เลือกซ่อมขอนแก่น เดิมอยู่“เจ๊หน่อย”อยู่หรือไป

เพราะรู้ว่าสรรพกำลังของ พรรคพปชร. มีเหนือกว่ามาก

ลำพังฐานเสียงของ สมศักดิ์ คุณเงิน จากค่ายพปชร. วัดตัวต่อตัวกับ ธนิก มาสีพิทักษ์ จากค่ายพท. คะแนนไม่ห่างกันมากนัก เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นคนพื้นที่ และทำพื้นที่มานานพอกัน แต่ที่จะเฉือนก็อยู่ที่ กลไกภาครัฐ ที่อาจจะซับพอร์ตอีกฝั่ง ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันได้

ไม่แปลกที่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคพท. จะต้องร่อนหนังสือไปยัง ผู้ว่าฯ-ส่วนท้องถิ่น เรียกร้องให้ ข้าราชการ วางตัวเป็นกลาง เพราะเวลานี้สุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่พรรคพท.จะเสียเก้าอี้ให้พรรคพปชร.

และหากพลาดท่าให้พรรคพปชร.เพิ่มจำนวนเสียงในสภา เมื่อบวกกับ 4 งูเห่าอนค. ที่แปรพักตร์ไปซบ ขั้วรัฐบาล ไปก่อนหน้านี้ ยิ่งยากที่ พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยกมือสู้หรือเล่นเกมเสี้ยม เพื่อ ขัดแข้ง-ขัดขา พรรคร่วมรัฐบาลให้ทะเลาะกันเองได้อีก

ที่สำคัญศึกเลือกตั้งซ่อม เขต 7 จ.ขอนแก่น เป็นเวทีพิสูจน์ตัวเองของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. ที่หมายมั่นปั้นมือต้องเอาชนะพรรคพปชร.ให้ได้ สุดารัตน์ ลงพื้นที่หาเสียงถี่มาก เพราะพรรคพท.วางเดิมพันไว้สูง

แถมเดิมพันของ สุดารัตน์ ขยับสูงขึ้นไปอีก ภายหลัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคพท. ออกมาจุดพลุเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จน ลูกพรรคพท. พูดกันภายในพรรคว่าหมดยุคของ สุดารัตน์ แล้ว พรรคพท.เตรียมผลัดใบอีกรอบ

ดังนั้นหาก สุดารัตน์ นำทัพพรรคพท. แพ้ศึกเลือกตั้งซ่อม เขต 7 จ.ขอนแก่น มีหวังโดนยึดพรรคคืนอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา สุดารัตน์ มักโดน ส.ส.-แกนนำพรรคพท. ปล่อยข่าวเลื่อนเก้าอี้ทุกวี่วัน

แถมล่าสุดมีแรงต่อรองจาก ส.ส.กทม. ยื่นข้อเสนอให้ แกนนำพรรคพท. ตัดสินใจเลือกส่ง สุดารัตน์ ชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคพท. เพราะเกรงว่าหากต้องหลบให้กับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ลงในนามอิสระ จะทำให้พรรคพท.เสียฐานเสียง-เสียความนิยม ในพื้นที่กทม.ทันที

ทว่าบรรดา แกนนำพรรคพท. ที่ไม่นิยมชมชอบ สุดารัตน์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ยอมรับข้อเสนอของ ส.ส.กทม. เพราะเกรงว่าจะตัดคะแนนกันเอง

สนามเลือกตั้งซ่อม เขต 7 จ.ขอนแก่น จึงเป็นตัวชี้วัดว่า สุดารัตน์ จะดีพอไปต่อในฐานะ ผู้นำพรรคพท. ได้หรือไม่

โดย... หมัดเมา