ชี้เป้า หลังโควิด คิดจะขาย ขายใครดี (2)?
ฉบับที่แล้ว เราชี้เป้ากลุ่ม baby boomer และกลุ่ม gen x แล้ว รอบนี้มาดูศักยภาพการใช้จ่ายของกลุ่ม gen y, gen z กันค่ะ
เพราะเป็นสองกลุ่มที่พร้อมออกมาโลดแล่นมากที่สุด กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กังวลโควิดระลอกสองน้อยกว่ากลุ่มอื่น ถึงแม้มีสัดส่วนในการออมมากขึ้น ใช้ของฟุ่มเฟือยน้อยลง แต่เป็นกลุ่มที่ไม่ยอมลด ค่าใช้จ่าย ในการกินเที่ยว เพราะเป็น generation ที่ต้องการใช้ชีวิต มากกว่าการเก็บออม กลุ่ม gen z (อายุ ต่ำกว่า 20 ปี), gen y (อายุ 21-37) เป็นกลุ่มที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวเร็ว ได้เตรียมการเรียนรู้เสริมทักษะตัวเอง เพื่อให้มีความสามารถหลายด้าน มีแนวโน้มหารายได้ทางออนไลน์ หรืออาชีพอิสระ ได้ง่าย ไม่ยึดติดอยู่กับสายอาชีพตามออฟฟิศ จึงพร้อมรับสถานการณ์มากกว่า พลิกฟื้นได้เร็ว จึงพร้อมเสี่ยงมากกว่า กลุ่ม gen x, baby boomer ที่ไม่ต้องการความเสี่ยง จึงทั้งออม ทั้งลดค่าใช้จ่าย
**กลุ่ม gen z (อายุ ต่ำกว่า 20 ปี)
อยากจะเรียกว่าเป็นกลุ่มเจนแซ่บ แทน เจนแซท จริงๆค่ะ เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่กังวลอะไรเลย พร้อมออกมาใช้ชีวิตอย่างเสรี พร้อมท่องเที่ยว ไปผับบาร์ ดูหนัง ออกอีเวนท์ ทำกิจกรรมต่างๆ มากที่สุด และ พร้อมทันที หลายคนคิดว่า ถ้าค้าขายกับคนกลุ่มนี้จะรวยได้อย่างไร ในเมื่ออายุยังน้อย ไม่ได้อยู่ในวัยทำมาหากิน ขอบอกเลยค่ะว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กล้าใช้เงินมากๆ กินหรูอยู่แพง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้คนอื่นอิจฉาเล่น ลองดูพ่อแม่เจนเบบี้บูมเมอร์สิคะ จะกินข้าวจานละ 200-300 คิดแล้วคิดอีก และไม่กล้ากิน ไม่กล้าใช้ตังค์ ชามละ 50 บาทนี่หรูแล้ว แต่สำหรับเด็กสมัยนี้ อย่าว่าแต่ข้าวเลยค่ะ แค่กาแฟแก้วเดียวก็จะ 200 อยู่แล้ว กล้ากินกล้าใช้สุดๆค่ะ
**กลุ่ม gen y
เป็นกลุ่มที่พร้อมลองจาก gen z เลยค่ะ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ขอใช้ชีวิตเต็มที่ และจัดได้ว่าเป็นเศรษฐีกลุ่มใหม่ เพราะคนกลุ่มนี้มีความสามารถในการปรับตัว เก่งเทคโนโลยี มีความยืดหยุ่นสูง สามารถ upskill reskill ผ่านการเรียนออนไลน์ และ ปรับตัวทำอาชีพใหม่ได้เร็วมาก จะเห็นว่า SME Start up เก่งๆ ก็ gen นี้ทั้งนั้น ดังนั้นกลุ่มนี้ผ่านฉลุยค่ะ เผลอๆ รวยกว่าเดิมเพราะโควิด เนื่องจากหันไปขายของผ่าน platform ใหม่ๆไม่ว่าจะเป็น delivery, marketplace, online ซึ่ง มาแรง ช่วงโควิด ดังนั้นกลุ่มนี้ไม่มีวันเฉา และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่พร้อมเดินทางท่องเที่ยว และเป็นกลุ่มที่กล้าใช้เงินมากๆ เช่นเดียวกัน เพราะชีวิตคือ ไลฟ์สไตล์ จะไม่ใช่รุ่นทำมาหาเก็บ ให้ลูกหลานเหมือน gen babyboomer หรือ gen x.
กลุ่ม Gen Z, Y รวมกันก็กว่า 50% ของประชากร ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่นักการตลาดต่างจับตามอง แต่กลุ่มนี้นอกจากเป็นผู้ซื้อแล้วก็เป็นผู้ขาย เช่นเดียวกัน สังเกตได้ว่า ของใหม่ ร้านใหม่ เกิดขึ้นเยอะมาก เพราะกลุ่มนี้มีพลังสร้างอะไรใหม่ๆตลอด ดังนั้นคนขายเยอะ คนซื้อน้อยลง เพราะหันมาขายเอง การตลาดหลังโควิดคงไม่ได้เฟื่องฟูอย่างสมัยก่อนที่คนค้าขาย รวยได้รวยเอาเพราะตอนนี้ เอาเป็นว่าขอให้ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และมีความสุขในจุดที่พอ เราก็จะก้าวข้ามผ่านโควิดไปด้วยความมั่นคงค่ะ