นวัตกรรม“ขังคาร์บอน”-“บลูไฮโดรเจน” หนุน“มูบาดาลา”สู่พลังงานยั่งยืน

นวัตกรรม“ขังคาร์บอน”-“บลูไฮโดรเจน” หนุน“มูบาดาลา”สู่พลังงานยั่งยืน

ธุรกิจพลังงานเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงสุดเมื่อเทียบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ดังนั้น การเคลื่อนตัวของธุรกิจพลังงานเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจึงเป็นโอกาสที่จะลดความเสี่ยงจากปัญหาโลกร้อนที่นำไปสู่ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) ได้

บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม   ผู้สำรวจ ผลิตน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติในระดับสากล  ซึ่งได้เข้ามาทำธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งที่แหล่งรูบีในอินโดนีเซีย ซึ่งเพิ่งประสบความสำเร็จสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติสะสมกว่า 250,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต แหล่งผลิตปิโตรเลียมจัสมินในประเทศไทย ซึ่งมีการผลิตน้ำมันสะสมมากกว่า 85 ล้านบาร์เรล แหล่งผลิตปิโตรเลียมนงเยาว์ และมโนราห์ ซึ่งมีการผลิตน้ำมันสะสมรวมมากกว่า 20 ล้านบาร์เรล

“มูบาดาลา”มีฐานบัญชาการใหญ่ที่อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศการเปลี่ยนผ่านสำคัญด้วยการเปลี่ยนโลโก้ใหม่เพื่อสะท้อนการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านของธุรกิจพลังงาน 

ความน่าสนใจของการปรับทัพธุรกิจไม่ได้แค่การเปลี่ยนโลโก้ ชีค มอนซัวร์ มูฮัมหมัด อัล ฮาเหม็ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่ กล่าวว่า ความสำเร็จตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ทิศทางธุรกิจกำลังจะมุ่งไปสู่ การให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากการขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และด้วยขีดความสามารถของธุรกิจ และพันธมิตรทางธุรกิจทั่วโลกทำให้มั่นใจว่าบทบาทใหม่นี้จะเป็นแรงส่งให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานก้าวไปสู่ “อนาคตคาร์บอนต่ำ” ได้ 

ทั้งนี้ “มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่” ได้สร้างความร่วมมือสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยการเพิ่มสัดส่วนก๊าซธรรมชาติในพอร์ตโดยเน้นสัดส่วนที่แอลเอ็นจี ซึ่งขณะนี้ได้สำรวจพบแหล่งใหม่ๆ และยังมีพลังงานจากไฮโดรเจนสีฟ้า(Blue Hydrogen) [การใช้เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนหรือฟอสซิลเป็นวัตถุดิบใน] 

นอกจากนี้ยังมี การนำเทคโนโลยีดักจับ และกักเก็บก๊าซคาร์บอน (Carbon Capture & Storage Technology) [เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้แล้วอัดเก็บไว้ใต้ดินที่ปลอดภัย หรือนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียนรูปแบบอื่นๆ ]

“ยุทธศาสตร์ใหม่นี้ได้มุ่งเน้นไปที่การลดสัดส่วนคาร์บอนในธุรกิจ ขณะเดียวกันก็จะนำนวัตกรรม และเทคโนโลฏิมาใช้ให้ครอบคลุมทุกหน่วยปฏิบัติการของธุรกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

   ด้านมานซูด โมฮัมหมัด อัล อาเม็ดห์ ซีอีโอ มูบาดาลา เอนเนอร์ยี่ ให้ความเห็นว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะไปถึงสัญญาณออกไปว่าบริษัทให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานที่จะมุ่งเน้นไปที่แบรนด์ใหม่ ซึ่งจะบันทึกถึงสิ่งที่ผ่าน และความสำคัญในอนาคตที่มุ่งให้ความสำคัญต่อการย้ำจุดยืน และลงมือปฎิบัติสู่ความยั่งยืนซึ่งจะเป็นเรื่องราวบทใหม่ของ “มูบาดาลา” นั่นเอง 

 

 

เมื่อปี 2560 บริษัท ได้เปลี่ยนกลยุทธ์มาให้ความสำคัญกับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และอนาคตคาร์บอนต่ำ โดยกลยุทธ์นี้จะให้ความสำคัญกับโครงการสำคัญต่างๆ เช่น เพิ่มสัดส่วนการถือครอง 10%  ของแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติโซห์ร ในประเทศอียิปต์ ภายใต้สัมปทานก๊าซธรรมชาติโซรุค และเพิ่มสัดส่วนการถือครอง 22% ของแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติทามาร์ นอกชายฝั่งประเทศอิสราเอล

นอกจากนี้ ยังมีโครงการก๊าซธรรมชาติที่สำคัญอื่นๆ เช่น แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเปกาการ์ ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งสามารถเริ่มผลิตก๊าซได้เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งประสบความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 16,000 บาร์เรลต่อวัน

ล่าสุดได้เปิดตัวรายงานความยั่งยืนในปี 2563 และกำหนดกรอบความยั่งยืนที่ชัดเจนของปี 2564 ที่ผ่านมาบรรลุเป้าหมายประสิทธิภาพด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมในระดับสูงสุดนำกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อปรับใช้นวัตกรรมและความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี ให้เป็นหัวใจหลักของการดำเนินงานส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้วยการจ้างบุคลากรท้องถิ่นที่เป็นชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 61%  ที่อาบูดาบี และบุคลากรท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 96% อีกด้วย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์