รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง​

รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง​

ที่ประชุมคณะกรรมการของโครงการ​นิติบุคคลอาคารชุด​ ชื่อ​ “ก” มีมติอนุมัติคัดเลือก​ จัดจ้างนิติบุคคล​ ผู้รับจ้าง​เฉพาะทาง ชื่อ​ “ข”

 ปฏิบัติหน้าที่บริหาร และให้บริการทรัพย์ส่วนกลางตามข้อบังคับและกฏหมาย โดยมอบหมายให้ผู้จัดการ​ ชื่อ “ค” ลงนามในสัญญาจ้างบริหารทรัพย์สินเป็นเวลา 2 ปี ​นิติบุคคล​ผู้รับจ้าง​เฉพาะทาง​ “ข” จัดให้มีบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ให้แก่โครงการ​นิติบุคคลอาคารชุด​ “ก” ผู้ว่าจ้าง​ รวม​ 6​ คน​ ประกอบด้วยหัวหน้าอาคาร​ หรือผู้จัดการอาคาร​ ธุรการ​ -​ การเงิน​ หัวหน้าช่าง​ หรือวิศวกร​ระบบ และช่างเทคนิค​ ซ่อมบำรุง​ อีก 2 คน​

บุคลากรจำนวนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 6 วัน​ สลับวันหยุดในหนึ่งสัปดาห์​ สัญญาจ้างระหว่างนิติบุคคลอาคารชุด​ “ก” กับนิติบุคคล​ ผู้รับจ้าง​ “ข” นอกจากกำหนดรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานด้านด้วยความซื่อสัตย์​สุจริตเเล้ว​ ยังกำหนดให้การชำระค่าจ้าง​ อันได้แก่​ ค่าบริการ​ ค่าธรรมเนียมวิชาชีพ​ รวมกับค่าเงินเดือน​ ค่าสวัสดิการ​ ค่าประกันสังคม​ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ​ อันเกี่ยวข้องกับบุคลากร​ผู้รับจ้างทั้งหมด​ก้อนเดียว​ 

อีกทั้งนิติบุคคล​ ผู้รับจ้าง​ “ข” ยังแจกแจง​ ชี้แจงรายละเอียดแผนงาน​ ขอบเขต​ และหน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงานของเจ้าหน้าที่​ บุคลากร​แต่ละตำแหน่ง​ กำหนดเป็นบันทึกต่อท้ายสัญญาจ้างบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางดังกล่าวข้างต้นอีกด้วย

เมื่อเข้าสู่การปฏิบัติงานของนิติบุคคล​ ผู้รับจ้าง​ ข​ ในปีที่ 2 คณะกรรมการตรวจพบการร่วมกันทุจริตยักยอกค่าส่วนกลาง และรายรับอื่นๆ​ จากเจ้าของร่วม​ ผู้พักอาศัย​ โดยบุคลากรของนิติบุคคล​ ผู้รับจ้าง​ ข​ รวมสองคน​ ได้แก่​ หัวหน้าอาคาร​ เเละธุรการ​ -​ การเงิน​ เป็นเงินหลายแสนบาท​ เกิดความเสียหายแก่​ “ผู้ว่าจ้าง” และนิติบุคคลอาคารชุด​ ต่อมาผู้จัดการ​ ค​ ได้รวบรวมสำเนาเอกสารหลักฐานการกระทำความผิดแจ้งความร้องทุกข์​กับพนักงานสอบสวน​ ข้อหาร่วมกันยักยอก​ ทั้งนี้​ มีผู้ต้องหา รวม 4 ราย ได้แก่ เจ้าหน้าที่ บุคลากร หัวหน้าอาคาร ธุรการ - การเงิน กรรมการผู้มีอำนาจ และนิติบุคคล ผู้รับจ้าง​ ข​ อนึ่ง​ คณะกรรมการเห็นว่าการร้องทุกข์​กล่าวโทษใช้เวลาการพิจารณา “นานเกินควร” มากกว่า 6 - 7 เดือน​ ที่ประชุมคณะกรรมการ​จึงอนุมัติให้ผู้จัดการ จ้างทนายความภายนอกฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลยุติธรรม

