เมื่อตลาด 'CBEC' ประเทศจีน เปลี่ยนแปลงจากวิกฤติโควิด-19
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ทุกธุรกิจจำเป็นต้องวิเคราะห์และมองภาพให้ออก
ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายวงการอุตสาหกรรม และธุรกิจต่าง ๆ กำลังเผชิญปัญหาแสนสาหัส ดังนั้นตลาด CBEC หรือ Cross Border E-Commerce ระหว่างจีนกับออสเตรเลียจึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางประการที่มีความสำคัญ เรื่องนี้น่าสนใจและอยากนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นแนวทางดีๆ ในการปรับตัวของบรรดาธุรกิจไทยไม่ว่าจะติดต่อกับจีนหรือไม่ก็ตามกับสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ผลกระทบของตลาด CBEC ระหว่างออสเตรเลียกับจีน 1.การเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการสินค้า : การระบาดในครั้งนี้ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยและด้านสุขภาพมีความต้องการสูงขึ้น หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์กลายเป็นสินค้าสุดฮิต ตามมาด้วยอาหารเสริมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ขณะที่สินค้าเกี่ยวกับเด็กก็ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิวต่างๆ ยอดตกลงชัดเจน
2. ระบบการขนส่ง ด้วยการเข้า-ออกประเทศในจีนถูกปิดตายแทบทุกช่องทาง รวมถึงการค้าแบบ Daigou หรือ การรับหิ้วของผ่านด่านตรวจเองก็หยุดชะงักไปด้วย อีกทั้งคนทำอาชีพนี้หลายคนหลีกเลี่ยงที่จะหิ้วของเสียหายง่าย เช่น ผัก ผลไม้
3. เมื่อการรับหิ้วทำไม่ได้ Daigou ก็เปลี่ยนสู่โลกออนไลน์ เช่น การสั่งออเดอร์จากลูกค้าแล้วส่งต่อแทนที่ตนเองจะต้องเดินทางระหว่างประเทศ 4. Daigou ไม่สามารถทำรายได้ดังเดิม
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แม้จะเปลี่ยนมาสู่ช่องทางออนไลน์ แต่กลุ่ม Daigou ที่เป็นนักศึกษาชาวจีนในออสเตรเลียต้องพบเจอปัญหา ทั้งโดนกีดกันไม่ให้เข้า-ออกประเทศ และปัจจัยอื่นๆ ส่งผลให้รายได้ที่พวกเขาควรมีกลับตกลงอย่างชัดเจนถึงขั้นหลายคนตัดสินใจเลิกทำไปเลย
อย่างไรก็ตามคนทำธุรกิจ CBEC ยังมองว่ามีบางช่องทางที่สามารถเดินต่อได้ 1.แพลตฟอร์ม CBEC เจ้าใหญ่ในจีนได้รับประโยชน์ แม้ว่าบรรดา Daigou จะมีปัญหาแต่ในทางกลับกันธุรกิจรายใหญ่ ๆ เช่น ทีมอลล์, เจดี ยังคงมีรายได้ที่ดีมากๆ เพราะพวกเขาสต็อกสินค้าไว้ส่วนหนึ่ง บวกกับมีระบบขนส่งชัดเจน ถูกต้อง จึงไม่ส่งผลกระทบใดๆ มากนัก
2. พ่อค้าปลีก / ส่ง หยุดการขายระหว่างประเทศชั่วคราว ผู้ค้าส่งในออสเตรเลียถือว่าไม่มีผลกระทบมากนักเพราะความต้องการยังคงเกิดขึ้นเสมอ ยังสามารถรักษาอุปทานของผลิตภัณฑ์และการขนส่งได้คงที่ แต่ก็มีบางรายที่ตัดสินใจหยุดการขายระหว่างประเทศชั่วคราว
3. Daigou เปลี่ยนจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ บรรดา Daigou จำนวนมากตัดสินใจเปลี่ยนแบบเต็มตัวจากธุรกิจออฟไลน์สู่ระบบออนไลน์ เพื่อลดการติดต่อระหว่างบุคคล มีการสตรีมมิ่งสดและได้รับความนิยมสูงมาก เพราะไม่เคยมีใครในวงการนี้ทำมาก่อน ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลกทำให้ Daigou จำนวนมากตัดสินใจกลับเมืองจีนและเลือกทำธุรกิจในประเทศแบบออนไลน์มากกว่า
ความต้องการสินค้าและพฤติกรรมการซื้อที่เปลี่ยนไป 1.ความต้องการด้านสุขอนามัยกลายเป็นทางเลือกแรก ผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย เช่น หน้ากากอนามัย, เจลล้างมือ กลายเป็นความต้องการแบบเร่งด่วน ซึ่งพวกเขาไม่สนใจเรื่องราคาด้วยซ้ำ และบรรดา Daigou รวมถึงพรรคพวกที่อยู่ต่างแดนคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ชาวจีนได้สินค้าอย่างที่ต้องการ
2. ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพยังจำเป็น เพื่อสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง บรรดาผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพต่างๆ ยังเป็นสิ่งที่ชาวจีนมองหา 3. อาหารสำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่มีคุณค่าทางโภชนาการเติบโตสูง ความต้องการนมผงทารกยังแข็งแรง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างสุขภาพดีๆ และเก็บไว้ได้ยาวนานก็มีแนวโน้มการขายสูงขึ้น ตรงนี้รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุด้วย เช่น นมแคลเซียมสูง วิตามินดีสูง เป็นต้น
ท้ายที่สุด แบรนด์จากออสเตรเลียกำลังปรับตัวเพื่อมีส่วนร่วมกับ Daigou มากขึ้น 1.วางแผนการตลาดใหม่ หลายแบรนด์ลดกิจกรรมทางการตลาดกลุ่มออฟไลน์ลงเพื่อประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย เนื่องจากสถานการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากออกมานอกบ้านแน่ ๆ
2. ปรับจุดขายผลิตภัณฑ์อีกครั้ง บางแบรนด์มีการเน้นย้ำความสามารถในการใช้งานของผลิตภัณฑ์ 3.สร้างภาพลักษณ์ด้านการแพทย์พร้อมให้การสนับสนุน บุคลากรทางการแพทย์กลายเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล แบรนด์ต่างๆ จึงพยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อโอกาสทางการขายที่ดีขึ้น
จากเนื้อหาที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าเมื่อสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไป ทุกธุรกิจจำเป็นต้องวิเคราะห์และมองภาพให้ออก จากนั้นจึงแก้ไขปัญหาเพื่อให้เหมาะสม ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ในหลายวิกฤติมักมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ เพียงแค่ต้องหา