'พิชัย' นำทีมไทยแลนด์ถกสหรัฐฯ ได้คิวสัปดาห์หน้า หลังวันอีสเตอร์

'พิชัย' นำทีมไทยแลนด์ถกสหรัฐฯ ได้คิวสัปดาห์หน้า หลังวันอีสเตอร์

"พิชัย" เรียกประชุมทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมก่อนบินสหรัฐ เจรจาลดผลกระทบมาตรการภาษีตอบโต้ทรัมป์ คาดวันเข้าพบภายในสัปดาห์หน้าหลังวันอีสเตอร์

วันที่ 16 เม.ย.2568 ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านเพื่อเข้าเจรจาผ่อนปรนมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ทุกประเทศทั่วโลกที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ ซึ่งไทยโดนกำหนดอัตราภาษีนำเข้า 36% อย่างไรก็ตามทรัมป์ได้ออกมาประกาศเลื่อนการเก็บภาษีจริงออกไปอีก 90 วัน 

ทั้งนี้ คณะผู้เจรจาเตรียมเดินทางไปสหรัฐ ครบองค์ประชุม ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น โดยเบื้องต้นมีกำหนดวันเข้าพบตัวแทนสหรัฐภายในสัปดาห์หน้าหลังวันอีสเตอร์ (20 เม.ย.) 

โดยในช่วงเช้าวันนี้ นายพิชัย ได้เรียกประชุมหารือด้านพลังงาน โดยมีผู้บริหารจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กรมสรรพสามิต บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และก๊าซอีเทน เพื่อทำสัญญาระยะยาว

นายพิชัย กล่าวว่า แนวทางที่ไทยจะเจรจากับสหรัฐจะเป็นไปในทิศทางการทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้มีการทบทวนแนวทางการสร้างสมดุลการค้าระหว่างกัน จากที่ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 72%

ซึ่งแน่นอนว่าไทยจะไม่ส่งออกน้อยลง แต่จะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นเพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพด สำหรับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และอาหารสัตว์

ขณะที่ในภาคพลังงาน โดย ปตท. ในฐานะผู้จัดหาพลังงานงานได้มีการทำสัญญาซื้อก๊าซ LNG จากเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐ ซึ่งเริ่มจัดส่งในปี 2569 ปริมาณกว่า 1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าปีละประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีสัญญาซื้อขายก๊าซอีเทน (Ethane) เพิ่ม 400,000 ตัน ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีกด้วย 

ทั้งนี้ ในภาพรวมประเทศไทยมีความต้องการใช้พลังงานในประเทศจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซ LNG ราว 10 ล้านตัน ซึ่งจะต้องมีการจัดหาจากหลายแหล่งตามสัญญาระยะยาว เพื่อทยอยนำเข้ามาในประเทศ

โดยภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีสัญญาที่จะหมดอายุ ซึ่ง ปตท.จะต้องมีแผนจัดหามาเพิ่มเติม จากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก โดยคํานึงถึงราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งมีทั้งจากตะวันออกกลาง อาเซียน รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่จะเจรจาสัญญาซื้อก๊าซ LNG จากสหรัฐ อีกราว 1 ล้านตัน

ซึ่งในระยะต่อไป ที่ไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งท่าเรืออุตสาหกรรม และถังบรรจุก๊าซ LNG ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ปตท. ก็มีแผนที่จะนำเข้ามาเพื่อขาย LNG ในภูมิภาคนี้ด้วย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่ไทยจะสามารถนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นได้อีก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า เราได้มีการเตรียมการอย่างรอบด้านก่อนการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐ ซึ่งคงเดาทางที่ถูกต้องไม่ได้ทั้งหมด แต่ในวันนี้สิ่งที่เตรียมได้คือพยายามแก้ไขปัญหาในสิ่งที่เป็นความต้องการ (requirements) ของสหรัฐ ซึ่งก็ต้องเป็นเรื่องที่ไทยสามารถทำได้ด้วย