แผ่นดินไหวทำเศรษฐกิจสูญ3หมื่นล้าน-ทรัมป์ขึ้นภาษีฉุดจีดีพี1%

แผ่นดินไหวทำเศรษฐกิจสูญ3หมื่นล้าน-ทรัมป์ขึ้นภาษีฉุดจีดีพี1%

EIC ประเมินแผ่นดินไหวทำเศรษฐกิจ สูญ 3 หมื่นล้าน ท่องเที่ยว-คอนโดสูงกระทบหนักลุ้น 2 เม.ย. สหรัฐประกาศอัตราภาษี หวังไทยเจรจาลดผลกระทบการค้า คาดจีดีพีไทยลด 1%

ในการสัมมนา Thailand ‘s Economic and Consumer Finance Outlook จัดโดย เครดิตฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings)  

นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน ธนาคารไทยพาณิชย์  เปิดเผยในหัวข้อ “Thailand s’2025 Economic Outlook” ว่า  ปี 2568 เศรษฐกิจไทย จะเติบโตได้ 2.4% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงสหรัฐกำหนดประกาศขึ้นภาษีคู่ค้าที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้า ในวันที่2 เม.ย. นี้ คาดว่าไทยอาจได้รับผลกระทบ จากการที่ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ 4.5 หมื่นล้านบาท ด้วย เบื้องต้นหากสหรัฐขึ้นภาษีไทยราว 10% จะทำให้จีดีพีไทย ลดลง 1% ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่จะประกาศใช้จริง และการเจรจาที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ 

ปัจจัยผลกระทบจากเหตุ"แผ่นดินไหว" คาดว่าจะทำให้มูลค่าเศรษฐกิจสูญเสีย ราว 3 หมื่นล้านบาท จากการ ท่องเที่ยวที่พบสัญาณการยกเลิกห้องพัก และเที่ยวบินแล้ว

เนื่องจากความไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย โดนช่วง เม.ย.นี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงราว 4 แสนคน จากคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 38.2 ล้านคน 

นอกจากนี้เหตุแผ่นดินไหว ยังทำให้ยอดโอนคอนโดหรืออาคารสูง กรุงเทพและปริมณฑลลดลง 1% ทำให้ยอดคงค้างคอนโด ราว 7.4 ยูนิตไม่ลดลง 

“เรื่องแผ่นดินไหว คาดว่าจะกินเวลา ราว 3-4 เดือน กว่าจะฟื้นความเชื่อมั่นทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวและการโอนอาคารสูง แต่หากภาครัฐมีมาตรการที่ดีก็จะทำให้สถานการณ์ฟื้นตัวเร็วขึ้น”

นายยรรยง กล่าวอีกว่า ปี 2568 เศรษฐกิจโลก จะขยายตัว 2.6% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ไม่ต่างกับอัตราขยายตัวในระยะยาว ซึ่งอยู่ที่ 3%  แต่เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวเทียบจากช่วงโควิดอยู่ในลำดับที่ 162 จาก 189 ซึ่งเป็นลำดับรั้งท้าย  โดยพบว่า จีดีพีจริงของไทยเติบโตต่ำกว่าศักยภาพมาก และช่องว่างดังกล่าวก็เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไทยจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งเพื่อเพิ่มการเติบโตซึ่งจะช่วยเรื่องหนี้ทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน 

ด้านดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยท(ธปท.) จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งเพื่อทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 1.5% จาก2%ในปัจจุบัน