อะกาลิโกของภาคธุรกิจ | พิกุล ศรีมหันต์
จินตนาการว่าธุรกิจของคุณกำลังไปได้สวย แต่คลื่นลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดเข้ามา และผลักดันให้คุณต้องทำอะไรสักอย่าง
ช่วงทศวรรษ 1990 ไล่มาถึง 2000 ภาพของนักเรียนมัธยมเข้าโรงเรียนกวดวิชาเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นภาพที่คุ้นตาเราอย่างดี ในเวลานั้น โรงเรียนกวดวิชาเป็นธุรกิจที่เติบโตเป็นอย่างยิ่ง และคงไม่มีใครไม่รู้จัก “เอ็นคอนเซ็ปท์” (Enconcept) โรงเรียนกวดวิชาที่นำเพลงมาใช้เพื่อให้นักเรียนจดจำและเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น
เอ็นคอนเซ็ปท์ประสบความสำเร็จจนสามารถขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดและริเริ่มนำเทคโนโลยีการถ่ายทอดผ่านดาวเทียมมาใช้ เพื่อให้นักเรียนไม่ว่าอยู่ที่จังหวัดไหนก็สามารถเรียนได้พร้อมกัน
ตั้งแต่ยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่เป็นแพร่หลายแบบปัจจุบัน ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มการเรียนแบบ SELF (Student Extensive Learning Fitness) ที่ให้นักเรียนมีบทเรียนของตัวเอง และใช้เวลาของตัวเองในการเรียนได้ตามที่ต้องการ
ธุรกิจของเอ็นคอนเซ็ปท์รุ่งเรืองขนาดที่มีรายได้ปีละ 500 ล้านบาท ตลอด 25 ปีที่ดำเนินธุรกิจ มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน
ในยุคนั้น กวดวิชาเป็นสิ่งที่นักเรียนต้องขวนขวายไปเรียน ต้องติวสอบ ต้องเรียนพิเศษ เพราะทุกคนเจอข้อสอบชุดเดียวกัน สอบพร้อมกันหมด การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นเรื่องใหญ่มาก และช่องทางการเข้าสู่มหาวิทยาลัยก็ยังไม่เปิดกว้างเท่าปัจจุบัน
แต่ในเวลาต่อมาทางเลือกของการศึกษามีมากขึ้น นักเรียนไม่จำเป็นต้องมุ่งสู่มหาวิทยาลัยรัฐอย่างเดียว อีกทั้งมหาวิทยาลัยเองก็เปิดกว้าง มีการเปิดให้สอบตรงได้ หรือหลายแห่งไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขัน แต่สามารถยื่นพอร์ตโฟลิโอเพื่อผ่านการคัดเลือกแทน บวกกับเทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทด้านการเรียน ระบบการยึดติดกับผู้สอนแบบที่ผู้สอนเป็นซูเปอร์สตาร์ ก็ค่อยๆ คลายไปด้วย การยึดติดกับครูผู้สอนกลับไม่ใช่แนวทางสมัยใหม่ที่นักเรียนมองหา เพราะใครๆ ก็ลุกขึ้นมาเป็นครูได้ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่รองรับในปัจจุบัน
ยิ่งมาประจวบกับโควิด-19 ที่ทำให้นักเรียนต้องพึ่งพาการเรียนออนไลน์หมด ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาแบบเดิมได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างยิ่ง
ถ้าลองคิดตามก็คงรู้สึกเหมือนกันว่าเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายมากๆ ทางธุรกิจเมื่อส่วนหนึ่งของการเข้ามหาวิทยาลัยเป็นการยื่นคะแนน TOEFL IELTS TOEIC เอ็นคอนเซ็ปท์ก็เปิดโรงเรียนเพิ่มเพื่อรองรับเรื่องนี้
ขณะเดียวกันก่อนเกิดโควิด-19 เอ็นคอนเซ็ปท์มีความคิดที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การศึกษามากไปกว่าการกวดวิชา แนวคิดของเอ็นคอนเซ็ปท์น่าสนใจและน่าเรียนรู้ คือ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง เอ็นคอนเซ็ปท์กลับมาตั้งคำถามว่า แล้วการศึกษาแบบไหนจะเป็นสิ่งที่มั่นคงยั่งยืนแบบที่แม้ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงหรือเป็นแบบ “อะกาลิโก”
