เราทำงานเพื่ออะไร

เราทำงานเพื่ออะไร

“เรือไร้เข็มทิศ เหมือนชีวิตไร้ Purpose”

เราทุกคนมีเหตุผลที่ทำให้ตื่นขึ้นมาทุกเช้า ถ้าเราเข้าใจชัดเจนว่า ความมุ่งมาดปรารถนา (purpose) ในชีวิตการทำงานของเราคืออะไร มันจะเป็น “แรงจูงใจอันทรงพลัง” ที่จะทำให้เราใช้ เวลา สติปัญญา และพลังงาน อันมีจำกัดของเราไปทำกิจการงานต่างๆ อย่างมีเป้าหมายไม่หลงทิศหลงทาง เราจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีความสุข และสนุกกับทุกๆ วันที่เราตื่นขึ้นมา 

ที่ SCB เราเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงจัดงานกระตุ้นแรงจูงใจโดยมีธีมงานว่า People with Purpose

#เราทำงานเพื่ออะไร โดยเชิญวิทยากรหลากหลายอาชีพมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตและความสำเร็จที่ได้มาจากการตั้ง “ความมุ่งมาดปรารถนา หรือ “Purpose” เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการทำงานและมีชีวิตอยู่ของตัวเอง พวกเราได้ฟังเรื่องราวชีวิตดีๆ ที่น่าประทับใจจากวิทยากรหลายท่านอย่างเช่น

น้องแพตตี้ ชนัญชิดา พงษ์เพ็ชร แชมป์ Masterchef Junior Thailand คนแรกของประเทศ เด็กผู้หญิงอายุ 11 ขวบ ที่ฝ่าฟันแข่งขันทำอาหารจนเข้ารอบ 26 คนสุดท้ายและคว้าชัยชนะมาได้ จากเด็กที่พ่อดูแลให้อยู่ในกรอบ เมื่อเติบโตขึ้นพ่อก็ให้ลูกค้นหาตัวเองจนพบว่าการทำอาหารคือความฝันสูงสุดของเธอ เธอพูดฉะฉานว่าอยากออกมาจาก safe zone เพื่อ challenge ตัวเอง และมีความมุ่งมาดปรารถนาว่าเธอจะดำเนินชีวิตแต่ละวัน #เพื่อค้นพบตัวเอง

ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเธอแสดงความมีน้ำใจด้วยการไปช่วยคู่แข่งโดยไม่ได้นึกถึงเรื่องแพ้ชนะ แต่แคร์ความรู้สึกของเพื่อน ไม่อยากให้เขาเครียด อยากให้เขามายืนอยู่ด้วยกัน ถ้าใครได้ดูการแข่งขันรอบนั้นคงรู้สึกประทับใจน้องแพตตี้และเพื่อนผู้แข่งขันอีก 2 คนที่ช่วยเหลือกันโดยไม่ได้คิดว่าเป็นคู่แข่งแต่คิดว่าเป็นเพื่อนกันที่ต้องช่วยเหลือกันมากกว่า ดิฉันชื่นชมน้องแพตตี้มากเพราะสิ่งที่เธอทำนั้นหาได้ยากในการแข่งขันทั่วๆ ไป วิธีคิด จิตใจ และสปิริตของเธอนั้นมันสุดยอด มันอยู่เหนือความอยากเอาชนะไปแล้ว นอกจากนี้เธอยังอยาก challenge ตัวเองออกจาก safe zone ต่อไปอีก เธออยากจัด Chef Table ที่บ้านให้คนมาชิมอาหารที่เธอปรุงขึ้นมาด้วยใจ เธออยากมีโอกาสพบปะผู้คนที่หลากหลาย อายุไม่ใช่อุปสรรคของการเดินตามความฝันเพราะเธอเชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่เราทำในสิ่งที่เรารักด้วยใจเราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วิทยากรอีกท่านคือ น้องน้ำตาล วิลาสินี รัตนชัย นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เด็กสาวสู้ชีวิตวัย 22 ปี จากจังหวัดพะเยา ที่ออกเดินทางมากรุงเทพฯ ด้วยเงินติดตัว 700 บาท ต้องทำงานขายเสื้อผ้าส่งตัวเองเรียนตั้งแต่อายุ 15 หลังจากที่พ่อจากไป เพื่อนชวนให้เล่นไอซ์ฮอกกี้แต่เธอเลือกเล่นสปีดสเกตก่อนเพราะค่าซ้อมถูกกว่าแต่ต้องเลิกไปเพราะป่วยเป็นโรคไทรอยด์ หลังจากนั้นจึงตัดสินใจมาเล่นไอซ์ฮอกกี้ เธอต้องใช้เสื้อผ้ามือสองเพราะชุดแพงมาก เคยลำบากมีเงินในกระเป๋าแค่ 30 บาท ต้องเลือกกินข้าวหนึ่งมื้อเพื่อที่จะมีเงินพอใช้ ในวันที่อยากกินชาเย็นก็เลือกกินชาเย็นแล้วอดข้าว เธอบอกตัวเองเสมอว่าต้องทำให้ได้ด้วยความมุ่งมั่นและพยายาม เชื่อมั่นในตัวเองไม่คิดอะไรลบๆ และลงมือทำในสิ่งที่คิดให้เป็นจริง จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันนี้ เธอได้เป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทยเล่นตำแหน่งกองหน้า เธอมีความมุ่งมาดปรารถนาว่าสักวันอยากปักธงไทยบนสมรภูมิไอซ์ฮอกกี้โอลิมปิกให้ได้ เธอจึงทำงานทุกวัน #เพื่อโอลิมปิก

