การบ้านรัฐบาลก่อนประชุมผู้นำเอเปค | เศรษฐา ทวีสิน
การประชุมเอเปค 2022 ที่ไทยเราได้เป็นเจ้าภาพนั้น ต้องบอกว่านับเป็นวาระใหญ่สำหรับคณะรัฐบาล เพราะนี่คือการประชุมของผู้นำสูงสุดของเขตเศรษฐกิจถึง 21 ประเทศ ซึ่งรวมๆ กันแล้วมีรายได้ประชาชาติ (GDP) รวมกันมากกว่า 59% ของโลก
แถมสัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับสมาชิกเอเปคยังสูงถึง 69.8% ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศที่ไทยมีกับทุกประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว ซึ่งวาระรวมๆ ของการประชุมจะพูดถึงเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจและอำนวยความสะดวกทางการค้าและลงทุนอย่างยั่งยืนหลังโควิด
ในภาวะที่จีดีพีของสหรัฐหดตัว 2 ไตรมาสติดๆ กัน ยุโรปเจอเงินเฟ้อกระอัก เศรษฐกิจจีนถดถอย สงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ยืดเยื้อ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐกลับมาตึงเครียดสุดๆ อีกครั้งหลังนางเพโลซีแวะเยี่ยมไต้หวัน จากปัจจัยต่างๆ เชื่อได้ว่าการส่งออกของไทยซึ่งคิดเป็นอันเป็นสัดส่วนเกือบ 60% ของจีดีพีจะชะลอตัวอย่างแน่นอนในอนาคต
ดังนั้น เราจึงควรใช้เวทีประชุมเอเปคนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพลิกเศรษฐกิจไทย ทั้งการค้า การลงทุน รวมไปถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความหวังสำคัญในระยะสั้นที่จะช่วยฉุดเศรษฐกิจของไทยให้อยู่รอดได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมเลยอยากนำเสนอว่าท่านนายกรัฐมนตรีและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจควรต้องเตรียมตัว และเตรียมการอย่างดีเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด ณ ตอนที่ผู้นำสูงสุดของแต่ละประเทศสมาชิกมารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ ตอนปลายปี
การบ้านอย่างแรกนะครับ ยกตัวอย่างจะที่เรากำลังจะมีประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคระหว่างวันที่ 14-20 ส.ค.ที่จะถึงนี้ อยากให้ถือเป็นโอกาสดีในการฟังความเห็น เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดจากประเทศสมาชิก เสร็จแล้วผมอยากให้ท่านนายก และทีมงานนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มานั่งวางแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวแบบเฉียบพลันเพื่อให้บังเกิดผลดีระยะสั้น พร้อมทั้งสร้างแผนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมที่เราจะต้องดำเนินการ
เมื่อทำการบ้านเสร็จแล้วก็ถึงวาระที่ท่านนายก และทีมต้องทำหน้าที่เป็น “เซลส์แมน” เดินสายเจรจา พูดคุย ตกลงกับบรรดาประเทศต่างๆ ที่เราเล็งว่าจะดึงนักท่องเที่ยวเค้าเข้ามาอย่างจริงจังครับ บินไปเองเลย ตะล่อมคุย จะโชว์เคสอะไรมีข้อเสนออะไรก็บอกเค้าไป ยกตัวอย่างวีซ่านักท่องเที่ยวจีนจะยกเลิกไหม หรือจะปล่อยผ่านให้คนที่เค้าเคยมาเที่ยวแล้วเข้าได้ง่ายๆ ไม่ต้องขอวีซ่าได้ไหม ฯลฯ
(ภาพถ่ายโดย Pixabay)
นี่ผมยกตัวอย่างแค่การพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแค่อย่างเดียวนะครับ ด้านการค้า ภาษี การลงทุนก็ต้องทำการบ้านคล้ายๆ กัน
ทำไมผมถึงเสนอให้ทำการบ้านล่วงหน้า? อย่างแรกเรามักเห็นเสมอว่าการประชุมสุดยอดของผู้นำในหลายๆ เวทีมักจะหาฉันทามติกันไม่ลง ยิ่งเป็นเวทีใหญ่ ต่างคนต่างก็มี agenda ของตัวเอง ดังนั้น ต้องคุยนอกรอบมาก่อนแล้วใช้โอกาสเหมาะที่ทุกคนมารวมกันแยกสรุปรายตัวครับ
อย่างที่สอง เชื่อได้ว่าสองพี่ใหญ่จีนและสหรัฐคงใช้เวทีนี้ในการสร้างบารมี และคงมีการงัดข้อกันในเชิงนโยบายแน่ๆ ทุกฝ่ายคงเพ่งสมาธิไปที่ท่าทีและการวางตัวของตนในสายตาพี่ใหญ่ทั้งสอง ครั้นถ้าเราจะหาเวลาคุยกับผู้นำชาติอื่น เพื่อลงรายละเอียดเรื่องการท่องเที่ยวไทย การลงทุนในไทย ใครเค้าจะมีเวลาและอารมณ์คุยด้วยครับตอนนั้น
การทำการบ้านและเดินสายล่วงหน้านี้ ถ้าได้ข้อสรุปและคำตอบรับเลยก็จะดีมาก หรือถ้ายังจบไม่ลงอย่างน้อยให้ประเทศเหล่านี้เค้าเห็นว่าเราเอาจริงกับข้อเสนอด้านการท่องเที่ยว ด้านการค้า การลงทุน เปิดโอกาสให้เราติดตาม พอหัวหน้ารัฐบาลหรือผู้นำสูงสุดเค้ามาในเดือน พ.ย. ท่านนายกฯ ก็จะได้ถือโอกาสขอสรุปกับแต่ละชาติไปเลยว่าสนใจข้อเสนอของเราไหม
ภาพที่อยากจะเห็นก็คือ หัวหน้ารัฐบาลมีการจับมือปิดดีล มีเซ็นสัญญาการค้าให้เห็น ถือว่าเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับรัฐบาล ทีมงานในการเป็นเจ้าภาพประชุมระดับภูมิภาคอย่างเอเปคที่ภาพออกมาสวยเกิดผลลัพธ์จับต้องได้ ไม่ใช่แค่คล้องแขนถ่ายรูปแค่นั้น
ดังนั้น จึงขอฝากความหวังไว้กับท่านนายกฯ และทีมงานด้วยนะครับ ทำการบ้านให้ดี ให้ได้มาซึ่งข้อเสนอดีๆ ที่เค้าปฏิเสธไม่ได้ แล้วใช้เวทีประชุมเอเปคนี้แหละปิดดีลเดินหน้ากู้เศรษฐกิจ ต้องเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ครับ โดยอยากเน้นย้ำที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและเห็นผลในระยะสั้น อย่ารอช้า.
บทความพิเศษ : เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI)