อย่าเคลิ้มไปกับอารมณ์
“เหตุการณ์อย่างนี้ไม่มีวันเกิดขึ้นกับฉันอย่างแน่นอน” ประโยคนี้เกิดขึ้นในใจหลายคนเมื่อได้ยินข่าวการต้มตุ๋นโดยใช้ความโลภ เสน่หา เป็นเครื่องมือ
แต่ความจริงก็คือเหยื่อจำนวนมากก็เคยเชื่อประโยคนี้มาก่อน เรื่องเช่นว่าถ้าไม่เกิดกับตัวจะไม่มีวันรู้หรอกว่ามาถึงจุดนั้นได้อย่างไร เมื่อถูกต้มตุ๋นแล้วก็มักจะอับอายจนไม่เล่าให้ใครฟัง แล้วมันก็จะเกิดอีกอยู่ร่ำไป เหมือนที่ได้เกิดมาตลอดระยะเวลา 150,000-200,000 ปีที่ผ่านมาเมื่อมนุษย์มีหน้าตารูปร่างเหมือนปัจจุบัน
โลกเรามีมนุษย์อยู่ประเภทหนึ่งที่ขาดมโนธรรมและศีลธรรมโดยมีสาเหตุจากการผสมกลมกลืนของอิทธิพลจากธรรมชาติซึ่งได้แก่พันธุกรรม(nature)กับการอบรมบ่มเพาะ (nurture) พวกเขามีลักษณะนิสัยชอบหลอกลวงต้มตุ๋นคนอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตนเอง
ภาษาไทยและภาษาอังกฤษไม่มีคำที่เหมาะเจาะเรียกคนประเภทนี้ ภาษาอังกฤษจึงอาศัยคำจากภาษาเยอรมันมาใช้คือ “schadenfreude” (มาจาก schaden = อันตราย; ความเสียหาย ส่วน freude = ความสุข) หมายถึงมีความสุขบนความทุกข์หรือความสูญเสียของผู้อื่น ซึ่งตรงข้ามกับ “มุทิตา” ในภาษาบาลีและสันกฤตซึ่งหมายถึงมีความยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นมีความสุข (หลักปฏิบัติหนึ่งในพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)
รายการ “60 Minutes” ซึ่งเปิดโปงเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคม เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ.1968 และเป็นที่นิยมมากจนมีแฟรงไชส์ในประเทศอื่น (ประเทศไทยก็เคยมีแต่ไปไม่รอด) “60 minutes” ของออสเตรเลียดังมากในเรื่องการเปิดโปงชีวิตของอาชญากรโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวก conman หรือ นักหลอกลวงต้มตุ๋น (con มาจาก confidence ซึ่งหมายถึงการสร้างความเชื่อมั่นก่อน และเอามาใช้หลอกลวงในเวลาต่อมา)
ผู้เขียนมีเวลาดูรายการนี้อยู่หลายตอนอย่างต้องขอบคุณเจ้าโควิด ในโลกตะวันตกเป้าหมายของ conman ส่วนหนึ่งคือหญิงหม้าย (ยิ่งเพิ่งเลิกกับสามียิ่งดี) อยู่คนเดียว ไม่มีลูก หรือลูก อยู่ไกล มีเงิน อยู่ในวัย 50-70 ปี เหงาต้องการเพื่อน วิธีเข้าไปตีสนิทก็เนียนมากอย่างเป็นธรรมชาติ เช่นรู้จักเพราะอยู่บ้านใกล้กัน (ตามหาหมาแมวมาที่บ้าน) รู้จักกันออนไลน์ (เว็บหาคู่มีมากมายในปัจจุบัน) จากนั้นก็อาสามาซ่อมบ้านหรือรถ ทำสวน ปลูกต้นไม้ ฯลฯ และที่เหลือก็คือเรื่องราวที่พอเดาได้
เขาจะดูดเงินจากเธอทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัว วิธีก็คลาสสิกเหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศสารขัณฑ์ (ตั้งอยู่ระหว่างลาวกับไทย) อยู่เนือง ๆ คือชวนลงทุน ตอนแรกก็ให้ผลตอบแทนที่สูงมากในระยะเวลาสั้น (ก็เอาเงินของเธอนั่นแหละมาจ่ายให้) เมื่อจ่ายเงินลงทุนไปมากเข้าก็ไม่อยากถอนตัว เพราะหากถอนก็จะไม่ได้เงินที่ลงทุนไปแล้วคืนมา ดังนั้นจึงถลำลึกไปทุกที กว่าจะรู้ตัวก็เกือบหมดตัว
