'ยงยุทธ-จตุพร' หันหน้าไปคนละทาง สร้างดาวกันคนละดวง
แม้สองพ่อลูกตระกูล ติยะไพรัช จะเว้นวรรคทางการเมืองในทางนิตินัย แต่ทางพฤตินัย ก็ยังรับบท คนเบื้องหลัง
คอยสนับสนุนพรรคการเมืองในเครือข่าย “ชินวัตร”
ทุกวันนี้ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” และลูกชาย-มิตติ ได้จัดตั้ง “กลุ่มพลเมืองร่วมใจ” เดินสายให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตย และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในแถบภาคเหนือตอนบน
“มิตติ ติยะไพรัช” ประธานที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด รับบทประธานกลุ่มพลเมืองร่วมใจ เนื่องจากเป็นคนหนุ่มผู้สร้างทีมลูกหนังภาคเหนือประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรก กลายเป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่
อีกรายหนึ่งคือ “พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาร่วมเดินสายเสวนารับฟังความคิดเห็นประชาชน พร้อมกับคนในตระกูล “ติยะไพรัช”
คาดหมายว่า พรรคเพื่อชาติคงไม่ได้ไปต่อในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า และกลุ่มพลเมืองร่วมใจ อาจแปรสภาพเป็นพรรคการเมือง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ตามความฝันของยงยุทธ และลูกชาย
ส่วน "พรรคเพื่อชาติ” เริ่มต้นจากร้านกาแฟพีซ คอฟฟี่ แอนด์ไลบรารี่ ชั้น 5 อิมพีเรียล ลาดพร้าว โดยมีจตุพร พรหมพันธุ์ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ และยงยุทธ ติยะไพรัช สุมหัววางแผนตั้งพรรค
นาทีนี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อชาติ 5 คน แยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มสงคราม-ยงยุทธ 4 คน ส่วนกลุ่มจตุพร มีคนเดียว “อารี ไกรนรา” อดีตหัวหน้าการ์ด นปช.
พักหลัง จตุพรได้พบปะ “เพื่อนร่วมอุดมการณ์” ยุคพฤษภาทมิฬบ่อยครั้ง แม้ช่วง “สงครามเสื้อสี” จะเหินห่างกันไปบ้าง เมื่อวันเวลาผ่านไป สถานการณ์คลี่คลาย ความเป็นเพื่อนก็ยังดำรงอยู่ จึงปรับจูนความคิดกันได้ไม่ยาก
ว่ากันว่า จตุพร กำลังถอยออกจากอาณาจักร “ชินวัตร” อย่างมีจังหวะก้าว ตรงกันข้ามกับยงยุทธที่ยังรับใช้ “ชินวัตร” สุดหัวสุดตัว
ก้าวแรกในการถอยของจตุพรคือ การสร้าง “พรรคสามัคคีไทย” โดยมอบให้ ธนชาติ ไชยทองพันธ์ นักการเมืองท้องถิ่นจากสกลนคร เป็นผู้ดำเนินการไว้รองรับอุบัติเหตุทางการเมือง
ก้าวที่สอง จตุพรและเพื่อนพ้องน้องพี่ กำลังร่างพิมพ์เขียวพรรคการเมือง ที่เป็นเสมือนบ้านพักหลังใหญ่ของนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ยุคพฤษภาคม 35
พรรคใหม่ในฝันของจตุพร จะสร้างความปรองดอง ข้ามพ้นเสื้อสี และร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทย