พันธกิจมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล | บัณฑิต นิจถาวร
คำถามหนึ่งที่ผมถูกถามอยู่เสมอจากแฟนคอลัมน์ "เศรษฐศาสตร์บัณฑิต" คือมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล ที่ผมทำงานให้ขณะนี้ทำอะไร ใครเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ มีคนช่วยเยอะไหม
ถามเพราะอยากรู้ อยากช่วยเหลือ อยากสนับสนุน วันนี้จึงขอใช้พื้นที่นี้ตอบคำถามให้แฟนคอลัมน์และผู้อ่านทุกท่านทราบ
มูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล จัดตั้งอย่างทางการโดยจดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2562 ในฐานะองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อส่งเสริมการทำนโยบายสาธารณะที่ดีให้กับประเทศ และส่งเสริมธรรมาภิบาลในการทำหน้าที่ของภาครัฐและภาคองค์กรไม่แสวงหากำไร
เป็นการรวมตัวของคนหลายรุ่นหลากหลายความสามารถและประสบการณ์ ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือ ช่วยประเทศแก้ปัญหา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม ใช้ความรู้ประสบการณ์และเครือข่ายที่มีร่วมกันหาคำตอบและผลักดันการแก้ปัญหาให้เกิดขึ้น
มูลนิธิเปิดตัวกับสาธารณะครั้งแรกเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดยส่วนตัวผมคิดว่าคนไทยรุ่นผมคือ รุ่นเบบี้บูมเมอร์ ส่วนใหญ่ลึกๆ แล้วขณะนี้ห่วงใยประเทศ ห่วงปัญหาที่ประเทศมี
และคงคิดคล้ายกันว่า แม้ตนเองจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่การทำหน้าที่สาธารณะในฐานะพลเมืองของประเทศที่ผ่านมาอาจน้อยเกินไปหรือไม่เพียงพอ ประเทศจึงมีปัญหามาก ไม่อยากทิ้งปัญหาที่ประเทศมีให้กับรุ่นลูกหลานโดยไม่พยายามแก้ไข ต้องการมีส่วนในการช่วยแก้ปัญหา
คนเหล่านี้มีมากและพร้อมตอบรับที่จะช่วยประเทศแก้ปัญหา มูลนิธิจึงเหมือนเป็นคำตอบให้กับความต้องการนี้ เป็นตัวอย่างของความพยายามที่จะระดมความรู้ความสามารถที่มีอยู่ในสังคมมาช่วยแก้ปัญหาที่สังคมมี
มูลนิธิไม่มีใครเป็นสปอนเซอร์ แต่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลหรือประชาชนที่เห็นเหมือนกันว่า นโยบายสาธารณะที่ดีสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้และธรรมาภิบาลเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยที่ต้องแก้ไข
มูลนิธิบริหารและกำกับดูแลโดยคณะกรรมการสองชุด ชุดแรกเป็นคณะกรรมการบริหารมีผมเป็นประธาน และ ดร.สิริลักษณา คอมันตร์ กับคุณปรีดา เตียสุวรรณ์ เป็นรองประธาน มีกรรมการทั้งหมด 13 คน เช่น คุณสุธรรม ส่งศิริ ดร.อัจนา ไวความดี คุณพิชาย ชื่นสุขสวัสดิ์ คุณหมอ ทยา กิติยากร ที่ร่วมเป็นกรรมการก่อตั้งมูลนิธิ
ชุดสองคือคณะกรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มี 10 ท่าน มีท่านอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้คำแนะนำมูลนิธิเกี่ยวกับงานที่มูลนิธิทำ ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งไปที่ปัญหาสำคัญของประเทศที่ควรแก้ไขแต่ยังไม่มีใครทำ ซึ่งถ้าทำแล้วจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีและมีพลัง (impactful) ให้กับสังคม กรรมการทุกท่านมาร่วมงานด้วยความสมัครใจ ไม่มีผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใดๆในการทำหน้าที่
งานที่มูลนิธิทำปัจจุบันมี 3 เรื่อง
1. ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานรัฐที่เป็นระบบและมีมาตรฐานเพื่อความโปร่งใสในกระบวนการทำนโยบาย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสสำคัญต่อการสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ รวมทั้งลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชันและสร้างคุณค่าให้ภาคธุรกิจและประชาชนในการใช้ประโยชน์ข้อมูลภาครัฐ
