ชีวิตง่ายขึ้นเมื่อรู้จักใช้ตัวเลข 2 ตัว

ทั้งจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้เงินเฟ้อกลายเป็นความเสี่ยงที่ทางธนาคารกลางของหลายประเทศคงต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อลง ส่งผลต่อตลาดทุนในที่สุด

แต่วันนี้เรามาพักเรื่องที่ตรึงเครียดหันมาดูเรื่องง่ายๆใกล้ๆตัวที่น่าสนใจ โดยผมจะพูดถึงตัวเลข 2 ตัวที่ถ้าเรารู้วิธีใช้แล้วอาจช่วยทำให้เราเห็นภาพการลงทุนตลอดจนความจำเป็นที่เราควรต้องเตรียมเงินสำหรับเกษียณเอาไว้ให้มากกว่าเดิมก็ได้ เราทุกคนต่างรู้ว่าโลกรู้จักตัวเลขมานับแต่โบราณ น่าจะก่อนที่จะมีการคิดตัวอักษรขึ้นมาด้วยซ้ำ

 

สังเกตุได้จากการใช้การขีดเพื่อใช้นับจำนวนสัตว์เลี้ยง หรือจำนวนคน ซึ่งปัจุบันก็ยังคงมีการใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันเช่น การนับเสียงโหวต เป็นต้น ในแง่ของการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงนั้นเราต้องอยู่กับตัวเลขตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผลตอบแทนที่ต้องการ ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง จำนวนเงินที่ต้องลงทุน หรือจำนวนเงินที่ต้องการเพื่อการเกษียณ เป็นต้น คราวนี้เราลองมาดูเรื่องแปลกๆของตัวเลขบางตัวที่รู้แล้วน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารพอร์ตความมั่งคั่งของเราบ้าง

เลข 72 จะได้รู้ว่าเงิน 5 แสนของเราจะโตเป็น 1 ล้านเมื่อไหร่

ตัวเลขแรกที่อยากจะกล่าวถึงคือเลข 72 ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ช่วยให้เรารู้ว่าถ้าเราลงทุนวันนี้ด้วยเงินจำนวนหนึ่งเช่น 1 ล้านบาท ด้วยผลตอบแทนหนึ่งเช่น ร้อยละ 5 เงินของเราจะโตเป็น 2 เท่าหรือร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งในกรณีนี้คือ จาก 1 ล้านบาทโตเป็น 2 ล้านบาทในเวลากี่ปี วิธีการก็คือ เอาเลข 72 ตั้ง หารด้วยผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับซึ่งในที่นี้คือ 5 เปอร์เซนต์ จะได้คำตอบคือ

   72/5  =  14.4 ปี

นั่นคือถ้าเรานำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ร้อยละ 5 แล้วทิ้งเอาไว้ อีก 14.4 ปีต่อมาเราจะมีเงินเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

อีกตัวอย่างหนึ่งถ้าเรานำเงินไปฝากธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ย สมมติเช่นดอกเบี้ยร้อยละ 1 เงินของเราจะโตขึ้นเป็น 2 เท่าโดยใช้เวลาเท่ากับ 72/1 = 72 ปี ซึ่งมากกว่าตัวอย่างแรกถึง 5 เท่า

แต่ถ้าเรารับความเสี่ยงได้มากหน่อยโดยนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 10 จะพบว่าเราใช้เวลาเพียง 7.2 ปีเพื่อให้เงินเราโตขึ้นสองเท่าโดยใช้สูตรวิธีคิดเดียวกัน (72/10 = 7.2)

เห็นมั้ยครับว่าเลข 72 มีความประหลาดมหัศจรรย์และช่วยให้เราคาดการณ์การลงทุนแบบง่ายๆได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องคำนวณให้วุ่นวาย

เลข 70 รู้แล้วจะหนาว

เลขต่อมาที่อยากจะพูดถึงคือเลข 70 ซึ่งตัวเลขนี้มีประโยชน์ต่อเราในการช่วยทำให้เรารู้ว่ามูลค่าของเงินที่เรามีจะมีมูลค่าหายไปเท่าไหร่ (เงินไม่ได้หายนะครับ แต่มูลค่าของเงินลดลง) เนื่องจากเงินเฟ้อที่ทำให้มูลค่าสินค้าต่างๆสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้เราต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าจำนวนเท่าเดิม โดยปกติเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 (ซึ่งเป็นเงินเฟ้อทั่วไปที่ไม่ใช่เงินเฟ้อฐาน)

ซึ่งวิธีใช้ก็คือนำค่าเงินเฟ้อมาหารด้วย 70 ก็จะได้จำนวนปีที่มูลค่าของเงินของเราจะลดลงครึ่งหนึ่ง ตัวอย่างเช่นในกรณีที่เงินเฟ้อมีค่าเท่ากับร้อยละ 3 ต่อปี เงินของเราจะมีมูลค่าลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งในอีก 23.3 ปี นั่นหมายความว่าถ้าตอนนี้เราอายุ 37 เมื่อเราเกษียณตอนอายุ 60ปี ถ้าตอนนี้เราคำนวณแล้วพบว่าเราต้องใช้เงินต่อเดือนเท่ากับ 1 หมื่นบาทนั่นแปลว่าเมื่อตอนเกษียณเราควรเตรียมเงินไว้ใช้จ่ายเดือนละ 2 หมื่นบาท แต่ถ้าเงินเฟ้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5 นั่นหมายความว่าเงิน 1 หมื่นของเราจะลดค่าลงเหลือครึ่งเดียวเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 14 ปีเท่านั้น

 เห็นมั้ยครับว่าจากตัวเลขง่ายๆเพียงแค่เรารู้การนำไปใช้ก็จะช่วยทำให้เราเห็นภาพของการเติบโตของเงินลงทุนของเรา ตลอดจนความจำเป็นที่เราต้องเตรียมเงินเกษียณเพื่อการใช้จ่ายในอนาคตไว้มากกว่าจากมูลค่าของเงินที่เราเห็นในปัจจุบัน (ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นเพียงตัวเลขที่ใช้เพื่อการประมาณ หากต้องการใด้คำตอบแม่นยำขึ้นและใช้ได้กับทุกช่วงตัวเลขของผลตอบแทนและเงินเฟ้อ เราต้องใช้เลข 69.3หารด้วยจำนวนปี แล้วบวกด้วย 0.346 แต่ผมว่ามันยากไปต่อการจำและต้องใช้เครื่องคิดเลข)

ท้ายสุดนี้ผมก็ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านมีความสุขและโชคดีกับการลงทุนครับ