การแสดงความร่ำรวยด้วยรถหรูและชีวิตหรูหราคือสิ่งแรกที่นักต้มตุ๋นใช้ในการสร้างความประทับใจเหยื่อว่าเขาไม่ได้มาเป็นภาระ แต่มาช่วยชดเชยความต้องการทางจิตวิทยา มาเติมความรู้สึกโรมานซ์ให้เต็ม มาเห็นคุณค่าของตนเอง (เมื่อเริ่มมีอายุ ร่างกายก็เสื่อมโทรมจนขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง) เหยื่อต้องการได้ยินสิ่งที่ตนเองอยากได้ยิน (“ยังพริ้งอยู่ไม่ดูแก่เลย” “สวยอย่างมีคุณค่า” “สง่างดงามสมฐานะ”) ปรารถนาคบหาเชิงเสน่หากับหนุ่มหน้าตา ท่าทางดีเป็นมิตรและสุภาพอีกทั้งไม่ขัดใจ (ถ้าไม่มีความหล่อ และไม่มีเสน่ห์อย่าเข้ามาในธุรกิจนี้) ต้องการกำจัดความเหงาโดยสนุก เพลิดเพลินกับ“เพื่อนใหม่”
อีกส่วนหนึ่งของ conman ซึ่งเป็นที่นิยมก็คือต้มตุ๋นคนจำนวนมากด้วย Ponzi Scheme (แบบเดียวกับ “แชร์แม่ชม้อย”) อันเก่าแก่และใช้กันมายาวนาน โดยชวนคนจำนวนมากมาลงทุนและให้ผลตอบแทนที่สูงมาก ผู้คนหลงเชื่อก็มาลงทุนมากขึ้นทุกที และในที่สุดก็หายตัวไปกับเงินของทุกคน ผลตอบแทนสูงที่ให้มิได้มาจากการลงทุนใด ๆ (เพราะไม่มีการลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนสูงขนาดนั้นได้) หากเอามาจากเงินลงทุนของคนอื่น และต่อกันเป็นหางเรื่อยไป
ประเภทแรกข้างต้นเป็นการต้มตุ๋นที่มิได้มาจากความโลภ หากมาจากการ “ถูกอ่าน” ทางจิตวิทยาโดย conman เมื่อรู้ว่ามีจุดอ่อนตรงที่ใดก็จะถูกใช้หาประโยชน์อย่างเต็มที่ เช่น โหยหาความรัก โหยหาการยอมรับ เป็นคนใจอ่อนที่มีจิตใจดี เป็นคนขี้สงสาร ฯลฯ ส่วนประเภทหลังเป็นเรื่องของความโลภโดยแท้ ถ้าไม่มีความโลภอยากได้ผลตอบแทนสูง ๆ ก็ไม่ถูกหลอกอย่างแน่นอน
กรณีที่ดังไปทั่วโลกก็คือคนไนจีเรียนับพัน ๆ คนที่ต้มตุ๋นคนทั่วโลกกันเป็นอาชีพจริงจัง แต่ละวันจะส่งอีเมล์ออกไปนับหมื่น ๆฉบับ โดยมีเนื้อเรื่องคล้ายกันคือ มีเงินอยู่มากแต่ไม่รู้จะเอาออกนอกประเทศได้อย่างไร เห็นก็แต่คุณเท่านั้นที่จะช่วยได้ ขอให้ส่งชื่อมาเท่านั้นแหละก็จะโอนเงินไปให้เป็นสิบเป็นร้อยล้าน ๆ เหรียญทันที คนโลภเมื่อเห็นเข้าก็ตาโตส่งชื่อไปและมีคำตอบกลับมาว่ามีค่าธรรมเนียมในระดับหมื่นเพื่ออ่อยเหยื่อ หากเชื่อและส่งเงินไปก็จะมีจดหมายกลับมาอีก ขอให้ส่งเงินไปอีกเป็นค่าโน่นค่านี่ คนส่งก็เสียดายเงินที่ส่งไปแล้วแต่คิดว่าเทียบแล้วมันน้อยกว่าที่จะได้กลับมาเป็นหลายหมื่นเท่าจึงส่งต่อไปอีกเรื่อย ๆ และวันหนึ่งก็หายจ้อย
อีกวิธีหนึ่งก็คือ conman แบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หาคู่ เขาจะส่งรูปหน้าตาดีที่มิใช่ตัวเอง และติดต่อคุยกันนานเป็นเดือนจนเชื่อใจ และจากนั้นก็ชวนลงทุนทีละเล็กละน้อย ต่อไปก็อาจมีโรมานซ์สัมพันธ์ด้วย (โกหกแก้ตัวว่าทำไมหน้าตัวเองจึงไม่ตรงปก และก็มักเชื่อใจจนถูกหลอกต่อไป)
conwoman ไม่ใช่จะไม่มี มีมากเช่นเดียวกัน แต่ในโลกตะวันตกนั้นดูจะมี conman จำนวนมากกว่าในเอเชีย วิธีการต้มตุ๋นก็คล้ายคลึงกัน เพียงแต่จะหลอกชายนั้นต้องใช้เสน่ห์หญิงทางเพศเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุด ป๋ามืออาชีพนั้นบ่อยครั้งรู้ว่าถูกหลอกแต่ก็เต็มใจให้หลอกตราบที่ไม่โดนหนักมือนัก ที่เดือดร้อนเป็นเรื่องเป็นราวก็เพราะพวกป๋าที่ไม่รู้จักแยกธุรกิจถูกหลอกกับความสำราญส่วนตัวออกจากกัน
การมีความภาคภูมิใจในตนเองอย่างเกินพอดี(ว่าจะไม่มีวันถูกหลอก)ดังที่ฝรั่งเรียกว่า hubris นั้น คือหนทางของความประมาทอันนำมาซึ่งความหายนะโดยแท้ การระแวดระวังตัวเองให้ดีในเรื่องความโลภ ความเสน่หา การไว้วางใจคน ความต้องการชดเชยทางจิตวิทยา และการหาความสนุกสำราญ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นเครื่องคุ้มกันภัยที่ดีที่สุด.