อ้างห้องชุด​ รอโอนกรรมสิทธิ์​ จึงไม่จ่ายค่ากองทุน​ ฟังขึ้นห

อ้างห้องชุด​ รอโอนกรรมสิทธิ์​  จึงไม่จ่ายค่ากองทุน​ ฟังขึ้นห

เชื่อว่าอาจเป็นประโยคที่ผู้ซื้อ​ คณะกรรมการ​ หรือผู้จัดการของโครงการ​ นิติบุคคลอาคารชุด​ “หลายแห่ง”

ได้ยินจากปากผู้เเทน​ หรือพนักงานขายห้องชุด หรือผู้ประกอบการ​ ผู้พัฒนาที่ดินโครงการอาคารชุด​คอนโดมิเนียม​ “บ่อยครั้ง” ข้ออ้างดังกล่าว​ที่กล่าว ห้องชุดเหลือขายจำนวนหนึ่งหรือรอโอนกรรมสิทธิ์กับผู้ซื้อในอนาคต​ ถูกต้อง​หรือไม่​ ตรงตามบทบัญญัติพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาคารชุดหรือไม่?

หากย้อนกลับไป 4-5 ปี​ สำหรับโครงการอาคารชุด​ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด​ ล้วนประสบปัญหาการขายห้องชุดยังไม่ได้​ อาจคงเหลือ​ 20 หรือ​ 30% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมด ผู้ประกอบการ​เจ้าของโครงการ​ ส่วนใหญ่” ไม่จ่ายค่ากองทุนตามข้อบังคับของนิติบุคคอาคารชุด​ ในขณะที่ผู้ซื้อ ผู้บริโภคที่ซื้อ​ จดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ประกอบการ​ เจ้าของโครงการ​ ถูกบังคับจ่าย​ทั้งค่าส่วนกลาง​ล่วงหน้า​ รายปี หรือตามข้อบังคับ​ พร้อมค่ากองทุนตามอัตราที่กำหนด

เมื่อผู้ซื้อ​ คณะกรรมการ​ หรือผู้จัดการ​ สอบถามผู้ประกอบการ​ เจ้าของโครงการ​ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดในฐานะ​เจ้าของร่วมของนิติบุคคลอาคารชุดมักกล่าวอ้างข้อบังคับของนิติฯ กำหนดให้ห้องชุด​ เหลือขาย ​เจ้าของโครงการ​ไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่ากองทุน​ เหตุเพราะอยู่ระหว่างการขาย​ หรือการโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคต​

ผู้ซื้อ​ หรือคณะกรรมการสอบถามผู้ประกอบการ​ เจ้าของโครงการ​ หากไม่มีผู้สนใจซื้อห้องชุด​ หรือไม่สามารถขายห้องชุดจำนวนดังกล่าวได้​ กรณีเกิดความชำรุด​แก่ทรัพย์ส่วนกลาง​ ซึ่งจำเป็นต้องใช้​เงินก้อนโต​เพื่อการซ่อมแซม​ ปรับปรุงทรัพย์ส่วนกลางดังกล่าว​ จะอาศัยเงินจากแหล่งใด​ ในขณะที่นิติบุคคลอาคารชุดมีเงินกองทุนของผู้ซื้อ​จำนวนน้อยนิด​ ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายดังกล่าว​

เจ้าของโครงการ​บางรายไม่ตอบ​ หรืออาจมีเจ้าของโครงการ​บางรายตอบคำถามแก่ผู้ซื้อ​ เมื่อกองทุนของผู้ซื้อ​รายย่อย​ มีไม่เพียงพอกับรายจ่ายค่าซ่อมแซมทรัพย์ส่วนกลางดังกล่าว​ ก็ให้นิติบุคคลอาคารชุดเรียก​หรือจัดประชุมใหญ่เจ้าของร่วมขึ้นมา​ เพื่อพิจารณาเรียกเก็บเงินกองทุนเพื่อการดังกล่าวเป็นการเฉพาะตามมาตรา​ 40 (3) ของ พ.ร.บ.อาคารชุด​ต่อไป ส่วนห้องชุดเหลือขายก็จะจ่ายตามสัดส่วนห้องชุด

