เมื่อคนแห่แลกเก็บเงินเยน ลุ้นญี่ปุ่นเปิดประเทศ

ที่คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำต่อไปเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศสวนทางกับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่เดินหน้าดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้นผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและดูดคืนสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุดปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.5% ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 3-4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 130 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินบาทก็อ่อนค่าลงไม่ต่างกัน โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 26 บาทต่อ 100 เยน

 

ร้านแลกเงินไม่ใช่ทางเลือกเดียวอีกเสมอไป

การอ่อนค่าลงของเงินเยนนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มทยอยแลกซื้อเงินเยนมากขึ้นทั้งผ่านร้านแลกเงิน จนร้านแลกเงินชื่อดังมีประกาศปิดรับแลกเงินเยนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยพลาดโอกาสครอบครองเงินเยนในช่วงเวลาที่ผ่านมา และกลุ่มผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุล

เช่น YouTrip ที่พบผู้ใช้งานแลกเงินเยนเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกเดือนตั้งแต่ต้นปี 2565 สอดคล้องกับสถานการณ์ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีและค่าเงินเยนในปัจจุบันถือว่า “ถูก” กว่าช่วงก่อนโควิด-19 ที่ค่าเงินเยนอยู่ในระดับ 28 – 29 บาทต่อ 100 เยน ทำให้เราเห็นว่านักท่องเที่ยวชาวไทยพร้อมที่จะกลับไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งในปีนี้

นักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเชื่อว่าเราต่างได้เห็นรูปเพื่อนๆ เช็คอินตามประเทศต่างๆ บนโซเชียลมีเดียสะท้อนถึงการเดินทางระหว่างประเทศที่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง สอดคล้องกับตัวเลขการใช้จ่ายที่ร้านค้าในต่างประเทศช่วงสงกรานต์ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดย YouTrip พบยอดใช้จ่ายเติบโตขึ้นกว่า 13 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงสงกรานต์ในปีก่อนหน้า และสกุลเงินที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมีการใช้จ่ายมากที่สุดในช่วงสงกรานต์ 5 อันดับแรก ได้แก่ ยูโร, ปอนด์สเตอร์ลิง, ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์สหรัฐฯ และดอลลาร์สิงคโปร์

จากการแถลงต่อสื่อมวลชนในกรุงลอนดอนของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เราเชื่อว่าหากประเทศญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้ เงินเยนจะกลายเป็น 1 ในสกุลเงินที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมีการใช้จ่ายที่ร้านค้าในต่างประเทศมากที่สุดอย่างแน่นอน เพราะประเทศญี่ปุ่นยังนับเป็นจุดหมายหลักที่นักท่องเที่ยวชาวไทยต่างรอคอยในการได้กลับไปเยี่ยมเยียนอีกครั้ง

ค่าเงินที่ผันผวน เปิดโอกาสในการบริหารจัดการเงิน

ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกในปัจจุบัน ทั้งสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และผลกระทบทางเศรษฐกิจอันต่อเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 เช่น เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างมากในหลาย ๆ ประเทศ จนทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในศรีลังกา และสูงสุดในรอบ 40 ปี สำหรับสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้แต่ละประเทศดำเนินนโยบายทางการเงินที่แตกต่างกันเพื่อจัดการปัญหาปากท้องของคนในประเทศ และรองรับการค้าระหว่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงความเคลื่อนไหวในตลาดทุนและการลงทุนข้ามชาติที่มีผลต่อการเติบโตของภาคธุรกิจและสภาพคล่องในประเทศ ค่าเงินสกุลต่าง ๆ จึงผันผวนค่อนข้างมาก

เมื่อรวมกับการเดินทางระหว่างประเทศที่เริ่มกลับมาคึกคักพร้อมกับการเปิดประเทศของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก   นักท่องเที่ยว นักเรียน และนักธุรกิจชาวไทยที่มีแผนเดินทาง หรือมีการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศก็เริ่มกลับมาสนใจล็อกเรท แลกเงินล่วงหน้าสำหรับการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศอีกครั้ง โดย YouTrip พบว่านอกจากเงินเยนแล้ว ผู้ใช้งานยังคงแลกเงินสกุลอื่นๆ เก็บไว้ภายในแอปเพิ่มขึ้นเท่าตัวในไตรมาสที่ผ่านมา มีทั้งการทยอยแลกเพื่อเฉลี่ยต้นทุน และแลกเป็นจำนวนมากขึ้นต่อครั้งเพราะเห็นค่าเงินที่ต้องการอยู่ในระดับที่ถูกกว่าในอดีต เพราะการล็อกเรทล่วงหน้าภายในแอปทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บออมเงินเพื่อการท่องเที่ยวและใช้จ่ายได้ง่าย และยังได้เรทที่ดีกว่าอีกด้วย