ความยั่งยืนที่แท้จริง
หัวใจสำคัญที่จะพาให้ธุรกิจไปรอด และเติบโตอย่างยั่งยืน ต้องกลับมาดูที่ “ราก” ว่าจะพัฒนาต่อยอดให้คงอยู่ต่อไปยืนยาวได้อย่างไร
ช่วงนี้ บังเอิญได้คุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เกษียณแล้วและกำลังพัฒนาธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับต้นไม้ ด้วยความที่มาทางสายศิลป์ จึงมีแนวคิดพุ่งเป้าไปที่ความสวยงามแนวอาร์ต เช่น ปลูกแคคตัสที่ตกแต่งกระถางแก้วด้วยทรายสี เพื่อให้เห็นความสวยงามของเทคนิคการเกลี่ยทราย ทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า ได้ความสวยงามในครั้งแรกที่ทำสำเร็จ แต่ต้นไม้กลับไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควรจะเป็น จึงพยายามคิดหาเหตุผลย้อนกลับไปที่พื้นฐานที่ต้นไม้ต้องการ ซึ่งก็คือ ความรู้ที่แท้จริงในการปลูกต้นไม้แต่ละชนิด ปัจจัยที่จะช่วยทำให้เติบโต การดูแลรักษาอย่างถูกวิธี การเอาใจใส่โดยสังเกตพฤติกรรมของต้นไม้ สินค้าที่ซื้อไป นอกจากความงามภายนอกในครั้งแรกที่ลูกค้าเห็นและพอใจ ต้นไม้ควรต้องสามารถเติบโตต่อไปได้และให้ความสุขแก่ผู้เลี้ยงและผู้ที่พบเห็น
สิ่งเหล่านี้ คือ หัวใจสำคัญที่จะพาให้ธุรกิจไปรอด ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและแนะนำบอกต่อ การทำธุรกิจใดๆให้เติบโตอย่างยั่งยืน จึงต้องกลับมาดูที่ “ราก” ที่แท้ของแต่ละธุรกิจในทุกกระบวนการ ว่าสามารถพัฒนาและต่อยอดให้คงอยู่ต่อไปได้ยืนยาว ไม่ฉาบฉวย เพื่อส่งต่อไปยัง Generation อื่นๆ ไม่หยุดอยู่แค่ Gen ของเรา นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสิ่งแวดล้อม และหยิบจับเรื่องที่เราชำนาญนั้นมาพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะให้ประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “บ้าน” หนึ่งในปัจจัย 4 ที่สำคัญ คือ สถานที่ที่จะให้ความมั่นคง อุ่นใจ ปลอดภัย แก่ทุกคนในครอบครัว นับเป็นธุรกิจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตไปอย่างมีคุณภาพ สามารถสร้างอาชีพและรายได้เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน สร้างสังคมคุณภาพที่ขยายวงกว้างต่อไปยังเพื่อนบ้านข้างเคียงและสังคมโดยรวม รวมถึงทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จึงจะเป็นการทำธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง รวมถึงยังสามารถให้คุณภาพชีวิตและที่อยู่อาศัยที่ดี แก่รุ่นลูกหลานใน Generation ต่อๆ ไป รวมทั้งรุ่นเราที่จะกลายเป็นผู้สูงอายุในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังควรดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ เพราะปัจจุบัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีจำนวนข้อร้องเรียนไปยัง สคบ. เป็นอันดับต้นๆ ทีเดียว เช่น เรื่องคุณภาพของที่อยู่อาศัย การให้บริการหลังการเข้าอยู่อาศัย การดำเนินงานตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้า ฯลฯ
ปัจจุบัน องค์การสหประชาชาติ ได้จัดทำเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ทั้งหมด 17 ข้อ โดยมุ่งหวังจะช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เช่น ความยากจน ความไม่เท่าเทียม สภาวะโลกร้อน และสันติสุข เพื่อเสริมแนวคิด “ไม่เป็นการทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งคาดว่าจะทำสำเร็จได้ภายในปี 2030 ถือเป็นการจุดประกายให้สังคมทุกภาคส่วนได้ตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจหรือการใช้ชีวิตของตนเองนั้น ได้ส่งผลกระทบในด้านใดต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสังคม หรือสามารถที่จะนำความรู้ ความเชี่ยวชาญที่มีตนมี มาร่วมกันพัฒนาในจุดใดได้ภายใต้เป้าหมายที่ UNSDG ได้กำหนดไว้ หรือ หากสามารถต่อยอดไปยังส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากเป้าหมาย 17 ข้อได้ ก็จะยิ่งช่วยกันส่งเสริมให้สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เรามีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบนั้น ได้เติบโตร่วมกันไปกับธุรกิจของเรา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของ 3 ปัจจัยหลัก คือ
1.P:People ทุกผู้มีส่วนได้เสียในทุกกระบวนการ ทั้งในกระบวนการ นอกกระบวนการ และอิงกระบวนการ สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองและเติบโตไปพร้อมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
2.P:Planet ทุกกระบวนการในการดำเนินงานไม่สร้างปัญหาและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากแต่ยังช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ต่อโลกใบนี้ เพื่อนำไปสู่ปัจจัยสุดท้ายคือ
3.P:Profit ทุกผู้มีส่วนได้เสียมีรายได้ที่เหมาะสม สามารถดำรงตนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี
ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทุกคนบนโลก และอาจคงอยู่กับเราตลอดไป เป็นบทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่าเราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งควรร่วมกันรักษา พัฒนา เพื่อส่งต่อความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนในยุคต่อจากเราให้มีความเป็นอยู่ที่ดีตลอดไป จึงจะเป็นความยั่งยืนที่แท้จริง