'WHA' ย้ำ AI วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่ ไม่เริ่มวันนี้ ระวังตกขบวน

'WHA' ย้ำ AI วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่ ไม่เริ่มวันนี้ ระวังตกขบวน

"WHA" ยัน AI ไม่ใช่โครงการแต่คือ วัฒนธรรมใหม่ขององค์กร สร้างการแข่งขันธุรกิจ หากไม่เริ่มวันนี้อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมศึกษาเทรนด์โลกพัฒนาธุรกิจเติบโตยั่งยืน

นายนันท์ศิลป์ เจนวารินทร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว ในงานสัมมนา AI Revolution 2025: A New Paradigm of New World Economy ที่จัดโดย หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อ "AI Empowering : Business Opportunities" ว่า จากกลยุทธ์ของบริษัท ตลอดระยะเวลา กลุ่ม WHA ถือเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งมีการเชื่อมโยงธุรกิจเข้าหากัน

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท จะต้องโฟกัสเทรนด์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยตอบคำถามให้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดย AI จะไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นโอกาสสร้างการแข่งขันธุรกิจ และไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่จะมาสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้องค์กร ถ้าไม่เริ่มวันนี้อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เราไม่ได้ถูกแทนด้วย AI แต่เกิดจากคนที่ใช้ AI พัฒนาธุรกิจให้เติบโตยั่งยืน

\'WHA\' ย้ำ AI วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่ ไม่เริ่มวันนี้ ระวังตกขบวน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัท ได้ศึกษาการใช้เทคโนโลยีมาตั้งแต่เริ่มตั้งองค์กร โดยปี 2020 กลุ่มบริษัท เริ่มใช้ดิจิทัล และปลายปีที่ผ่านมา ChatGPT มีบทบาทสำคัญ กลุ่มบริษัท ได้เราเริ่มศึกษา AI อย่างจริงจังในปี 2024 เพื่อนำมาปรับใช้ใน 22 โครงการ โดยปีนี้จะยังเดินหน้าใช้ AI อย่างต่อเนื่อง โดยจะนำมาใช้ผ่าน 40 โครงการ 50 แอปพลิชัน เป็นต้น

กลุ่มบริษัท ถือเป็นองค์กรขนาดใหญ่มีข้อมูลในอีโคซิสเต็มเยอะ การ Digital Transformation จาก 4 ปี ที่กลุ่มบริษัท ได้วางรากฐานดิจิทัลส่งผลให้สิ่งที่ทำมา โดยในช่วง 2 ปีแรกเป็นการวางโครงสร้างข้อมูล จนนำมาสู่การใช้ AI ในปีที่ผ่านมา เพื่อบริหารข้อมูลมหาศาล ดังนั้น ปีนี้ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจ ถือเป็น AI วิชั่น กลุ่มบริษัท พร้อมนำความรู้ความสามารถที่อยู่ในบุคลากรมาใช้สร้างความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นโดยมีโครงการทรานฟอร์เมชั่นมาช่วย 

\'WHA\' ย้ำ AI วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่ ไม่เริ่มวันนี้ ระวังตกขบวน

"เมื่อเรามีดาต้า และ AI ที่ดีแล้ว ก็จะต้องมีคนที่พร้อมเพื่อเอามาร่วมกัน ดังนั้น เราไม่ได้เริ่มต้นจากเอา AI มาใช้ แต่จะเป็นการกำหนดโจทย์ให้ชัดเจนว่าจะเอามาช่วยด้านไหน และสิ่งที่เราให้ความสำคัญในเรื่องของข้อมูลเพื่อเริ่มจากโครงการเล็กๆ ก่อนและขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้น"

ดังนั้น Digital Transformation จะต้องทำให้คนมี AI ใช้งานได้ดี และที่ง่ายที่สุดเพื่อให้บุคลากรให้ใช้งาน คือ ChatGPT ในลักษณะของการป้อนคำถามว่ามีปัญหาอะไรในระบบ และนำเอา AI มาใช้กับแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อฝังการใช้งานต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากลุ่มบริษัท จะประสบกับปัญหาการตรวจหลังคารั่ว โดยในอดีต 5 ปีที่ผ่านมา จะต้องใช้คนขึ้นไปตรวจสอบ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความเสี่ยงต่ออันตรายต่อชีวิต โดยสเต็ปถัดไปมีการนำโดรนบินถ่ายรูป และนั่งดูทีละรูป ซึ่งพบว่า 1 ครั้งที่สำรวจจะใช้เวลานานถึง 1 เดือน ดังนั้น สเต็ปถัดไปจึงมาการนำเอาโดรนเข้าใช้งานร่วมกับ AI เพื่อช่วยตรวจวิเคราะห์ และพบว่าสามารถลดเวลาเหลือเพียง 2 วัน 

เช่นเดียวกับการใช้ AI ในการบริหารจัดการระบบโซลาร์ในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ซึ่งกลุ่มบริษัท มีการติดตั้งโซลาร์มากกว่า 100 ไซต์ ซึ่งจะมีข้อมูลมหาศาล ดังนั้น AI จึงเข้ามาช่วยวิเคราะห์การดำเนินการว่ามีแผงโซลาร์ไหนเสียหายหรือไม่ รวมถึงช่วยวิเคราะห์สภาพอากาศ โดยเฉพาะแสงแดดเพื่อไม่ให้เสียโอกาส ซึ่งตอนนี้ได้ใช้ภายในองค์กร และมีกลุ่มผู้ประกอบการ SME หลายรายสนใจสอบถามมาจำนวนมาก

"AI สามารถช่วยทำผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุน เมื่อเราสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ ยังสามารถช่วยในเรื่องของความยั่งยืนด้วย เรามีวิชั่น AI ที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะบุคลากรที่แข็งแกร่งจะปลดล็อกขีดจำกัดได้

ทั้งนี้ WHA Group มี 5 จุดที่จะต้องโฟกัสเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือ 1. Executive Sponsorship โดยผู้บริหารของบริษัท มีนโยบายที่ชัดเจนพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการอย่างจริงจัง 2. Tangible Use-case จะต้อง กำหนด Pain Point ที่ชัดที่สุดเพื่อให้ AI หา Use Case ให้เจอ 3. Data Foundation โดยจะต้องมีข้อมูลที่ครบด้าน 4. Cross Functional Team โดย AI และ 5. Quick Wins โดยสิ่งที่เกิดขึ้นขอให้เกิดโมเมนตัมให้สำเร็จ ดังนั้น Mindset ของ WHA Group นั้น AI ไม่ใช่โครงการแต่คือวัฒนธรรมใหม่ขององค์กร  

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์