ศึกชิงแดง "พิธา" ฉกสาวก "ทักษิณ" คว่ำแลนด์สไลด์

ระเบิดศึกฝ่ายประชาธิปไตย "พิธา" ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน สวน "ทักษิณ" เพื่อไทยแลนด์สไลด์ เครื่องจักรสีส้มรุกชิงมวลชนคนเสื้อแดง ก่อวิวาทะดราม่าเดือดในโซเชียล

อุดมการณ์มาก่อนปากท้อง "พิธา" ชูเปลี่ยนรัฐโบราณ ล้างระบอบปรสิต แยกแดงรากหญ้า ออกจากแดงทักษิณ แยกแดงอุดมการณ์ ออกจากแดงครอบครัวชินวัตร

ถึงคิวพรรคก้าวไกล จัดประชุมสามัญใหญ่ประจำปี 2565 ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2565 ซึ่งก่อนถึงวันประชุม มีดราม่าในโซเชียลระหว่างกองเชียร์ก้าวไกล กับกองหนุนเพื่อไทย ประเด็นจะเลือกอุดมการณ์หรือปากท้องชาวบ้าน

ติ่งพรรคเพื่อไทยอธิบายว่า ทักษิณต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และก้าวข้ามเรื่องการปฏิรูปสถาบัน หากแกนนำก้าวไกลแน่จริง ก็ประกาศยุทธศาสตร์ปฏิรูปสถาบันบนเวทีประชุมใหญ่ไปเลย

เมื่อถึงวันประชุมใหญ่ ไม่มีเรื่องปฏิรูปสถาบันออกจากปาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และมีตัวเลข 100 กว่าที่นั่ง สำหรับการตั้งเป้าให้ได้ ส.ส.ทั้งสองระบบ 

การเปิดตัวไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ หลานอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล ก็หวังดึงคนรุ่นใหม่หรือนิวโหวตเตอร์เท่านั้น แต่การที่จะได้ ส.ส.กว่า 100 ที่นั่ง ก้าวไกลจะต้องออกไปขยายฐานเสียงในชนบท

กลยุทธ์ดึงคนเสื้อแดงมาเป็นฐานเสียงนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมือง ยุคดิจิตอล ซึ่งในเขตชนบท ก้าวไกลจะต้องต่อสู้ช่วงชิงฐานเสียงเพื่อไทย และป้อมค่ายบ้านใหญ่ทั้งพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย

'ดราม่ารักคนเสื้อแดง'

จริงๆแล้ว คำปราศรัยของ "พิธา" ในวันประชุมใหญ่ ก็ไม่มีความแปลกใหม่หรือแหลมคม สมการรอคอยของติ่งทักษิณ แต่ความร้อนแรงชนิดทะลักจุดเดือดมาโผล่ที่การแสดงบนเวทีก้าวไกล

เมื่อ แป๊ะ บางสนาน หรือพิธาน ทรงกัมพล ขึ้นเวทีสีส้ม ร้องเพลง "รักคนเสื้อแดง" ทำเอาบรรยากาศการประชุมพรรคก้าวไกลไฟลุกพรึ่บ ขณะที่ติ่งเพื่อไทยในโซเชียลก็เปิดศึกถล่มแกนนำสีส้ม กล่าวหาว่า ขโมยเพลงคนเสื้อแดงไปร้อง

อันที่จริง เพลงรักคนเสื้อแดง เป็นเพลงฮิตประจำการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 โดยเนื้อหาของเพลงนี้ ตอกย้ำว่า คนเสื้อแดงคือผู้รักประชาธิปไตย  

เส้นทางศิลปินเสื้อแดงของ แป๊ะ บางสนาน ไม่ได้ผูกติดกับ นปช. ไม่ได้ยึดติดกับพรรคเพื่อไทย เขาเดินทางไปร้องเพลงบนเวทีคนเสื้อแดงทั่วประเทศ เมื่อปลายปี 2563 แป๊ะบางสนาน ได้นำคนเสื้อแดงเข้าร่วมการชุมนุมกับม็อบราษฎร 

