คนกลัวเข็ม  

คลิปคนกลัวเข็มที่ผมเห็น มีตั้งแต่ดาราหนุ่มใหญ่ ทหารกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ พยาบาลอาวุโส รวมทั้งประชาชนทั่วไป ที่ต่างก็กลัวเข็มเอามากๆ 

หลายคน บิดตัวหนีทุลักทุเล ตกจากเก้าอี้ลงมากองกับพื้นก็มี ร้องเสียงหลงก็มี ขนาดฉีดเสร็จแล้ว บางคนยังหน้าซีดเผือด แต่พอถามว่าเจ็บไหม ก็ตอบว่าไม่เจ็บ อ้าว แล้วทำไมต้องกลัวขนาดนั้นล่ะ  

เรื่องนี้ไม่น่าเป็นเรื่องธรรมดา ใครจะอยากเป็นแบบนั้น เพราะหวาดกลัวมากๆ มันต้องมีอะไรสักอย่าง ที่ทำให้กลัวเข็มขนาดนั้น 

ผมจึงค้นคว้ารายงานจากต่างประเทศ พบว่า “กลัวเข็ม” (Needle Phobia) มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า “Trypanophobia” ซึ่งคนที่ดูคลิป อาจจะรู้สึกขำขันและหัวเราะสนุกสนาน เพราะเข็มเล็กนิดเดียว ใครๆก็ฉีดกัน แล้วคนตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม ทำไมกลัวขนาดนั้น 

แต่เจ้าตัวเขาไม่ได้รู้สึกขำด้วยครับ มันก็คงเหมือนความกลัวเรื่องอื่นๆที่ กลัวสุดๆ เช่น กลัวความสูง กลัวจิ้งจก กลัวที่แคบ เป็นต้น อย่างบางคน เข้าลิฟต์เล็กๆ ตามลำพังคนเดียวไม่ได้เลย เป็นต้น 

รายงานจากอังกฤษระบุว่า คนกลัวเข็ม มีประมาณ  3-10% ของประชากรทั้งหมด และเมื่อแยกตามอายุ พบว่าเด็กเล็กเกือบทุกคนกลัวเข็ม คนวัยรุ่น 20-50% และ คนหนุ่มสาว 20-30% 

ตัวเลขนี้ มากกว่าที่ผมคิด แต่ผมก็งงว่าจาก 20-30% หรือ 20-50% แล้วมันสรุปลงมาเหลือตัวเลขเฉลี่ยที่ 3-10% ได้อย่างไร ก็เลยต้องเดาเอาเองว่า คนวัยกลางคน และคนสูงวัย (ที่รายงานนี้ไม่ได้พูดถึง) คงจะกลัวเข็มน้อยกว่ามาก และประชากรกลุ่มนี้มีสัดส่วนที่สูง จึงดึงตัวเลขเฉลี่ยลงมา 

ปกติเรามักเห็น ลูกหลาน ร้องไห้กลัวเข็ม แต่ที่เราเห็นบ่อยในช่วงนี้เป็น “ผู้ใหญ่" เพราะมหกรรมฉีดวัคซีนทั่วไทยและทั่วโลก คนนับร้อยล้านพันล้าน เรียงแถวกันเข้าฉีดวัคซีน เราก็ดูคลิปกันแบบสนุกสนาน 

แต่รายงานทางการแพทย์ระบุว่า “Needle Phobia” เกิดจาก “ภาวะทางจิต” คือ เพียงแค่ “คิด” เท่านั้นเอง ว่ากำลังจะมีเข็ม ฉีดผ่านผิวหนังเข้าสู่กล้ามเนื้อ ก็หวาดผวาและจินตนาการไปต่างๆนานา จนทำให้หัวใจเต้นแรง หายใจไม่ทัน เหงื่อออกท่วมกาย มือสั่น ปากสั่น และบ่อยครั้งก็เป็นลม หรือบางคนอาจหมดสติไปเลย 

