Freedom Within A Framework

ไม่ว่าจะเป็นคนเจน Y เด็กเจน Z หรือกระทั่งมนุษย์เจน X ที่ชีวิตวุ่นวายยุ่งเหยิงกับการทำงานตลอดเวลาด้วยเทคโนโลยี ล้วนต้องการสิทธิในการเลือก ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ ขอเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองก็ยังดี

หัวข้อซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในการเทรนด์ตอนนี้ของผมคือ Freedom Within A Framework (FWF) อิสระโดยไม่ล้ำเส้น

“Dr Tan, I’m really fascinated by the Freedom Within A Framework idea.” โอลิเวีย ผู้จัดการอาวุโสของธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งบอกกับผม “But the problem is, I don’t know how to put it into practice.” เธอบอกว่ามีลูกน้องในทีมถึง 15 คน เคยลองให้อิสระแล้วมันเกิดปัญหาวุ่นวายตามมาไปหมด

“Would you like me to show you something to see if it helps?” ผมถาม โอลิเวียพยักหน้าทันที

“งั้นเอากระดาษนี่ไป แล้วผมอยากให้คุณเขียน Values & Purpose ของทีมลงไปในนั้น” ผู้จัดการท่านนี้ผ่านหลักสูตรของ Iclif ซึ่งพูดเรื่อง Leadership Energy มาแล้ว จึงเข้าใจดีว่าผมหมายถึงอะไร

สิ่งที่เธอเขียนคือ 1) Integrity 2) Results 3) Excellence 4) Customer Centric and 5) Teamwork และ To become the number one branch in the region

“ดีมากครับ คราวนี้เอากระดาษแผ่นนี้บ้าง เขียน Values & Purpose ของพนักงานที่คุณมีปัญหาอยู่ลงไป” ผมส่ง Post-it ให้อีกแผ่น

เจ้าตัวใช้เวลานานกว่าครั้งแรก สุดท้ายก็เขียนออกมาได้ว่า 1) Harmony 2) Integrity 3) Security 4) Family and 5) Accuracy ส่วน Purpose ของพนักงานคนนี้ เธอคิดว่าน่าจะเป็น To be a good father and a responsible worker

“เอาล่ะครับ ลองดูกระดาษสองแผ่นนี้ แล้วบอกผมว่ามันมีส่วนทับซ้อน Overlapping กันมากน้อยแค่ไหน”

ผู้จัดการท่านนี้นั่งคิดอยู่พักนึง ก่อนตอบว่าประมาณ 4 จาก 10 น่าจะตรงส่วน Harmony and Integrity

“คำถามสุดท้าย ปัจจุบันนี้คุณให้อิสระเค้ามากแค่ไหน? จาก 1-10?” คำตอบคือ 8

“นั่นล่ะคือปัญหา คุณให้อิสระเค้ามากเกินไป”

ข้อคิดสำหรับผู้นำสมอง

1. Managing by FWF Freedom Within A Framework ไม่ได้แปลว่าให้อิสระมั่วซั่ว แต่ความไว้วางใจต้องมาคู่กัน ซึ่งเกิดจากความเข้าใจใน Values & Purpose หัวหน้าสมัยนี้ไม่ต้องเน้นการสอนทักษะหรือความรู้เหมือนเมื่อก่อน เพราะลูกน้องมี Google และ YouTube สิ่งที่ผู้นำต้องทำคือการปลูกฝังและปรุงแต่ง Values & Purpose โดยรางวัลก็คืออิสระและความไว้วางใจที่แต่ละคนจะได้รับ คุณผู้อ่านลองดูภาพประกอบนะครับ เมื่อลูกน้องโชว์ว่าตนเองเข้าใจใน Values & Purpose ของทีม และสามารถปรับให้ตนเองคิดและปฏิบัติอย่างสอดคล้อง High Alignment เขาก็ควรได้รับ High Freedom เช่นกัน (โซน 3) แต่ในกรณีของลูกน้องโอลิเวีย ความสอดคล้องดังกล่าวยังอยู่ใน

ระดับ 4 แต่อิสระที่ได้คือระดับ 8 (โซน 4) เป็นความเสี่ยงของทีมว่าสมาชิกคนนี้อาจตัดสินใจไม่เหมาะสม เช่น ไปร่วมงานแสดงโชว์ของลูกสาว (Family) โดยส่งงานช้า (Results) เป็นต้น กรณีนี้ผมบอกโอลิเวียว่าเธอ “ให้อิสระเขามากเกินไป”

2. Give freedom to those who have earned it สิ่งที่น่าแปลกคือ เมื่อผมลองแบบฝึกหัดนี้กับผู้บริหารในห้องเทรนหรือห้องโค้ช ผู้นำส่วนมากบอกว่าคนของตนเข้าใจ Values & Purpose ของทีมเป็นอย่างดี ล่าสุด ในหลักสูตรองค์กรซึ่งมีพนักงานร่วมหมื่นคน 78% ของคนเรียนบอกว่าทีมของตนเองมี High Alignment และ 22% บอกว่ามี Good Alignment ซึ่งถ้าดูใน FWF chart จะเห็นว่าควรให้อิสระในการทำงานกับพวกเขา แต่ในทางปฏิบัติองค์กรกลับบริหารแบบตีกรอบ มีกฎ กติกา นโยบาย ผู้ตรวจสอบ คณะกรรมการพิจารณา มากมายไปหมด ทำให้พนักงานรู้สึกกดดัน เครียด ไม่กล้าออกความเห็น ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่คิดอะไรนอกเหนือไปจากขั้นตอนที่ต้องทำ

ในหนังสือ Open Source Leadership (2017), the author Rajeev Peshawaria highlights the fact that in today’s business environment, speed is everything and the ability to remain agile and nimble in an ever-changing landscape is critical. Unfortunately, many of today’s organisations still operate as if it were 1990 by not trusting their employees and imposing strict internal rules, policies, processes, and procedures. The result is a bureaucracy.

Organisations and leaders should relook at how they are managing their people by Freedom Within A Framework and adapt their approach, especially if they have earned it.

“Wow, thank you Dr Tan. This is very helpful!” โอลิเวียยิ้มอย่างยินดี “มันมีประโยชน์มากจริง ๆ ฉันเริ่มเห็นภาพแล้วว่าคนในทีมแต่ละคนนั่งอยู่ตรงจุดไหนบ้างในชาร์ตนี้ และควรต้องทำอย่างไรในการให้พวกเขาไปสู่การทำงานแบบ Freedom Within A Framework!”