ทรัมป์เผยปูติน ต้องการประชุม สงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเร็วที่สุด

ทรัมป์เผยปูติน ต้องการประชุม สงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเร็วที่สุด

ทรัมป์เผย ปูตินแสดงความสนใจที่จะประชุมเกี่ยวกับสงครามกับยูเครน ด้านนายกฯ สโลวาเกียเข้าพบปูตินเป็นการส่วนตัว หารือสถานการณ์ระหว่างประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ในงาน ประชุมจุดเปลี่ยนอเมริกา Turning Point’s America Fest เมื่อวันอาทิตย์ (22 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น 

 “ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่าเขาต้องการพบกับผมโดยเร็วที่สุดดังนั้น เราต้องรอการประชุมนี้ เราต้องยุติสงคราม สงครามนั้นเลวร้ายมาก” ทรัมป์กล่าว เขามีกำหนดสาบานตนเป็นประธานาธิบดีในเดือน ม.ค. ก่อนหน้านี้ช่วงหาเสียงทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า  หากได้รับเลือกตั้ง เขาสามารถยุติสงครามได้ “ภายใน 24 ชั่วโมง” 

เมื่อไม่นานนี้ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์การเปลี่ยนแปลงนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐจัดหาให้ในการโจมตีเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย

ว่าที่ประธานาธิบดียังกล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่า ยูเครน “อาจ” ได้ รับความช่วยเหลือทางทหารน้อยลงจากสหรัฐเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่ง ยูเครนพึ่งพาพันธมิตรระหว่างประเทศอย่างมากใน ด้านความช่วยเหลือทางทหาร การเงิน และมนุษยธรรม ซึ่ง

 ช่วยให้ยูเครนสามารถทำงานต่อไปในฐานะรัฐ และต่อสู้กับรัสเซียได้หลังจากสงครามดำเนินมาเกือบ 3 ปี

“ทหารจำนวนมากถูกสังหาร... มันเป็นพื้นที่ราบ และกระสุนก็พุ่งออกไป มีกระสุนที่ทรงพลัง ปืนที่ทรงพลัง และสิ่งเดียวที่จะหยุดพวกมันได้คือร่างกาย มนุษย์” ทรัมป์กล่าวในวันอาทิตย์ 

เมื่อต้นเดือนนี้ ทรัมป์ได้พบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนในกรุงปารีส ร่วมกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ก่อนที่จะเปิดอาสนวิหารนอเทรอดามอีก ครั้ง หลังจากการประชุมกัน ทรัมป์เรียกร้องให้ “หยุดยิง ทันที”

นายกฯ สโลวาเกียพบปูติน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน เป็นเจ้าภาพต้อนรับ นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย โรเบิร์ต ฟิโก ในการเยือนเครมลินของผู้นำสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก นับตั้งแต่ที่มอสโกบุกยูเครนเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2022

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน เปิดเผยกับสำนักข่าว RIA ของรัสเซียว่าฟิโกเดินทางถึงรัสเซียเพื่อ “เยือนเพื่อเจรจางาน” และเข้าพบปูตินเป็นการส่วนตัวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ ตาม คำกล่าวของเปสคอฟ คาดว่าการเจรจาจะให้ความสำคัญกับ  “สถานการณ์ระหว่างประเทศ” และการส่งมอบก๊าซธรรมชาติ ของรัสเซีย

ก๊าซธรรมชาติของรัสเซียยังคงถูกส่งผ่านท่อไปยังประเทศใน ยุโรปบางประเทศ รวมถึงสโลวาเกีย ผ่านประเทศยูเครนภายใต้ข้อตกลงระยะเวลา 5 ปีที่ลงนามก่อนสงคราม ซึ่งสัญญานี้ จะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปีนี้ ในการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดี เซเลนสกีของ ยูเครน กล่าวกับผู้นำสหภาพยุโรปว่าเคียฟไม่มีเจตนาจะต่อ อายุข้อตกลง ซึ่งฟิโกยืนยันว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ ของประเทศสโลวาเกีย