โดยภาพรวมในอังกฤษมีคน 16% ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะว่ากลัวเข็ม แต่ที่น่าสนใจ ก็คือ พนักงานที่ทำงานในโรงพยาบาล (hospital employees) และ บุคลากรทางการแพทย์ (healthcare workers) ที่ไม่ยอมฉีดเพราะกลัวเข็ม ก็มี 27% และ 8% ตามลำดับ 

รายงานสรุปว่า การกลัวเข็มเป็นเรื่องที่ซีเรียส และคนกลุ่มนี้ต้องได้รับการดูแล เพราะมันจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื่องอื่นๆได้ด้วย เช่นไม่ยอมรับการตรวจเลือด ไม่ยอมรับการให้เลือด ไม่ยอมหาหมอฟันเพราะกลัวต้องฉีดยาชา เป็นต้น 

ดังนั้น ใครที่เคยหัวเราะ เวลาที่เห็นภาพคนกลัวเข็มดิ้นทุรนทุราย ก็คงจะเริ่มเข้าใจและเห็นใจคนกลัวเข็มมากขึ้นนะครับ 

ตอนที่ผมค้นคว้าเรื่อง คนกลัวเข็มอย่างรุนแรง ที่เรียกว่า Needle Phobia นั้น ผมก็เลยอยากรู้ว่า “Phobia ชนิดอื่นๆ” มีมากไหม โอ้โฮ! มีเป็นกะตั้กเลยครับ เช่น กลัวการอยู่คนเดียว (Autophobia) กลัวความล้มเหลว (Atychiphobia) กลัวการตัดสินใจ (Decidophobia) กลัวนก (Ornithophobia) กลัวความรัก (Phinophobia) กลัวที่ โล่ง   (Agoraphobia) ฯลฯ  

จะเอาอะไรอีกล่ะ มนุษย์เรานี่กลัวหลายอย่างจริงๆ และทุก Phobia ก็จะมีอาการกลัวต่อสิ่งเร้าอย่างรุนแรง 

ผมก็เลยนึกขึ้นมาว่า เอ! แล้วมันจะมีโรคที่ชื่อ “Sinophobia” บ้างไหมเนี่ย (ไม่ใช่โรค กลัววัคซีน Sinopharm ที่กำลังจะเริ่มฉีดกันวันนี้นะครับ!) ผมคิดศัพท์นี้ขึ้นมาเอง หมายถึง Sin + Phobia คือโรค “กลัวบาป” อย่างแรงครับ 

อ้าว! คิดเล่นๆ แต่ก็มีจริงเสียด้วยแฮะ เขาไม่ได้เรียก Sinophobia อย่างที่ผมตั้งชื่อ แต่เรียกว่า “Enosiophobia” ครับ คือ “โรคกลัวที่จะเป็นคนบาป” เพียงแค่คิดว่าจะถูกวิจารณ์ หรือจะทำในสิ่งที่เป็นบาป หัวใจก็เต้นแรง หายใจเร็ว เหงื่อท่วมตัว ตัวสั่น ปากสั่น ฯลฯ  

ผมคิดว่าในบ้านเรา มี “ชนชั้นผู้นำ (Elites)” จำนวนหนึ่ง นะครับ ที่ไม่เคยมีอาการของโรค “Enosiophobia” นี้เลย ก็คือ ชนชั้นผู้นำที่มีอำนาจในสังคม ที่ไม่กลัวบาป เมื่อโกหกประชาชน ไม่กลัวบาปเมื่อโกงประชาชน ฯลฯ  

กี่ยุคกี่สมัยก็ยังมีคนพวกนี้ คอยถ่วงความเจริญของประเทศ จน ประชาชนป่วยกันหมดแล้ว มีอาการ Phobia คือเป็น โรคกลัวชนชั้นผู้นำ (Elites) กลุ่มที่มีอำนาจและไม่กลัวบาป” 

ผมตั้งชื่อโรคนี้ว่า “Elitophobia” ครับ 

เรากลัวพวกท่านมาก กลัวจนเหงื่อท่วมตัว...กลัวจริงๆจ้า