“มิตซูบิชิ พาวเวอร์” ชูนวัตกรรมสีเขียว หนุนผู้ผลิตไฟฟ้าไทยสู่เป้า Net Zero
“มิตซูบิชิ พาวเวอร์” ถือเป็นผู้นำโซลูชันด้านพลังงานสะอาดที่ตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานและการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย อาทิ โรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ รวมกำลังการผลิต (จากฐานผู้ใช้งาน) ราว 25 กิกะวัตต์ หรือมากกว่า 50% ของกำลังผลิตไฟฟ้าในประเทศ
นายโคจิ นิชิคาวะ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ พาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ส่งมอบโซลูชันให้แก่โรงไฟฟ้าจำนวน 23 แห่งทั่วประเทศ ข้อมูลเดือนก.ค. 2565 รวมคำสั่งซื้อกังหันก๊าซ 42 เครื่อง กังหันไอน้ำ 58 เครื่อง และหม้อไอน้ำ 23 เครื่อง ซึ่งโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้พลังงานก๊าซ และปัจจุบันได้สนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาดผ่านระบบต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ (AQCS) ช่วยบำบัดไอเสีย
นอกจากนี้ ยังเลือกใช้กังหันก๊าซที่มีประสิทธิภาพสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 65% (เมื่อเทียบกับพลังงานถ่านหิน) สามารถอัปเกรดเป็นระบบเชื้อเพลิงเผารวมแบบไม่ก่อคาร์บอนครอบคลุมทั้ง ไฮโดรเจน และแอมโมเนีย โดยในระยะยาวสามารถปรับแต่งเพื่อให้ใช้ไฮโดรเจนได้ 100%
“เราทำข้อตกลงการให้บริการในระยะยาว (Long Term Service Agreement : LTSA) กับโรงไฟฟ้าในปัจจุบัน เพื่อช่วยปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพและเสถียรภาพเพื่อรองรับการลดการปล่อยคาร์บอน”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมโครงการต่าง ๆ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มากว่าครึ่งศตวรรษ อาทิ โครงการร่วมทุน “อีแกท ไดมอนด์ เซอร์วิส (EDS)” ปี 2552 โดยส่งมอบบริการด้านการดูแลรักษาและซ่อมแซมกังหันก๊าซ และพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมท้องถิ่น EDS ให้บริการลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร่วมผลักดันประเทศไทยสู่การผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด
“ปัจจุบันเรามีลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) คือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ร่วมมือในโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมระบบกังหันก๊าซธรรมชาติ (GTCC)”
ล่าสุด ส่งมอบเครื่องกังหันก๊าซ M701 JAC แก่โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ 2 แห่ง ซึ่งจะมีการก่อสร้างในจ.ชลบุรี และ ระยอง เป็นความร่วมมือระหว่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี และ บริษัท มิตซุย แอนด์ โค จำกัด หลังจากเสร็จสมบูรณ์ กังหันก๊าซทั้ง 8 เครื่องในโครงการนี้จะใช้ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมระบบกังหันก๊าซธรรมชาติ (GTCC) และมีกำลังผลิตรวม 5,300 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ยังมีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว (LTSA) 25 ปี อีกทั้ง ยังจัดหาบริการครบวงจรให้กับ บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ด้านวิศวกรรม รวมถึงจัดซื้อจัดจ้าง และก่อสร้าง (EPC) สำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 1,400 เมกะวัตต์
นายโคจิ กล่าวว่า ภายใต้เป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ผู้นำโลกต่างกำหนดเป้าหมายเวที COP26 เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนของโลกภายในปี 2573 โดยนำเทคโนโลยีสะอาดมาช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมพลังงานถือเป็นผู้ก่อก๊าซคาร์บอนถึง 40% ทั่วโลก โดยรัฐบาลไทยมีเป้าหมายใช้พลังงานทดแทนให้ได้สัดส่วน 35% ภายในปี2580
ทั้งนี้ หนึ่งในโซลูชันที่สำคัญ คือ กังหันก๊าซขั้นสูงที่ผ่านการพัฒนามาอย่างยาวนานและใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วเป็นอย่างดี ถือเป็นกังหันก๊าซหล่อเย็นด้วยอากาศรุ่น J-Series เป็นระบบพลังความร้อนร่วม สามารถมอบประสิทธิภาพมากกว่า 64% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโลก สามารถจ่ายพลังงานกว่า 600 เมกะวัตต์ ปล่อยคาร์บอนน้อยลงถึง 65%เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนจากถ่านหิน
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้พลังงานไฮโดรเจน 30% ร่วมกับก๊าซธรรมชาติ 70% ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนราว 10% ในอนาคตคาดว่าจะพัฒนากังหันก๊าซระบบไฮโดรเจน 100% จะช่วยลดการก่อคาร์บอนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้พัฒนาระบบกังหันก๊าซแอมโมเนีย 100% ขนาด 40 เมกะวัตต์ เครื่องแรกของโลก คาดจะเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ปี 2568
นอกจากนี้ ยังมีโซลูชันการจัดการฐานข้อมูลอัจฉริยะภายใต้ชื่อ TOMONI ประกอบไปด้วยโมดูลต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากการตรวจติดตามระยะไกล ระบบควบคุมดิจิทัลขั้นสูง ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ และระบบ AI เพื่อให้โรงไฟฟ้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผลักดันการลดการปล่อยคาร์บอน โดยถูกนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าที่ราชบุรี ตั้งแต่ปี 2558 ช่วยลดต้นทุนการใช้เชื้อเพลิง 2.4 ล้านดอลลาร์ต่อปี
บริษัทฯ ยังมีโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ก๊าซซัลเฟอร์ออกไซด์ (SOx) และมลพิษอื่น ๆ รวมทั้งเครื่องดักจับก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (SCR) ระบบดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (FGD) และระบบดักฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิต (ESP) โดยโรงไฟฟ้ามาบตาพุด ใช้เทคโนโลยี FGD และ ESP เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศ พร้อมจัดหาตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับระบบดักจับก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (SCR) ให้กับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
“เราคือแบรนด์โซลูชันด้านพลังงานของ บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) ซึ่งได้กำหนดเป้าหมาย "Mission Net Zero" ทั่วโลก เพื่อให้การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั้งในการดำเนินการของเราและในห่วงโซ่มูลค่าทั้งหมดภายในปี 2583”