เมื่อถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องตามที่ศาลกำหนดแจ้งคู่ความทั้งสองฝ่ายทราบ​ ผู้จัดการ​ ค​ โจทก์​ และทนายความโจทก์เดินทางมาศาล​ จำเลยที่​ 3​ (กรรมการผู้มีอำนาจ)​ แต่งตั้งทนายความมาศาล​ ส่วนจำเลยที่​ 1​ เเละ​ 2​ (หัวหน้าอาคาร​ เเละธุรการ​ -​ การเงิน)​ ไม่มาศาล​ ไม่แต่งตั้งทนายความ​ อีกทั้งไม่ชี้แจงเหตุ​ ข้อติดขัดใดๆ ให้ศาลทราบ​ (จำเลยทุกคนได้ทราบหมายศาลครบถ้วน)​ ศาลจึงออกประกาศให้จำเลยที่​ 1​ และ​ 2​ ทราบ​ พร้อมกำชับทนายความ​ จำเลยที่​ 3 ให้เเจ้งจำเลยที่​ 1​ และ​ 2​ ทราบ​ ตามนัดที่ทั้งสองฝ่าย​ กำหนดนัดพิจารณาคดีในคราวหน้า

เมื่อถึงวันนัดพิจารณา​ จำเลยที่​ 1 เเละ​ 2​ ไม่มาศาล​ ไม่แต่งตั้งทนายความ มีการเบิกความผู้จัดการ​ ค​ โจทก์​ ทนายความจำเลยที่​ 3​ ซักค้าน​โจทก์ กรรมการผู้มีอำนาจ​ จำเลยที่​ 3​ เบิกความ​ อ้างว่าไม่สามารถติดต่อจำเลยที่​ 1​ และ​ 2​ ได้​ ประกอบกับการร่วมกันทุจริตยักยอกเงินจำนวนดังกล่าว​ เป็นการกระทำของจำเลยที่​ 1​ และ​ 2 กรรมการผู้มีอำนาจ​ จำเลยที่​ 3​ ไม่มีส่วนรู้เห็น​ และเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดดังกล่าวแต่อย่างใด​ จึงไม่สามารถร่วมรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าวได้

คำพิพากษา (ศาลชั้นต้น)​ โดยสังเขป ให้จำเลยที่​ 3​ เเละ​ 4​ ร่วมรับผิดความเสียหายจากการร่วมกันทุจริตยักยอกของจำเลยที่​ 1​ เเละ​ 2​ ตามคำฟ้อง​โจทก์ จำคุก​ จำเลยที่​ 3​ ปรับจำเลยที่​ 4​ ส่วนจำเลยที่​ 1​ และ​ 2 ศาลออกหมายจับให้นำตัวจำเลยทั้งสองมาส่งศาล

อีกกรณี โครงการนิติบุคคลอาคารชุดท่องเที่ยวมีชื่อในต่างจังหวัด​ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น​ 9,000 ตารางเมตร​ จำนวนยูนิตรวม 200​ ยูนิต​ จดทะเบียนอาคารชุดเมื่อปี 2556​ จัดเก็บค่าส่วนกลางตารางเมตรละ​ 30​ บาท​ รวมรายรับค่าส่วนกลาง​ และรายรับอื่นต่อเดือน​ 100% เป็นเงินเกือบ 3 แสนบาท​ มีค่ากองทุนเป็นเงินเกือบสามล้านบาท​ จัดเก็บค่ากองทุนเป็นเงินตารางเมตรละ​ 300​ บาท​ โครงการ​ดังกล่าว​ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญ​ ได้แก่​ ลิฟท์โดยสาร​ รวม​ 4 ​ ตัว​ (ชุด)​ และระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร​ ค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางปีแรก​ สมดุล​ เพียงพอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน​ ปี​ แต่พลันเข้าปีที่สอง​ สาม​ สี่​ รายรับค่าส่วนกลาง​ จัดเก็บได้น้อย​ ต่ำกว่าเป้า​ เหตุเพราะมีลูกหนี้เจ้าของร่วมค้างจ่ายค่าส่วนกลาง ซึ่งไม่จ่าย มีจำนวนกว่า 30% จึงเกิดปัญหารายรับไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้น จึงเกิดยอดสะสมขาดทุนเป็นเงินในแต่ละปี จำนวนเพิ่มขึ้น​ ในขณะที่เงินกองทุน​ ถูกนำมาใช้จ่ายกับกิจการบริหารทรัพย์ส่วนกลาง​ตามข้อบังคับ​ และมติที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม จำนวนหนึ่ง​ ณ​ ปัจจุบัน​ มีเงินกองทุนคงเหลือ 5 แสนบาทเศษ