แกนนำพรรคก้าวไกลหลายคน เคยเข้าร่วมการต่อสู้ในยุคแดงทั้งแผ่นดิน ระหว่างปี2552-2554 จึงรู้ดีว่า คนเสื้อแดงนั้น แยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ แดงทักษิณกับแดงก้าวหน้า

คนเสื้อแดงที่จัดอยู่ในกลุ่มแดงก้าวหน้านั้น มีอยู่จำนวนมิใช่น้อย พวกเขาเหล่านี้ มีความคิดอยู่ในระนาบเดียวกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เคลื่อนไหวชูธงปฏิรูปสถาบัน ดังเช่นกลุ่มแป๊ะ บางสนาน แดงเสรีที่หนุนคนรุ่นใหม่เต็มที่

ปลายปีที่แล้ว ในวันประชุมใหญ่ของพรรคก้าวไกล ที่ขอนแก่น ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เพื่อนรักของธนาธร ปราศรัยชูอุดมการณ์เพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างเผ็ดร้อน และโดนใจแดงก้าวหน้า "...พอกันทีกับระบอบปรสิตที่กัดกินพวกเรามาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย" หรือ "เปลี่ยนรัฐโบราณ ให้เป็นรัฐของประชาชน"

ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็น แป๊ะ บางสนาน มาร้องเพลง "รักคนเสื้อแดง" บนเวทีประชุมใหญ่พรรคก้าวไกล เพราะนี่คือ ยุทธวิธี "แยกแดงก้าวหน้าออกจากทักษิณ"

'ปั้นวาทกรรรมระบอบทักษิณ'

ปมขัดแย้งระหว่างติ่งทักษิณกับติ่งธนาธรในช่วงหลังนี้ มีสาเหตุมาจากคำพูดของชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในวงอบรมสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ จ.ร้อยเอ็ดซึ่งตรงกับวันครบรอบเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553 คนเสื้อแดงถูกล้อมปราบที่สี่แยกคอกวัว

"12 ปีมาแล้ว แต่ความยุติธรรมยังไม่ปรากฏ และซ้ำร้ายยังถูกหักหลังจากนักการเมืองที่พี่น้องประชาชนคิดว่าจะเป็นหัวหอกในการต่อสู้เพื่อพวกเขา" ประโยคนี้จะตีความเป็นอื่นไปไม่ได้ หากไม่ใช่ ส.ส.เพื่อไทย

อีกประโยคหนึ่งที่ชัยธวัชพูดแล้ว แกนนำกลุ่มแคร์อย่างเสี่ยอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย ยังรับไม่ได้ โดยเลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นวันที่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่

"เราเกิดขึ้นด้วยเหตุผลสำคัญหนึ่ง หลังจากได้สรุปบทเรียนนับตั้งแต่ปี 2549-2553 ได้ว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีอยู่ ไม่สามารถเป็นตัวแทนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพี่น้องได้อย่างแท้จริง"

สรุปตรงไปตรงมา พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย มีขีดจำกัดเพราะสู้ไปกราบไป พรรคอนาคตใหม่จึงต้องอุบัติขึ้นมา 

คนวงในพรรคอนาคตใหม่ทราบดีว่า เอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ต๋อม- ชัยธวัช ตุลาธน เป็นผู้ชี้นำทางความคิดและผู้ยึดกุมยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีของพรรค ในช่วงก่อตั้งปี 2561

"เอก ธนาธร" กับ "ต๋อม ชัยธวัช" เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์สมัยที่ทั้งคู่เป็นนักศึกษาหัวก้าวหน้า ทำกิจกรรมนอกรั้วมหาวิทยาลัยในนามสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย

ชัยธวัช แซ่โค้ว หรือชัยธวัช ตุลาธน นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ รหัส 39 และเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยปี 2541 เป็นคนเรียนเก่ง มันสมองเป็นเลิศ ส่วน ธนาธร เป็นอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2542 และรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยปี 2543

"ผมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ไปสังเกตการณ์ม็อบสมัชชาคนจน รอบทำเนียบรัฐบาลที่มีการชุมนุม 99 วัน.." เสี่ยต๋อม เล่าความหลัง และจากนั้น ชัยธวัชและธนาธร ก็ลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน ทั้งม็อบปากมูล ม็อบบ้านกรูดและม็อบจะนะ

ปี 2545 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ชัยธวัช ตุลาธน และธนาพล อิ๋วสกุล ได้ลงขันตั้งสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เพื่อผลิตวารสารฟ้าเดียวกัน เสี่ยต๋อมเล่าว่า "หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับวิศวะเลย..ด้วยความที่ชอบหนังสือและงานวิชาการ จึงไปตั้งสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ดำรงตำแหน่งเป็นบรรณาธิการ คุณธนาธรก็มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอยู่บ้าง"

ปี 2547 ถ้ายังจำกันได้ วารสารฟ้าเดียวกัน ได้จัดทำเรื่องปกว่าด้วย "ระบอบทักษิณ" ระดมนักวิชาการชั้นนำวิพากษ์แนวคิดทักษิณ และนโยบายประชานิยม ซึ่งวาทกรรมระบอบทักษิณ ได้ถูกนำไปขยายผลโดยสนธิ ลิ้มทองกุล จนเกิดม็อบโค่นทักษิณ

ดังนั้น ธนาธรและชัยธวัช จึงเป็นคนที่รู้ทันทักษิณ และรู้ตื้นลึกหนาบางของเครือข่ายระบอบทักษิณ เมื่อมีโอกาสสร้างพรรคการเมือง พวกเขาจึงชูอุดมการณ์ประชาธิปไตยประชาชน ไม่เอาประชาธิปไตยกินได้

พ.ศ.นี้ สองสหายสายสีส้มต่างดำเนินกลยุทธ์ 2 ขาคือ ธนาธร ขับเคลื่อนคณะก้าวหน้าลุยท้องถิ่น และชัยธวัช คอยกำกับความคิดและแนวทางพรรคก้าวไกล โดยมีพิธา เป็นดารานำ

'ชิงคนเสื้อแดง'

"พิธา" และแกนนำก้าวไกล รู้ดีว่า การต่อสู้ตามกติกาบัตร 2 ใบ หากไม่มุ่งมั่นปั้นส.ส.เขต ก็ยากที่จะถึงเป้า 100 ที่นั่ง ดังนั้น ก้าวไกลจึงทุ่มเทกับสนามภาคอีสานมากเป็นพิเศษ

ปลาย 2564 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กาฬสินธุ์ และได้หยอดคำหวานๆว่า "ใครที่บอกว่าพรรคก้าวไกลไม่เข้าใจคนอีสานอันนั้นไม่จริงครับ ผมเข้าใจครับว่า การที่ใครจะเป็นนายกฯ จะเป็นรัฐบาลของประเทศไทย จะต้องชนะใจคนอีสานให้ได้"

ดังที่ทราบกัน ทักษิณ ชินวัตร ครองใจคนรากหญ้าอีสานมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ด้วยชุดนโยบายประชานิยม อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน ,พักชำระหนี้ ฯลฯ 

การทำงานอย่างหนักของพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ส่งผลสะเทือนต่อคะแนนนิยมของทักษิณ ฉะนั้น กลุ่มแคร์ปั้นจึงแคมเปญครอบครัวเพื่อไทย และเปิดตัว "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เมืองอุดรฯ ย้ำแบรนด์เดิมเพื่อไทยหัวใจสีแดง

แม้โดยภาพรวมทักษิณและพรรคเพื่อไทย ยังครองใจคนอีสานหรือคนชนบทอยู่ ยกเว้นภาคใต้ แต่การเลือกตั้งสมัยหน้า การแย่งชิงความนิยมของเพื่อไทยกับก้าวไกลจะดุเดือดรุนแรง และแหลมคมมากที่สุด