% /In-House Training ทุกหลักสูตร 5% ลดค่าทดสอบเครื่องเรือนสถานศึกษา 50% อาทิ โต๊ะนักเรียน (มอก.1494-2567)

และเก้าอี้นักเรียน (มอก.1495-2567) ลดค่าสมาชิกสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 10-20% ลดค่าธรรมเนียม ทดสอบ มอก. บังคับ 10 มาตรฐาน 20% และตรวจโรงงาน มอก. ในประเทศ ลดค่าธรรมเนียม 20% / ใบรับรอง EEI Certificate 50% 

2) มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย (1) เงินทุนต่อยอด ขับเคลื่อน SME อุตสาหกรรมฮาลาลสู่ตลาดโลก “เรียนแล้ว รับรองได้ ลงทุนง่าย ขายส่งออกเป็น” สานพลังแหล่งเงินทุน ผ่าน 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย รวมถึงแนวทางเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล โดยสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

(2) สินเชื่อต่างๆ อาทิ (2.1) สินเชื่อเสือติดปีก 1,200 ล้านบาท วงเงินสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3-5 ต่อปี (2.2) สินเชื่อคงกระพัน 700 ล้านบาท วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 3 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 4-7 ต่อปี (2.3) สินเชื่อพิเศษ Diprom Pay วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 5ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3-7 ต่อปี

(2.4) สินเชื่อกู้ระยะยาว วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ย ร้อยละ 3-10 ต่อปี (2.5) สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan เมื่อเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม มูลค่า 60 ล้านบาท (6) สินเชื่อธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท 
ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3-7 ต่อปี (7) สินเชื่อลูกค้าใหม่ SME ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 15 ปี (8) สินเชื่อสนับสนุน SME Green Productivity ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปีใน
3 ปีแรก ผ่อนนาน 10 ปี 

“โครงการฯ ทั้งหมดนี้ เป็นของขวัญที่กระทรวงอุตสาหกรรม มอบเป็นของขวัญปีใหม่ในปี 2568 จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้เกิดการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้เดินหน้า เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ร่วมกับการขับเคลื่อนนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่" สู้ เซฟ สร้าง ภาคอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน" นายเอกนัฏกล่าว