เดือดร้อนเพราะเมีย
โควิดทำเครียดกันทั้งประเทศแล้ว วันนี้เอาเรื่องเบาๆ มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อคลายเครียดนะครับ
สำหรับชื่อเรื่องนี้ ขออนุญาตใช้คำธรรมดาๆว่า เมีย เพราะถ้าใช้ ภรรยา หรือ คู่สมรส มันจะเป็นทางการไปหน่อย และอาจไม่เข้ากับอารมณ์ของเรื่อง
เป็นเรื่องของ ทูตเบลเยี่ยมประจำเกาหลีใต้ นามว่า “Peter Lescouhier” ซึ่งท่านได้ปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่เกาหลีใต้ ตั้งแต่ปี 2018 และด้วยวัย 69 ปี ผมว่าท่านคงผ่านประสบการณ์การเป็นทูต มาเป็นเวลานาน และรู้วิถีปฎิบัติทางการทูตเป็นอย่างดี
แต่ “คุณเซี่ยง” (Xiang Xueqiu) ภรรยาของท่าน วัย 65 ปี เชื้อชาติจีน ได้สร้างความตื่นเต้นให้เกิดขึ้น เพราะต้นเดือนเมษายนนี้เอง เธอได้เข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งที่ กรุงโซล หลังจากที่เลือกเสื้อผ้า และลองสวมเสื้อผ้าอยู่พักหนึ่ง เธอก็เดินออกจากร้านไป
ปรากฎว่าพนักงานของร้าน รีบเดินตามเธอออกไป และสักครู่หนึ่งพนักงานก็เดินกลับเข้ามาในร้าน โดยคุณเซี่ยงเดินตามกลับมาติดๆ
ที่พนักงานขายเดินตามเธอออกไป ก็เพราะสงสัยว่าภรรยาทูต ได้หยิบแจ็คเก็ตที่ขายในร้าน ใส่เดินออกไปโดยพลการหรือเปล่า จึงเดินตามไปขอดูป้ายราคา บนเสื้อแจ็คเก็ตที่เธอสวมอยู่
ปรากฎว่าแจ็คเก็ตตัวนั้น เป็นของเธอเอง ไม่ได้เอามาจากร้าน พนักงานขายจึงกล่าวขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เดินกลับร้าน แต่ภรรยาทูตโกรธมาก เดินตามกลับเข้าไป และมีปากเสียงกับพนักงานหญิง 2 คน
กล้องวงจรปิดภายในร้าน จับภาพเธอในระหว่างที่พูดคุยกับพนักงานขาย และช่วงหนึ่ง ภรรยาท่านทูตก็ยกมือขึ้น แล้วตบฉาดลงไปบนใบหน้าพนักงานหญิง โดยอีกฝ่าย มิได้ต่อสู้แต่ประการใด
หลังจากเหตุการณ์ ตำรวจเกาหลีก็จะดำเนินคดีความ แต่ภรรยาทูตก็ยกเอกสิทธิและความคุ้มกันทางการทูต ทำให้ตำรวจดำเนินคดีไม่ได้
แต่พฤติกรรมอย่างนี้ ทั้งๆที่มีสถานภาพเป็นถึงภรรยาทูต คุณว่าท่านทูตเบลเยี่ยม จะไปรอดไหมครับ
ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ส่งต่อกันว่อนในอินเตอร์เน็ต ทำให้คนเกาหลีใต้โกรธมาก เรียกร้องให้สามีภรรยาออกไปจากประเทศ ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะถ้ามาทำแบบนี้ กับคนไทยเรา เราก็รับไม่ได้เหมือนกัน
ส่วนท่านทูต ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ท่านก็ออกแถลงการณ์ขอโทษหลายครั้ง และบอกว่า “ไม่ว่าภรรยาจะโกรธด้วยเหตุใดก็ตาม แต่พฤติกรรมเช่นนี้ไม่เหมาะสม”
เรื่องนี้สะเทือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศเบลเยี่ยม จึงต้องออกแถลงการณ์
แถลงการณ์ระบุว่า ท่านทูตไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ ในเกาหลีใต้ ต่อไปได้อย่างราบรื่นแล้ว และสั่งให้ย้ายกลับเบลเยี่ยม ในฤดูร้อนที่จะมาถึง