สิ่งนั้นก็คือการศึกษาที่บ่มเพาะจากความสัมพันธ์ที่แข็งแรงระหว่างครูและศิษย์ แม้จะมีครูที่สอนเก่งและเชี่ยวชาญเพียงใด แต่ถ้าหากขาดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับศิษย์ ความรู้ที่นักเรียนได้รับมานั้นก็จะไม่ต่างจากความสัมพันธ์ที่ใช้เงินซื้อความรู้
ฉะนั้นแล้วครูต้องรู้จักนักเรียนที่ตนเองสอน ครูที่รักนักเรียน มีความเชี่ยวชาญในด้านที่สอน และสามารถเป็นครูที่คุยกับนักเรียนได้ในหลายมิติ
เมื่อเด็กนักเรียนสามารถสัมผัสได้ถึงความรักและความหวังดี ท้ายที่สุดพวกเขาจะเปิดใจรับในสิ่งที่ครูถ่ายทอด การมาเรียนก็จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าเบื่อ และไม่เสียเวลาสำหรับนักเรียน
สิ่งสำคัญที่เป็นแกนหลักของความยั่งยืนของการศึกษา คือการถ่ายทอดมรดกทางความคิดจากครูที่รักและน่าเคารพ ความรู้ที่ตีมูลค่าไม่ได้ และมาพร้อมกับความสัมพันธ์ที่ดี การให้คำแนะนำในหลายแง่มุมมองเพื่อฟูมฟักความรู้วิชาการ และอุปนิสัยให้นักเรียนเติบโตไปเป็นผู้นำที่ดีในแบบยุคสมัยใหม่ “โรงเรียนนิวตัน” จึงเกิดขึ้น
ความน่าสนใจของโรงเรียนนิวตัน มีตั้งแต่วิชาที่ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนเติบโตเป็น Global Citizen อย่างวิชาผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) การสอนความเป็นผู้นำ (Leadership) การทำธุรกิจ ฯลฯ
ผ่านการพูดคุยกับวิทยากรระดับประเทศ ระดับโลกในเรื่องนั้นๆ รวมถึงในแต่ละวิชาผู้บริหารทุกคนจะเป็นครูที่มาสอนนักเรียนด้วยตัวเอง เพื่อถ่ายทอดมรดกทางความคิดด้านวิชาการ และสร้างความใกล้ชิดผูกพันขัดเกลาอุปนิสัย และทำความเข้าใจเด็กๆ มากขึ้น
โรงเรียนนิวตันมี Motto คือ “Character Matters” ในช่วงประถมศึกษา โรงเรียนจะมุ่งเน้นการสร้างนิสัยที่ดี การมีความรับผิดชอบตนเองในด้านการเรียนให้นักเรียน เมื่อถึงมัธยมศึกษา จะเป็นช่วงที่ช่วยนักเรียนเริ่มสร้างและค้นหาตัวตนของตัวเอง โรงเรียนที่สนับสนุนเส้นทางที่นักเรียนต้องการในแบบที่เหมาะกับนักเรียน กับ 4 สายการเรียนเพื่อตอบโจทย์อาชีพในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็น Medicine & Dentistry Program, AI & Tech Program, Business Program และ Humanities Program และในขณะนี้ ได้ขยายโอกาสสำหรับนักเรียนที่จะไปสายธุรกิจ กับโรงเรียน “Newton Business School”
โรงเรียนเตรียมนักธุรกิจผู้นำระดับมัธยมศึกษาแห่งแรกในโลก กับแนวคิดที่ว่า Strategy Matters เรียนกับผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ วางแผนทำธุรกิจตั้งแต่มัธยม
ยิ่งเริ่มเร็วจะยิ่งเป็นผลดี ตอบโจทย์แนวธุรกิจสตาร์ทอัพ และนักเรียนที่ต้องการต่อยอดแนวคิดจากธุรกิจของครอบครัว
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเอ็นคอนเซ็ปท์คือ การกลับไปหาสิ่งที่มั่นคงยั่งยืนของธุรกิจเรา ที่จะเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
สิ่งที่เป็นคำถามสำหรับการทำธุรกิจสำหรับใครหลายๆ คนในครั้งนี้คือ อะไรคือ “อะกาลิโก” ของธุรกิจเรา