ผู้ซื้อ​รายย่อย​บางรายเข้าใจ พ.ร.บ.อาคารชุด​ ถามกลับในระหว่างการขายห้องชุดกับจำนวนห้องชุดเหลือขาย​ ซึ่งตนเองไม่จ่ายค่ากองทุนให้แก่นิติบุคคลฯ ​นั้น เป็นการผิด พ.ร.บ.อาคารชุด​ ตามมาตรา​ 40 และเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อรายย่อยหรือไม่​ ในขณะที่นิติบุคคลฯ​ มีผู้จัดการ​ หรือนิติบุคคล​ถูกแต่งตั้ง​ว่าจ้างโดยเจ้าของโครงการในคราวจดทะเบียน​นิติบุคคลฯ​ ครั้งแรก กับ​ กรมที่ดิน” หรือผู้จัดการรายที่ได้รับแต่งตั้ง​ อาจทราบข้อกฎหมายดี​ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ ให้ถูกต้อง​

ประเด็น​ข้างต้นได้รับการสอบถามกับผู้เขียนเสมอว่า ห้องชุดเหลือขายของเจ้าของโครงการ​ หรือผู้ขาย​ มีหน้าที่ต้องชำระค่ากองทุน ตามอัตราที่ข้อบังคับของนิติบุคคลฯ เฉกเช่นเดียวกับผู้ซื้อรายย่อยหรือไม่​ การค้างจ่ายค่ากองทุนจำนวนห้องชุดดังกล่าวเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อหรือไม่? หรือกรณีไม่จ่าย​ นิติบุคคลฯ สามารถบังคับให้จ่ายได้หรือไม่ อย่างไร​ เป็นต้น

มาตรา​ 40​ ของ พ.ร.บ.อาคารชุด​ ให้เจ้าของร่วมชำระเงินให้แก่นิติบุคคลฯ เพื่อดำเนินกิจการของนิติฯ ดังต่อไปนี้ (1) เงินค่าใช้จ่ายของนิติบุคคลฯ ที่เจ้าของร่วมเเต่ละห้องชุดจะต้องชำระล่วงหน้า (ค่าส่วนกลางตามข้อบังคับ (2) เงินกองทุนเมื่อเริ่มต้นกระทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อบังคับ หรือตามมติของที่ประชุมใหญ่ (เงินกองทุนตามข้อบังคับ) (3) เงินอื่นเพื่อปฏิบัติตามมติของที่ประชุมใหญ่ ภายใต้เงื่อนไขซึ่งที่ประชุมใหญ่กำหนด (เงินค่าใช้จ่ายเฉพาะกิจเป็นครั้งคราว)

เมื่อแปลความตามมาตรา​ 40​ (2) หมายความว่า ห้องชุดเหลือขายของเจ้าของโครงการมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินกองทุนตามอัตราที่ข้อบังคับกำหนดให้แก่นิติบุคคลฯ ณ วันจดทะเบียนนิติฯ

อย่างไรก็ตาม​ ข้ออ้างที่กล่าวว่าข้อบังคับของนิติบุคคลฯ​ ระบุ​กำหนดเจ้าของโครงการไม่ต้องชำระค่ากองทุนกับห้องชุดเหลือขายให้แก่นิติบุคคลฯ​ จะชำระเมื่อมีผู้ซื้อแล้วเท่านั้น ​ที่เขียน​ กำหนดขึ้นโดยเจ้าของโครงการเมื่อคราวจดทะเบียนนิติบุคคลฯ กับ กรมที่ดิน ครั้งเเรกนั้น​ เห็นว่าข้อบังคับดังกล่าวขัดหรือ​แย้งกับ พ.ร.บ.อาคารชุด​ มาตรา​ 3บรรดากฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วใน พ.ร.บ.นี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่ง พ.ร.บ.นี้ ให้ใช้ พ.ร.บ.นี้แทน แปลความตามมาตรา​ 3​ หมายความว่าข้อบังคับของนิติบุคคลฯ ข้อใด​ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ. ย่อมไม่สามารถบังคับใช้ได้

เป็นเรื่องภายในของนิติบุคคลฯ จะต้องเสนอให้มีการแก้ไข​ เพิ่มเติมข้อบังคับที่ขัด​ หรือแย้ง พ.ร.บ.อาคารชุด​ โดยอาศัยมติของที่ประชุมเจ้าของร่วมดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อไป​ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย​ อาจใช้สิทธิทางศาล​ร้องเพิกถอนข้อบังคับดังกล่าว

โดย...

พิสิฐ ชูประสิทธิ์

นายกสมาคมนักบริหารอาคารชุด – หมู่บ้านจัดสรรไทย

“ที่ปรึกษา” ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ

[email protected]