ศึกชิง‘ศาลาเสาชิงช้า’ วัดพลัง-กู้ศักดิ์ศรี
เรียกได้ว่า “ร้อนฉ่า!” ไม่แพ้การเมืองระดับชาติ สำหรับศึกชิง “ศาลาเสาชิงช้า” อย่างเก้าอี้ “ผู้ว่าฯ กทม.” ซึ่งถือเป็น “ศึกวัดพลัง”
ระหว่างพรรคการเมืองทั้ง “พลังประชารัฐ” ที่ว่ากันว่าเตรียมดันผู้ว่าฯพะเยา “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ซึ่งฝากผลงานไว้ในเหตุการณ์ช่วย 13 ชีวิตถ้ำหลวง ชนกับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เจ้าของฉายารัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีจาก “พรรคเพื่อไทย”
หากเทียบเคียงผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดในวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า “30 ที่นั่ง ส.ส.กทม.” ถูกแบ่งเป็น 3 พรรค นั่นคือพลังประชารัฐ 12 ที่นั่ง เพื่อไทย 9 ที่นั่ง และอนาคตใหม่ 9 ที่นั่ง ขณะที่ประชาธิปัตย์เจ้าของพื้นที่เดิมไม่สามารถปักธงได้แม้แต่ที่นั่งเดียว
ศึกคราวนี้นอกจากจะเป็นการวัดพลังระหว่าง “พลังประชารัฐ” และ “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” เพื่อรักษาพื้นที่แล้ว ยังถือเป็นศึก “กู้คืนศักดิ์ศรี” ของ “ประชาธิปัตย์” ที่แม้จะเป็น “แชมป์เก่า” ในสนามผู้ว่าฯ กทม.ในช่วง “10 ปี 4 สมัย” ที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุค “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” (2 สมัย) มาจนถึงยุค “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” (2 สมัย)
แต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ปชป.เองก็บอบช้ำจากสภาวะขาลง หลังพ่ายศึกชนิด “ไร้ที่นั่ง” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ดังนั้น ศึกครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสในการฟื้น ปชป.และส่งผลไปยังสนามเลือกตั้ง ส.ก.-ส.ข.อีกด้วย
ทว่าขณะนี้ ปชป.เองยังติดไม่ตก หลัง “แกนนำ พปชร.” เปิดดีลไม่ให้ส่งคนลงแข่งด้วยเหตุผล “จะเป็นการตัดคะแนนกันเอง” และอาจทำให้ พปชร.เพลี่ยงพล้ำได้ หากท้ายที่สุด “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” เลือกที่จะเดินเกม “รวมแต้ม” ส่ง “ชัชชาติ” ลงชิงเพียงคนเดียว
ขณะที่ท่าที พปชร.ล่าสุดมีแนวโน้มว่า “ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์” อาจติดปัญหาคุณสมบัติเนื่องจากอยู่ทะเบียนบ้านไม่ครบ 1 ปี สอดคล้องกับซุ่มเสียงจากทางแกนนำที่ถึงขั้นเอ่ยปากว่า “หากไม่สามารถส่งคนมีชื่อเสียงที่สูสีกับชัชชาติได้ เชื่อว่าเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ต้องอยู่ในมือของเพื่อไทยแน่นอน” แรงกดดันจึงตกไปที่ ปชป.เต็มๆ เพราะหากเลือกที่จะไม่ส่งผู้สมัครนั่นย่อมเป็นเสียโอกาสกู้คืนศักดิ์ศรี และอาจส่งผลให้พรรคสูญพันธุ์ในสนาม กทม.อย่างถาวรก็เป็นได้
ศึกครั้งนี้จะชี้ชะตาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า “บิ๊กเสาชิงช้า” คนที่ 17 จะเป็นใครอีกไม่นานคงได้รู้กัน?
โดย... ดารากร