1 ประโยคกับ 1คำถามที่จะช่วย “เปลี่ยนอนาคต” ในยุคโควิด!
Part 1. เมื่อ.....เมื่อสภาพทางธุรกิจของโลกและในประเทศเปลี่ยนไป ภายใต้สถานการณ์โควิด
ถึงแม้ในประเทศไทยจะอยู่ในเริ่มผ่อนคลายมารตการต่างๆเพื่อเอื้อให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิต (ภายใต้เงื่อนไขที่เปลี่ยนไปรวมทั้งในภาคธุรกิจที่พยายามกลับมาดำเนินธุรกิจ (ภายใต้เงื่อนไขที่เปลี่ยนไปเช่นกัน)
แต่ทุกคนก็รู้ว่า แทบทุกอย่างแตกต่างจากเดิม(อวัยวะชิ้นที่34 รองลงมาจากโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นมา
ติดตัวเมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอกหรือไปทำงานคือ หน้ากากอนามัย) การเว้นระยะห่างในการเดินทาง ในการทำกิจกรรมต่างๆ ทุกอย่างรวมไปถึงการกินนอกบ้านที่.. “ไม่เหมือนเดิม”
ชีวิตส่วนตัวของผู้คน ส่งผลกับการบริโภคการจับจ่ายใช้สอยและกำลังซื้อที่แตกต่างจากเดิม ลดลงกว่าเดิม ย่อมส่งผลกับธุรกิจจำนวนมากที่ต้องเลิกคิดเลิกฝันถึง อดีตอันหอมหวานในช่วงก่อนโควิดจะมาเยือน
สิ่งที่ผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจควร “สื่อสารและตั้งคำถามกับพนักงาน” โดยเฉพาะระดับหัวหน้าและผู้จัดการในทุกสายงานคือ
Part 2. ข้อห้าม!
“อย่าคิดและทำทุกอย่างเหมือนเดิม!”
ข้อนี้สำคัญที่สุด! สำคัญเพราะ แทบทุกอย่างแตกต่างจากเดิมแต่ถ้ายังคิดและทำแบบเดิม โดยตรรกะแล้วมันไม่มีทางที่จะสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอยู่แล้ว!
ตัวอย่างเช่น... ธุรกิจร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านที่อยู่นอกห้าง และโดยเฉพาะร้านที่อยู่ในห้าง จากเดิมเน้นให้คนมาทานที่ร้าน ได้ทั้งรสชาดอาหาร ประสบการณ์ต่างๆ ที่ร้านพยายามส่งมอบในร้าน รวมไปถึงมากันหลายคนมากันแบบครอบครัว แต่ทุกวันนี้ ต่อให้ครอบครัวหรือเพื่อนฝูงมากินที่ร้าน ก็จะได้รับประสบการณ์แบบ มานั่งกันได้แบบ “นั่งห่างๆอย่างเหงาๆ” มีวัสดุมากั้นระหว่างเราในโต๊ะเดียวกัน!
ธุรกิจร้านอาหารที่เปิดให้นั่งในห้าง รายได้ตกแบบฮวบฮาบ เพราะข้อจำกัดหลายอย่าง ถ้ายังคิดและทำแบบเดิม ก็เหมือนกับปล่อยให้ ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้หลายเท่า ไม่ปรับก็ต้องปิด!
Part 3. ยังคงเน้นข้อห้ามเช่นกัน!
ในธุรกิจอื่นๆก็เช่นกัน โดยเฉพาะหน่วยงานที่ต้อง ติดต่อหรือรับการติดต่อจากลูกค้า ทั้งในส่วนงานขาย งานให้บริการ หรืออื่นๆ จะไม่สามารถทำอะไรแบบ ชิลๆสบายๆเหมือนแบบที่เคยทำ เพราะพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปภายใต้ เงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้โควิดที่ผูกมัด
ในส่วนงานอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับงานขายหรือบริการ แต่ต้องติดต่อกับคู่ค้าหรือบุคคลภายนอก ก็ไม่สามารถทำอะไรแบบเดิมๆสบายๆได้อีกต่อไป
ไม่ต้องพูดถึงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่แทบทุกธุรกิจรายได้ลดลง หรือรายได้หายไปอย่างน่าใจหาย ถ้าต้องการประคองให้อยู่รอด หรือไปถึงขั้นพลิกวิกฤติเป็นโอกาสให้ได้ในอนาคตอันใกล้
สิ่งที่ต้องสื่อสารให้ทุกคนทุกหน่วยงานรับรู้ เข้าใจตรงกัน จนเปลี่ยนออกมาเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดคือ “อย่าคิดและทำทุกอย่างเหมือนเดิม!”
