‘ทีมอลล์’ ช่องทางขายอันดับหนึ่ง คนทำธุรกิจ ‘CBEC’ ไปจีน

ด้วยความก้าวไกลของโลกยุคปัจจุบัน การค้าขายแบบข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้การเดินทางออกนอกประเทศเป็นเรื่องยาก การนำเข้าสินค้าด้วยวิธีสั่งซื้อออนไลน์จึงมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับผู้ที่กำลังประสบกับวิกฤติ หากลองหันมาทำการค้าแบบ "CROSS-BORDER E-COMMERCE (CBEC)" ก็ถือเป็นทางเลือกที่พอจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อยู่พอสมควร เพียงแค่ต้องรู้ช่องทางการจัดจำหน่ายหลักๆ ว่าเป็นแบบไหน และมีกลยุทธ์อย่างไรบ้าง

ความต้องการสินค้านำเข้าของคนจีนเพิ่มขึ้นสูงมาก เวลานี้ความต้องการสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศของชาวจีนเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด จากรายงานโดยอาลีบาบา บริษัทแม่ของทีมอลล์ โกลบอล พบว่าเมื่อไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 ยอดขายผ่านช่องทางดังกล่าวเติบโตขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ขณะเดียวกันรายงานจาก 2018 Cross-border Consumption New Normal Young People Insight Report ระบุว่า การนำเข้าของจีนแบบ CBEC โดยภาพรวมเพิ่มขึ้น 53.7% หากเทียบเป็นรายปีเมื่อช่วงเดือนต.ค.ปี 2561 และหากนับย้อนกลับไปอีกในช่วงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บรรดากลุ่มผู้บริโภคจะเลือกใช้บริการจากทีมอลล์โกลบอลในการสั่งสินค้าแบบข้ามพรมแดนมากขึ้น มีตัวเลขสถิติที่แสดงให้เห็นว่านับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2561 ทีมอลล์โกลบอล  ครองอันดับ 1 ในการนำเข้าสินค้าข้ามพรมแดนมายังจีนในกลุ่มตลาดค้าปลีก คิดเป็นสัดส่วนทาการตลาดที่ 20% ตามด้วย Koala 23.2% และ เจดีโกลบอล 12.3%

ช่วงตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ว่าทีมอลล์ คือพี่ใหญ่ในการค้ารูปแบบ CBEC ของประเทศจีน ดังนั้นใครที่สนใจหรือมีแนวคิดเพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับส่งต่อไปขายยังกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน การรู้จักกับรูปแบบ CBEC และการใช้ทีมอลล์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำเสนอซึ่งไม่ยากเกินความสามารถ

ใครคือกลุ่มคนหลักที่ชอปปิงผ่านทีมอลล์ ตามรายงานฉบับเดียวกันที่กล่าวไว้ด้านบนระบุว่า กลุ่มคนที่เกิดหลังช่วงปี 90 / 95 มีอัตราการบริโภคเฉลี่ยสูงกว่าคนที่เกิดในยุค 80 สถิติช่วงไตรมาส 3 ปี 2560 คนที่อยู่ในกลุ่มเกิดช่วงปี 90 / 95 ช่วยสร้างยอดขายให้กับทีมอลล์โกลบอลมากถึง 30% เนื่องจากคนรุ่นใหม่จะสนใจในสิ่งใหม่ วัฒนธรรมสากล กล้าทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น และต้องการความหลากหลายในชีวิตประจำวันมากขึ้น อีกทางหนึ่งกลุ่มสินค้าที่ส่งตรงจากต่างประเทศก็มีอัตราสูงขึ้นด้วย ซึ่งพอวัดเป็นอาชีพอีกก็พบว่า กลุ่มนักศึกษามาแรงที่สุด

สินค้ายอดนิยมในช่องทางทีมอลล์  ถ้าวัดแยกเป็นประเภท ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มคนที่เกิดหลังปี 90 / 95 นิยมซื้อออนไลน์เพื่อใช้งานมากที่สุด คือหมวดหมู่ความงามและการบำรุงผิว เช่น มาส์กประเภทต่างๆ ขณะที่แชมพูเพื่อแก้อาการผมร่วงก็ขายดี, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับช่องปากทุกรูปแบบก็มีความนิยมอยู่พอสมควรทีเดียว

อีกประเภทที่ได้รับความนิยมไม่น้อยหน้าคือ ของใช้ภายในบ้าน โดยคนที่เกิดหลังปี 90 / 95 ต้องการแสวงหาคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเลือกใช้เครื่องทุ่นแรงต่างๆ ให้ทำงานแทน ทั้งยังเน้นที่เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นด้วย ด้านประเภทสินค้าที่มักสั่งกันแบบปริมาณมากๆ คือพวกโคมไฟระย้า, ผ้านวม, กาน้ำชา ฯลฯ

ส่วนของกิน จะเน้นพวกขนมขบเคี้ยว ไขมันต่ำ ขนมที่ไม่ได้เน้นเรื่องสุขภาพก็ยังคงได้รับความนิยมเช่นกัน แต่สำหรับคนที่เกิดหลังปี 90 / 95 พวกเขามักมองถึงการซื้อขนม อาหารเสริมด้านสุขภาพให้กับสัตว์เลี้ยง นอกจากนั้นเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ ยังคงเป็นที่ถูกอกถูกใจไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้วันเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าใดก็ตามที

ปิดท้ายกันดัวยประเภทสินค้าที่ชาวจีนนิยมสั่งนำเข้า อันดับ 1 ยกให้กับสินค้าจากญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าเกี่ยวกับเกมและระบบความทันสมัยต่างๆ ขณะที่เมืองไทยเราติดอันดับ 10 โดยสินค้ายอดนิยมคือ ผลิตภัณฑ์กันแดด, แผ่นมาส์กหน้า และซุปรังนก ดังนั้นใครที่มีธุรกิจอยู่ในกลุ่มเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการขายด้วยรูปแบบ CBEC ผ่านช่องทางทีมอลล์ไปยังจีนมากพอสมควร