NFT ก็มีอินไซเดอร์เทรดดิ้ง | พิเศษ เสตเสถียร

ความผิดฐานซื้อขายโดยใช้ข้อมูลวงใน หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า Insider Trading ก็จะเป็นคดีประเภทที่เรารู้จักกันค่อนข้างดีว่า เป็นคดีเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ ที่มีการซื้อขายหุ้นกันโดยฝ่ายหนึ่งซึ่งรู้ข้อมูลที่ยังมิได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน มาซื้อหรือขายหลักทรัพย์กับอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้ข้อมูลนั้น 

ทำให้ได้ประโยชน์จากการซื้อหรือขายไป เช่น นายเพชรเป็นกรรมการของบริษัท รู้ว่าปีนี้บริษัทจะขาดทุนเป็นจำนวนมากจึงรีบขายหุ้นไป ในขณะที่ข้อมูลเรื่องการขาดทุนนั้นยังไม่ได้เปิดเผยกับสาธารณชน นายมรกตไม่ทราบข้อมูลนั้นจึงได้ไปซื้อหุ้นดังกล่าวไว้ในราคาปกติ

ครั้นเมื่อบริษัทเปิดเผยข้อมูลการขาดทุนนั้นต่อสาธารณชน ราคาหุ้นก็ตกลงมา นายมรกตจึงขาดทุน ส่วนนายเพชรก็ได้กำไรเพราะขายไปก่อนที่จะมีข่าว การกระทำของนายเพชรเช่นนี้ถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้ซื้อ (คือนายมรกต) ที่หลงเข้ามาซื้อและขาดทุนทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหุ้น

กฎหมายจึงได้บัญญัติว่าการขายหุ้นของนายเพชรเป็นความผิดฐานใช้ข้อมูลวงใน พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ได้กำหนดว่าการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลวงในเป็นความผิดอยู่ในมาตรา 242 

ส่วน NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token นั้นเป็นเหรียญ (Token) ของโลกคริปโทเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง เช่นเดียวกับ Bitcoin แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ NFT จะมีลักษณะเฉพาะตัวไม่สามารถทำซ้ำ หรือทดแทนกันได้ การได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ NFT ก็เหมือนกับเราได้เป็นเจ้าของสิ่งของที่ NFT นั้นแทนค่าอยู่

เช่น เจ้าของภาพเขียนของอาจารย์เฉลิมชัย ออก NFT ของภาพนั้น ถ้าเราได้เป็นเจ้าของ เราก็เหมือนกับเป็นเจ้าของภาพ สามารถที่จะโอนขาย NFT ต่อไปได้ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย NFT ก็เหมือนกับโฉนดที่ดินที่เราจะทำนิติกรรมจำหน่ายจ่ายโอนอะไรก็ไปทำบนโฉนดไม่ได้ทำบนตัวที่ดิน

เพียงแต่ NFT อยู่ในรูปของอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่กระดาษ อันนี้เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นอย่างง่ายๆ เท่านั้นนะครับ ความจริงมีข้อแตกต่างอื่นอีกหลายประการ

NFT ได้รับความนิยมมาก โดยมากจะใช้แทนค่างานศิลปะ เช่น งานจิตรกรรมหรืองานประติมากรรม คราวนี้เมื่อ NFT ได้รับความนิยมมากขึ้น ก็มีคนตั้งตลาดเป็นแหล่งกลางในการซื้อขาย NFT ตลาดซื้อขายแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ ตลาด OpenSea ที่นาย Chastain เคยทำงานอยู่นั่นเองตามข้อกล่าวหา 

นาย Chastain มีหน้าที่ในการคัดเลือก NFT ที่จะขึ้นแสดงในเว็บไซต์ของ OpenSea ตามปกติ OpenSea จะเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นความลับไว้จนกว่า NFT นั้นจะขึ้นแสดงบนเว็บไซต์ เพราะเมื่อขึ้นแสดงเมื่อใดราคาของ NFT นั้นมักจะเพิ่มสูงขึ้น นาย Chastain ก็จะซื้อ NFT ก่อนที่ OpenSea จะแสดง NFT นั้นบนเว็บไซต์เพื่อทำการซื้อขาย

เมื่อ NFT เข้าทำการซื้อขาย ราคาก็ขึ้นสูงขึ้น นาย Chastain ก็จะขาย NFT ดังกล่าวโดยได้กำไรครั้งละ 2 ถึง 5 เท่าของราคาที่ซื้อมา นาย Chastain ได้ทำเช่นนี้มาหลายสิบครั้ง

โดยในการซื้อขายของนาย Chastain นั้นได้ทำการซื้อขายโดยเงินดิจิทัลซึ่งไม่ต้องเปิดเผยชื่อผู้เป็นเจ้าของ และในการเปิดบัญชีซื้อขายบน OpenSea ก็ใช้บัญชีซื้อขายนิรนามตามระบบของคริปโท ซึ่งทุกอย่างจะไม่มีการเปิดเผยชื่อ แต่ถึงกระนั้นทางการก็ยังติดตามมาดำเนินการเอาผิดได้

ในบ้านของเรา ก.ล.ต. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลในเรื่องนี้บอกว่า โดยที่กฎหมายไม่ได้มีการกำหนดเกี่ยวกับ NFT ไว้โดยเฉพาะ จึงต้องพิจารณาว่าลักษณะของ NFT แต่ละเหรียญ ว่าเข้านิยาม “สินทรัพย์ดิจิทัล” เข้านิยาม utility token ตามพระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 หรือไม่? 

ซึ่งถ้าเข้านิยามก็ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ภายใต้กฎหมาย ในพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ มาตรา 42 ก็ได้บัญญัติไว้ว่า “ห้ามมิให้บุคคลใดซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในที่เกี่ยวกับผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือลักษณะหรือสาระสําคัญของโทเคนดิจิทัลกระทำการดังต่อไปนี้

1. ซื้อหรือขายโทเคนดิจิทัล หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับโทเคนดิจิทัล ไม่ว่าเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น เว้นแต่...
2. เปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าด้วยวิธีใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าผู้รับข้อมูลอาจนําข้อมูลนั้นไปใช้ประโยชน์ในการซื้อหรือขายโทเคนดิจิทัล หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับโทเคนดิจิทัล ไม่ว่าเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น...”

เพราะฉะนั้น ถ้าหากคดีนี้เกิดขึ้นที่บ้านเรา เราก็มีกฎหมายเอาผิดคนที่มาหาผลประโยชน์โดยการซื้อขาย NFT ได้เช่นเดียวกัน