ค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร​ รวมทั้งระบบลิฟท์​ สุขาภิบาล​ ไฟฟ้า​ ประปา​ ฯลฯ​ เป็นเงินจำนวนมากในแต่ละปี​ และเพิ่มขึ้นโดยลำดับ​ ค่าส่วนกลางที่เรียกเก็บอัตรา​ 30​ บาท​ต่อตารางเมตร ไม่เพียงพอ​ จำเป็นต้องจัดเก็บค่าส่วนกลางเพิ่มขึ้นจากเดิม​ แต่เจ้าของร่วมส่วนใหญ่ของโครงการ​ นิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าวไม่เห็นพ้องต่อแผนงานการจัดเก็บค่าส่วนกลางตามที่คณะกรรมการเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม

นิติบุคคลอาคารชุด จำเป็นต้องประคับประคองให้การบริหารทรัพย์ส่วนกลาง สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น อาทิ​ จำนวนบุคลากรส่วนกลาง​ ทั้งสำนักงาน​ และบริการรักษาความสะอาด​ ความปลอดภัย​ ตลอดจนการปิด เปิดลิฟท์​ เเละไฟฟ้าทางเดิน​ส่วนกลาง เป็นเวลา​ เป็นต้น

ผลกระทบจึงเกิดขึ้นกับเจ้าของร่วม​ ผู้พักอาศัยที่เคยใช้บริการทรัพย์ส่วนกลาง​ สิ่งอำนวยความสะดวกตามปกติ​ ในขณะที่เจ้าของร่วม​ ส่วนหนึ่ง​ ชำระค่าส่วนกลางให้แก่นิติบุคคลอาคารชุดตามปกติ​ด้วยดี แต่อีกจำนวนหนึ่ง​ จ่ายช้า​ หรือไม่จ่าย​ เจ้าของร่วม​ส่วนใหญ่ บ่น​ ไม่พอใจกับการบริการทรัพย์ส่วนกลาง​ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ลดลง​ ซึ่งไม่เหมือนแต่ก่อนในอดีต​ อย่างไรก็ดี​ เจ้าของร่วมส่วนน้อยอาจเข้าใจสาเหตุของการบริการดังกล่าว​ ไม่ครบถ้วน​ เกิดประสิทธิภาพเกิดจากเรื่อง​ หรือสาเหตุใด​ แต่เจ้าของร่วมส่วนใหญ่​ ไม่เข้าใจ

ทั้ง 2 กรณีที่ผู้เขียนนำเรียน​ เสนอข้างต้น  ทั้งการไม่ยอมรับผิดการร่วมกันทุจริต​ยักยอกของจำเลยที่​ 1 และ​ 2​ กับจำเลยที่​ 3 หรือการโยนความผิดที่เกิดขึ้นแก่บุคคลอื่น​ และเจ้าของร่วมส่วนใหญ่มากกว่า​ 50​ หรือ​ 60% ของเจ้าของร่วมทั้งหมด​ เหตุต้องปรับลดจำนวนบุคลากรส่วนกลาง​ ปิด​ เปิดไฟฟ้าส่วนกลางทางเดินร่วมส่วนกลาง​ ตลอดจนลิฟท์โดยสารมากกว่า​ 1 หรือ​ 2 ตัว​ เพื่อลดค่าใช้จ่ายการบริหารทรัพย์ส่วนกลางของนิติบุคคลอาคารชุดให้เพียงพอกับอัตราค่าส่วนกลาง​ จำนวน​ 30 บาทต่อตารางเมตร​ โดยไม่ยินยอมปรับเพิ่มค่าส่วนกลาง​ เป็นความผิดนิติบุคคลอาคารชุดนั้น ถือเป็นรำไม่ดีโทษปี่โทษกลองหรือไม่?

โดย...

พิสิฐ ชูประสิทธิ์

นายกสมาคมนักบริหารอาคารชุด – หมู่บ้านจัดสรรไทย และ

“ที่ปรึกษา” ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ

[email protected]