Part 4. ถาม!
เมื่อสื่อสารให้ห้ามคิดห้ามทำทุกอย่างเหมือนเดิมแล้ว สิ่งที่ผู้นำและเจ้าของธุรกิจควรทำอย่างต่อเนื่องคือ “การตั้งคำถาม”
หนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้มาโดยตลอดจาก อาจารย์ท่านหนึ่ง (เป็นทั้งอาจารย์และ Coach ตัวจริง) และเป็น Coach คนแรกๆ ที่บุกเบิกเรื่อง Coach ในประเทศไทย ปัจจุบันท่านเป็น Executive Coach ลำดับต้นๆของประเทศ คือ Coach เกรียงศักดิ์ นิรัตพัฒนะศัย (The Coach) ที่เชี่ยวชาญและเน้นมากในเรื่อง “การตั้งคำถาม” ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า การตั้งคำถามที่ดี จะช่วยให้เราค้นพบคำตอบที่ดียิ่งกว่า และบ่อยครั้งเป็นคำตอบ หรือเป็นทางออกที่เราไม่คาดคิด!
ขอนำสิ่งที่เรียนรู้ ในเรื่องทักษะการตั้งคำถามที่ผมได้เรียนรู้มาจากCoach เกรียงศักดิ์ นิรัตพัฒนะศัย มาสร้างคำถามให้ท่านลองนำคำถามไปถามทีมงานโดยเฉพาะระดับผู้จัดการและหัวหน้างานทุกสายงานของท่าน..
คำถามเพียงคำถามเดียวนี้ (Less is More) จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่คำถามอื่นๆ ไปสู่การจุดประกาย ไปสู่ไอเดีย จนท้ายที่สุดไปสู่การนำไปปฏิบัติให้เกิดผลที่ท่านอาจไม่คาดคิดได้...
คำถามตั้งต้นคำถามเดียว...
“อะไรบ้างที่เราควรคิดควรทำให้ต่างจากเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันและสิ่งที่กำลัง เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้?”
ให้ถามคำถามนี้กับพนักงานทุกคน และเน้นไปที่ระดับหัวหน้า/ผู้จัดการไปจนถึงผู้บริหาร ให้คิด ให้หาคำตอบอย่างสร้างสรรค์ อย่างจริงจัง จนกว่าจะได้คำตอบ!
Part. 5 คำตอบและทางออก
ท่านจะได้ไอเดีย แนวคิดจำนวนมาก ถ้าท่านถามอย่างจริงจัง สร้างสรรค์ ไม่ได้ถามแบบคาดคั้น แต่ถามให้ทุกคนทุกหน่วยงานช่วยคิดช่วยหาคำตอบ
ลองนำบางไอเดียหลายๆไอเดียที่น่าสนใจ มาทดลองปฏิบัติ ถามและทำแบบนี้สักระยะ ภายในเดือนสองเดือน จากคำถามเพียงคำถามเดียวของท่าน จะช่วยเปลี่ยนหรือยกระดับให้กับแต่ละหน่วยงานที่ได้ลองนำไอเดียไปใช้จนเริ่มเห็นผล ท้ายที่สุดอาจส่งผล ไปจนถึงปรับเปลี่ยนโมเดล ธุรกิจก็เป็นไปได้
ขอให้ธุรกิจของท่าน ค้นพบคำตอบและทางออก ที่ท่านอาจเคยมองไม่ออก ไม่เคยคิด
จาก “ข้อห้าม (อย่าทำเหมือนเดิม)” และ “คำถามที่ควรคิดควรทำต่างจากเดิม” ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนก็ข้างหน้านี้นะครับ ลองดูสิครับ!