ไขข้อข้องใจ ปิดเทอมแล้ว (ให้ลูก) ทำไรดี?
ปิดเทอมช่วงเดือน ต.ค. ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ “จะปิดเทอมแล้ว ให้ลูกทำไรดี?” วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจ
ปลายเดือน ก.ย. เป็นช่วงเวลาแห่งการสอบของนักเรียนไทย ทั้งประถมและมัธยม ขณะที่เด็ก ๆ กำลังตื่นเต้นที่จะได้ปิดเทอม แต่ภาระหน้าที่ของผู้ปกครองที่ไม่มีคำว่าปิดเทอม แต่กลับต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าช่วงปิดเทอมจะจัดการเวลาของเด็กอย่างไรดี เพื่อเป็นประโยชน์กับเด็กและเหมาะสมกับแต่ละครอบครัวภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกัน
“จะปิดเทอมแล้ว ให้ลูกทำไรดี” เป็นคำถามยอดฮิตไม่ใช่แต่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น ผู้ปกครองทั่วโลกก็มีคำถามแบบนี้เช่นเดียวกัน ข้อดีของผู้ปกครองในประเทศที่มีสวัสดิการดีและวันลาหยุดมาก ๆ ส่วนใหญ่ผู้ปกครองมักจะมีวันลาหยุดหลายสัปดาห์ จึงสามารถดูแลลูกให้เวลาในช่วงปิดเทอมนั้นเกิดประโยชน์และความสุขกับเด็กได้
หลายประเทศในโลกตะวันตก อาทิ ยุโรป จะมีวันหยุดครึ่งปีเรียกว่า Summer vacation ซึ่งจะตรงกับปิดเทอมเล็กของเด็กพอดี ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ของทุกปี ซึ่งเป็นหน้าร้อนของยุโรป เพราะได้หยุดพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวจึงถือโอกาสนี้พักผ่อนประจำปี อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองในยุโรปหรือสหรัฐก็จะประสบพบเจอกับคำถามเดียวกันกับผู้ปกครองไทยอยู่ดีในช่วงปิดเทอมใหญ่
หลายประเทศในเอเชียไม่ได้เปิดโอกาสให้พนักงานหยุดยาว ๆ ในช่วงที่ตรงกับปิดเทอมของเด็ก ๆ ทำให้เราเห็นภาพของธุรกิจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการในการใช้เวลาช่วงปิดเทอมให้ตรงตามจุดประสงค์ของแต่ละครอบครัว
ปิดเทอมในสมัยก่อน ผู้ปกครองนิยมส่งลูกไปเรียนพิเศษ คณิต วิทย์ อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนซึ่งเปิดเป็นช่วงซัมเมอร์หรือช่วงสั้น ๆ รับปิดเทอม หรือไปเรียนนอกสถานที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงเรียนกวดวิชา หรือเรียนภาษาในต่างประเทศ แต่ในปัจจุบันมีทางเลือกมากกว่านั้นมาก
ศิลปะและดนตรี เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ปกครองที่อยากจะส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านอื่นนอกเหนือจากทางวิชาการ ซึ่งมีพ่อแม่ไม่น้อยที่ส่งเสริมอย่างเป็นจริงเป็นจัง โรงเรียนดนตรีและศิลปะเกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับเวทีการแข่งขันทั้งในประเทศและนานาชาติ อาทิ เวทีประกวดร้องเพลง เวทีแข่งขันการแสดงหรือดนตรีนานาชาติ
กีฬาพิเศษ อาทิ เทนนิส ฮอกกี้ ขี้ม้า แล่นเรือใบ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นอกจากจะช่วยให้เกิดการพัฒนาทางกายภาพแล้ว ยังพัฒนาด้าน EQ ให้เรียนรู้ในการทำงานเป็นทีม มีสปิริตนักกีฬารู้จักแพ้รู้จักชนะ มีวินัยและเคารพต่อระเบียบซึ่งจะช่วยให้เด็กเติบโตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งในปัจจุบันได้มีรอบการแข่งขันหรือ tournament ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายทั้งในและนอกประเทศ
ค่ายวิทยาศาสตร์ STEM หรือคอร์สเกี่ยวกับหุ่นยนต์ เป็นทางเลือกที่ผสมผสานระหว่างวิชาการและความสนุกสนาน ทุกกระบวนการเรียนรู้แผงความสนุกสนานภายใต้การทดลองที่ง่าย ไม่ต้องท่องจำเพราะเห็นผลจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในไทย และก็มีเหรียญรางวัลมากมายรออยู่ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ค่าย Adventure camp นำเสนอให้เด็กได้สนุกอย่างเต็มที่ในสถานที่ที่ปลอดภัยมีมาตรฐานและบุคลากรที่มีประสบการณ์ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในเมืองนอกเพราะเชื่อว่าชีวิตต้องมีสมดุล (Work-life balance) และกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับประเทศในเอเชีย ที่มักจะส่งบุตรหลานไปแคมป์เหล่านี้ในช่วงปิดเทอมในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์เป็นต้น ส่วนใหญ่จะถูกผนวกรวมอยู่กับการไปเที่ยวต่างประเทศเปิดประสบการณ์ใหม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเด็กได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ภายใต้สิ่งแวดล้อมใหม่พร้อมกับมิตรภาพกับเพื่อน ๆ ร่วมค่าย
เวลาปิดเทอมจึงเป็นโอกาสทองของพ่อแม่ที่จะมอบความทรงจำที่ดีแก่บุตรหลาน และโอกาสของเด็กในการพัฒนาตนเองสู่อาชีพหรือความชอบในอนาคต