เมื่อเดือนที่แล้ว สโลวาเกียได้ลงนามในสัญญานำร่องระยะ สั้นในการซื้อก๊าซธรรมชาติจากอาเซอร์ไบจาน เพื่อเตรียม รับมือกับการหยุดส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียผ่านยูเครนที่ อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อต้นปีนี้ สโลวาเกียได้บรรลุข้อตกลงใน การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐผ่านท่อส่งจาก โปแลนด์

นอกจากนี้ ประเทศยังสามารถรับก๊าซผ่านเครือข่ายของ ออสเตรีย ฮังการี และเช็ก ซึ่งทำให้สามารถนำเข้าจาก เยอรมนีและซัพพลายเออร์รายอื่นๆ ได้อีกด้วย

ผู้นำยุโรปไม่ค่อยได้เข้าพบปูตินนับตั้งแต่ที่มอสโกส่งทหาร เข้าไปในยูเครน แม้ว่านายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บานของ ฮังการีจะเยือนรัสเซียในเดือนกรกฎาคม และนายกรัฐมนตรี

 คาร์ล เนฮัมเมอร์ของออสเตรียก็ได้พบกับผู้นำรัสเซียเพียงไม่ กี่สัปดาห์หลังจากสงครามเต็มรูปแบบเริ่มขึ้น การเดินทางทั้ง สองครั้งทำให้ผู้นำเคียฟและยุโรปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ออร์บานซึ่งเป็นผู้นำสหภาพยุโรปส่วนใหญ่มองว่ามีความ สัมพันธ์ที่อบอุ่นที่สุดกับปูติน ได้ขัดขวาง ถ่วงเวลา หรือลด ทอนความพยายามของสหภาพยุโรปที่จะช่วยเหลือเคียฟและ คว่ำบาตรมอสโกบ่อยครั้ง ออร์บานยืนกรานมาเป็นเวลา นานว่าการยุติการสู้รบในยูเครนนั้นไม่ได้ให้รายละเอียด ว่าการยุติการสู้รบดังกล่าวอาจส่งผลต่อบูรณภาพแห่งดินแดน หรือความมั่นคงในอนาคตของประเทศอย่างไร

ฟิโก มีมุมมองต่อสงครามของรัสเซียกับยูเครนแตกต่างอย่าง สิ้นเชิงจากผู้นำยุโรปคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ นายกรัฐมนตรีสโลวา เกียกลับมามีอำนาจอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วหลังจากที่พรรคฝ่าย ซ้าย Smer (ทิศทาง) ของเขาชนะการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา ด้วยนโยบายที่สนับสนุนรัสเซียและต่อต้านอเมริกา ตั้งแต่นั้น มา เขาก็ยุติความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครน กล่าวโจมตี การคว่ำบาตรรัสเซียของสหภาพยุโรป และให้คำมั่นว่าจะขัด ขวางไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต

ฟิโก ยังเป็นนักการเมืองระดับสูงของสหภาพยุโรปเพียงไม่กี่ คนที่ปรากฏตัวทางโทรทัศน์แห่งรัฐของรัสเซียหลังจากที่ มอสโกว์รุกรานยูเครน ในการสัมภาษณ์กับทีวีช่อง Rossiya-1 เมื่อเดือนตุลาคม เขาโต้แย้งว่าฝ่ายตะวันตกว่า “ยืดเวลาวงคราม” โดยสนับสนุนยูเครน และเสริมว่าการคว่ำบาตรรัสเซียนั้นไม่ได้ผล เขาประกาศว่าเขาพร้อมที่จะเจรจากับปูติน

นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะเข้าร่วมขบวนพาเหรดทาง ทหารในกรุงมอสโกในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะเป็นวัน ครบรอบ 80 ปีแห่งการพ่ายแพ้ของกองทัพนาซีเยอรมนีใน สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเครมลินใช้การเฉลิมฉลอง “วันแห่งชัยชนะ” ประจำปีเพื่อประกาศความกล้าหาญในสนามรบ และปูตินยังยกย่องกองทหารรัสเซียที่ต่อสู้ในยูเครนว่าเป็น “วีรบุรุษ”