พูดง่ายๆก็คือ โดนย้ายเพราะเมีย
ส่วนคุณเซี่ยง ตำรวจเกาหลีใต้แถลงว่า ในเวลาต่อมาเธอได้ขอสละการใช้เอกสิทธิ์ และความคุ้มครองทางการทูต แต่ขณะเดียวกัน พนักงานขายก็บอกว่าไม่เอาเรื่องด้วย
ส่วนแถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศเบลเยี่ยม ก็ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุน การทำงานของตำรวจเกาหลีใต้ทุกประการ
เรื่องนี้ผ่านไปเพียง 2 เดือนเศษ ยังไม่ทันจะถึงเวลาที่ท่านทูต จะย้ายกลับเบลเยี่ยมเลย ก็ปรากฏว่าภรรยาท่านทูต ได้สร้างวีรกรรมอีกแล้วครับ เมื่อต้นเดือนนี้เอง
เช้าวันที่ 6 ก.ค. เธอโกรธที่ ชายกวาดถนน คนหนึ่ง วัย 65 ปี ขณะที่กำลังกวาดถนน และปลายไม้กวาดของเขา ได้ไปโดนเธอเข้าโดยไม่ตั้งใจ เธอตะโกนใส่ แล้วตบชายกวาดถนน 2 ครั้ง เขาก็เลยตอบโต้ ด้วยการผลักเธอล้มลง
เมื่อตำรวจเข้ามาจัดการ ทั้งสองฝ่ายตกลงไม่เอาเรื่องกัน เรื่องจึงจบลง แต่เมื่อถึงขั้นนี้ เบลเยี่ยมก็ปล่อยให้เรื่องผ่านไปไม่ได้แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ จึงออกแถลงการณ์อีกครั้ง คราวนี้ เรียกท่านทูตกลับประเทศ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ทันที
เมียช่วยให้ได้กลับประเทศเร็วขึ้น ว่างั้นเถอะ
เรื่องนี้สอนว่า คนที่เป็นคู่สมรสของผู้นำ ยิ่งสูง ยิ่งต้องปฎิบัติตนให้เหมาะสม ถึงแม้ที่ผมเล่ามา จะเป็นเรื่องของ ภรรยา แต่สมัยนี้ผู้หญิงเก่งมีมากมาย เช่นผู้นำเยอรมัน นิวซีแลนด์ เป็นต้น ดังนั้น คนเป็น สามี ก็ต้องปฎิบัติตนให้ดี เช่นกัน
สำหรับผู้นำไทย ส่วนมากเป็นชาย วิถีปฎิบัติของภรรยา ก็มีหลากหลายแบบ ตั้งแต่อยู่บ้าน เป็นแม่บ้านที่เรียบร้อย มีอาชีพอะไรก็ทำต่อไปตามปกติ ไม่ออกมาวุ่นวายกับงานของสามี ไม่ออกงานโดยไม่จำเป็น แบบนี้ก็มีหลายคน และมักได้รับความชื่นชมจากสังคมไทย
อีกประเภท ก็ออกมาปรากฎกายในสังคม โชว์ลีลาเฉียบคม หรือบางทีก็เฉียบขาด จนเป็นที่เล่าสู่กันฟัง จากปากถึงปากในวงสังคม ก็มีให้เห็น ให้ได้ยินอยู่เหมือนกัน
แต่กรณีทูตเบลเยี่ยมคนนี้ จริงๆคุณเซี่ยง เธออายุ 65 ปีแล้ว และปกติก็เป็นคนเก็บตัว ไม่มีข่าวคราวอะไร นานๆเปิดตัวที เพียงแต่เปิดตัวสองครั้งนี้ ไม่ได้เปิดตัวแบบธรรมดาๆ
เปิดแบบตบซ้าย ตบขวา ตบไปตบมา สามีโดนลูกหลง ถูกตบทิพย์สลบไปด้วย ท่านทูตเลยต้องถูกเรียกกลับทันที ไปรักษาแผลอักเสบที่บรัสเซล
ใครที่เห็นใจท่านทูต อยากส่ง สมุนไพรไทย ไปช่วย แก้อักเสบ ก็ได้นะ เพียงแต่ช่วงนี้อาจจะหายากสักหน่อย เพราะว่าชาวประชากำลังขาดแคลน ทั้งกระชายขาว และฟ้าทะลายโจร
ยังไงถ้าจะแก้ขัด ด้วยการส่ง ใบบัวบก ให้ท่านทูต ชงแก้ช้ำ ไปพลางๆก่อน ก็น่าจะพอได้ เพียงแต่ผมไม่ทราบว่า “ใบบัวบก” ก็อาจจะเริ่มขาดแคลนแล้วหรือยัง
เพราะผู้นำไทยหลายระดับ ช่วงนี้อาจต้องดื่มมากขึ้นเป็นพิเศษครับ