โดยมูลนิธิได้พัฒนาแนวปฏิบัติที่ดีในการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานรัฐ พิจารณาจากหลักปฏิบัติที่เป็นสากลและกฎหมายสำคัญของประเทศ ประกอบขึ้นเป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ6ด้าน เป็นหลักปฏิบัติ 27 ข้อและแนวปฏิบัติ 70 ข้อ
หน่วยงานรัฐที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการประเมินตามแนวปฏิบัติข้างต้นซึ่งมูลนิธิจะจัดอบรมส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติดังกล่าว โครงการนี้มูลนิธิทำร่วมกับอีกห้าองค์กรในภาครัฐและเอกชน มีสำนักงานกพรเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งการประเมินหน่วยราชการที่สนใจจะเริ่มในช่วงครึ่งหลังปีนี้
2. ส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาลในองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น มูลนิธิ สหกรณ์ออมทรัพย์วัด สถาบันการศึกษา ในส่วนนี้ มูลนิธิได้พัฒนาแนวปฏิบัติที่ดีสำหรับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการขององค์กรไม่แสวหากำไร
ประกอบด้วยแนวปฏิบัติที่ดีเก้าข้อสำหรับคณะกรรมการองค์กรไม่แสวงหากำไร เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคมปี 2562 ซึ่งมีหลายองค์กรได้นำแนวปฏิบัติที่ดีดังกล่าวไปพิจารณาปฏิบัติใช้ ล่าสุดคือคณะกรรมการนโยบายของไทยพีบีเอส
และตั้งแต่ปลายปี2562 มูลนิธิได้เริ่มจัดอบรมส่งเสริมการบริหารองค์กรไม่แสวงหากำไรตามหลักธรรมาภิบาล เช่น จัดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ช่วงปี2652-63 อบรมกรรมการและผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ไปเกือบสามร้อยคนซึ่งประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี
ขณะนี้มูลนิธิกำลังร่วมงานกับหอจดหมายเหตุพุทธทาส สวนโมกข์กรุงเทพ ส่งเสริมธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการวัด โดยจะช่วยเหลือวัดในการนำแนวปฏิบัติที่ดีไปปฏิบัติใช้ในการบริหารวัดตามหลักธรรมาภิบาล เริ่มจากวัดนำร่อง 20 วัดทั่วประเทศ
นอกจากนี้มูลนิธิกำลังร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยจัดหลักสูตรอบรมออนไลน์ให้ความรู้กรรมการและผู้บริหารองค์กรไม่แสวงหากำไรเช่นมูลนิธิ สมาคม สถาบันการศึกษาในเรื่องการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อยกระดับการบริหารองค์กรไม่แสวงหากำไรเป็นการทั่วไป
3. ส่งเสริมการแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วม และเพิ่มสมรรถนะเจ้าหน้าที่รัฐในการทำนโยบายสาธารณะ ผ่านการแสดงความเห็นของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาลของมูลนิธิในประเด็นต่างๆ เป็นประจำ
จัดทำเอกสารเผยแพร่ความเห็นของมูลนิธิในประเด็นสำคัญต่อสาธารณะ หรือส่งตรงต่อรัฐบาล จัดอบรมเพื่อยกระดับสมรรถนะข้าราชการระดับกลางในการทำนโยบายสาธารณะร่วมกับสำนักงาน กพร. และอบรมให้ความรู้ข้าราชการในภูมิภาคเรื่องธรรมาภิบาลภาครัฐโดยทำร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นต้น
นี่คือพันธกิจของมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล ทุกงานเป็นงานสำคัญที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมได้ บุคลากรที่เข้ามาช่วยงานเกือบทั้งหมดทำโดยสมัครใจ มีเงินสนับสนุนในรูปเงินบริจาคทั้งจากองค์กรภาครัฐ
เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย บริษัทเอกชน บุคคลธรรมดา และองค์กรไม่แสวงหากำไร เห็นได้ว่างานของมูลนิธิมีมากและต้องการความช่วยเหลืออีกมาก
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อมูลนิธิได้ที่ [email protected] และให้การสนับสนุนได้ที่บัญชี "มูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล" บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุทธิสาร เลขที่ 021 267680 9