วิทยากรท่านต่อมาคือ คุณหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธ์ The Money Coach ชายหนุ่มที่ได้ของขวัญวันรับปริญญาวิศวะจุฬาฯ ด้วยหนี้สินหลักสิบล้านที่เกิดจากกิจการของครอบครัวในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เป็นคนชอบตัวเลขเพราะเรียนสายวิศวะจึงมั่นใจว่าความรู้ของตัวเองจะแก้ปัญหาการเงินของครอบครัวได้ซึ่งไม่เป็นความจริง เขาจึงเริ่มสู้กับหนี้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มศึกษาเรื่องการเงินอย่างจริงจังเพราะเชื่อว่าไม่มีใครช่วยเราได้ถ้าเราไม่เป็นฝ่ายลุกขึ้นมาแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน เขาตะลุยอ่านหนังสือ how to ด้านการเงินทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพ่อรวยสอนลูกและอื่นๆ เขาเดินเข้าไปคุยกับธนาคารเพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการแก้ปัญหาและทยอยจ่ายหนี้ เขาสู้สุดใจและใช้เวลา “กว่า 10 ปี” ในการปลดหนี้จนสำเร็จ จึงมีความมุ่งมาดปรารถนาว่าจะสอนให้คนเข้าใจ อยู่เป็น เห็นโอกาส และเรียนรู้จากการเป็นหนี้ เขามองว่าคนเป็นหนี้ไม่ใช่ทุกคนเป็นคนฟุ่มเฟือย บางคนเป็นคนดีแต่มีหนี้เพราะมีภาระที่ต้องดูแลครอบครัว ต้องมองกันในแง่ดีก่อนแล้วจึงให้ความช่วยเหลือคนเหล่านั้น เขาเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อให้ความรู้ด้านการเงินกับคนเป็นหนี้ เขาอุทิศชีวิตแต่ละวัน #เพื่อคนไทยเข้าใจเรื่องการเงิน

นี่เป็นตัวอย่างเรื่องราวน่าประทับใจจากวิทยากร 3 ท่านจากหลายๆ ท่าน ที่ดิฉันอยากนำมาเล่าให้ฟัง วิทยากรทุกท่านที่มาแชร์ประสบการณ์ทำให้พวกเราตื่นตระหนักว่า การตั้งความมุ่งมาดปรารถนา (purpose) ที่ทำให้พวกเรามีแรงบันดาลใจและพลังในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เป็นเรื่องสำคัญมาก มันทำให้เราทำงานอย่างมีความสุข มีเป้าหมาย และสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ โดยไม่ต้องหลงทิศหลงทางกับสังคมและสภาพแวดล้อมที่ทำให้เราจิตตกหรืออ่อนแอจนลืม เป้าหมายของการมีชีวิตอยู่