สถาบันการต่างประเทศ เทวะวงศ์วโรปการ เพื่อพัฒนาการทูต

หลายสถาบันจะเป็นที่รู้จักในวงการ พร้อมมีหลักสูตรสำหรับนักการทูตจากประเทศอื่น เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลทั่วไป เช่น Diplomatic Academy ของออสเตรีย Institute of Diplomacy & Foreign Relations (IDFR) ของมาเลเซีย และ Instituto del Servicio Exterior de la Nacion (ISEN) ของอาร์เจนตินา เป็นต้น

ในส่วนของไทย สถาบันการต่างประเทศตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2517 และได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ อดีตเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ มาเป็นชื่อหน่วยงานเมื่อปี 2549 โดย “สถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ (Devawongse Varopakarn Institute of Foreign Affairs : DVIFA)” มีภารกิจหลักคือ การพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรของกระทรวงการต่างประเทศในทุกระดับ และทุกสายงานด้วยการจัดการฝึกอบรมเพื่อให้องค์ความรู้

สำหรับการจัดอบรมนักการทูต สถาบันการต่างประเทศ มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องตามวาระการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ระดับแรกเข้าไปจนถึงระดับเอกอัครราชทูต รวม 9 หลักสูตร เพื่อให้มีความรู้ และความสามารถรอบด้านและทันต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งในระดับโลก และภูมิภาค สามารถปฏิบัติงานเพื่อการส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ประเทศได้อย่างดีที่สุด รวมทั้งดำรงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีของชาติและการสร้างความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อประเทศไทย เช่น หลักสูตรนักการทูตแรกเข้า นักบริหารการทูต (นบท.) งานบริหารในต่างประเทศสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ อัครราชทูต หรือเอกอัครราชทูต

บุคลากรของหน่วยงานภายนอกจะเป็นผู้แทนไทยไปปฏิบัติงานประจำสำนักงานในต่างประเทศ หรือ “ทีมไทยแลนด์” ก็สามารถเข้าอบรมได้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการทำงานในต่างประเทศอย่างมีเอกภาพ เสริมสร้างบูรณาการของการปฏิบัติราชการในต่างประเทศ เพื่อร่วมกันสนับสนุน ปกป้อง รักษา และส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศ และประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมเช่น หลักสูตรหัวหน้าหน่วยงาน รองหัวหน้าฯ ของส่วนราชการประจำการในต่างประเทศพร้อมคู่สมรส

ส่วนศูนย์ภาษาต่างประเทศของสถาบันการต่างประเทศ เป็นหน่วยงานให้บริการด้านภาษาต่างประเทศทั้งภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้าง และพัฒนาทักษะทางด้านภาษาซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันด้านภาษาของประเทศ โดยจัดหลักสูตรฝึกอบรมทักษะทางภาษาให้กับข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระภายใต้กำกับของรัฐ เพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการปฏิบัติงาน และการสื่อสารระหว่างประเทศ ประกอบด้วยหลักสูตรต่างๆ เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศชั้นสูง (Advanced Oral Communication Course) และหลักสูตรภาษาต่างประเทศที่สอง ภาษาประเทศอาเซียน ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส และภาษาสเปน

สถาบันการต่างประเทศฯ ยังเป็นหน่วยงานกลางในการทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ สำหรับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และบุคลากรในองค์กรอิสระของรัฐ เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้สมัครรับทุนรัฐบาลไทย ทุนรัฐบาลต่างประเทศ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นของหน่วยงาน เช่น ประกอบการพิจารณาคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บริหาร การคัดเลือกให้ไปปฏิบัติงานประจำสำนักงานของไทยในต่างประเทศและในองค์กรระหว่างประเทศ การพิจารณาให้ค่าตอบแทนเพิ่มพิเศษสำหรับผู้มีศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ (language allowance)

ส่วนงานทุนและความร่วมมือของสถาบันฯ ได้ขยายความร่วมมือกับสถาบันฝึกอบรมทางการทูตและสถาบันทางวิชาการทั้งใน และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือน โครงการฝึกอบรม และการจัดหลักสูตรฝึกอบรมให้กับข้าราชการนักการทูตต่างประเทศจากประเทศเพื่อนบ้าน เอเชีย-แปซิฟิก ละตินอเมริกา และแอฟริกา ในด้านภาษา การพัฒนา อาเซียนศึกษา เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า การที่ไทยจัดหลักสูตรอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ สะท้อนถึงความพร้อม และความเชี่ยวชาญของไทยในการแบ่งปันองค์ความรู้ด้านการต่างประเทศ และภาษา ซึ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ และถือได้ว่าเป็นอำนาจละมุน (soft power) รูปแบบหนึ่งด้วย

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์