ไม่เป็นเขา เราไม่รู้หรอก

แต่ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่รู้สึกว่า คนที่พลาดพลั้งตกเป็นเหยื่อเหล่านี้ ช่างดูไม่ฉลาด หรือขาดความเฉลียวเสียจริงๆ ไม่ยอมสืบค้นข้อมูลให้ดี ไม่ได้ตามอัพเดทข่าวสารหรืออย่างไร ซึ่งถ้อยคำของกลุ่มหลัง บางครั้งมาพร้อมคำหยาบคาย ก่นด่า เปรียบเทียบว่าโง่เหมือน...

แต่จะว่าไป ใจเขาใจเรา ถ้าเคสค่อนข้างง่าย อย่างมีคนหลอกว่าเป็นบริษัทส่งพัสดุ มีของๆ เราและต้องจ่ายเงินโน่นนี่ หลอกให้เปิดบัญชีแล้วให้เงินไปใช้แบบไม่เดือดร้อน หลอกว่าเป็นต่างชาติขาดรักแท้และขอเงินโน่นนี่ แบบ Romance Scam 101 ก็พอเข้าใจได้ว่าไม่ควรพลาด 

แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ มิจฉาชีพทุกวันนี้ อัพเวล อัพสกิลกันเยอะมาก เช่น การส่ง SMS ปลอมมาในชื่อองค์กรใดๆ ที่เรามักจะได้รับประจำ แถมเรื่องราวเกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อนหน้าเสียด้วย

หรือ อย่างกรณีเรื่องจริงที่น่าปวดใจจากสารดี NetFlix เรื่อง The Tinder Swindler ก็จัดว่าเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายจริงๆ ชนิดที่ถ้าไม่เกิดกับเรา ก็ยากจะเข้าใจเพราะโจรมีความทุ่มทุนสร้างอย่างไม่น่าเชื่อ

เรื่องราวรักหลอกบันลือโลกที่ 18 มงกุฏสุดหล่อจากอิสราเอล ที่ชื่อ Simon Leview ลวงสาวหลายชาติผ่านแอพหาคู่อย่าง Tinder ได้เนียนมาก ในสารคดีมีการนำข้อมูลจากชีวิตจริง ผู้หญิง 3 คนที่กล้าเปิดเผยตัว บอกเล่าถึงเรื่องราวการโดนหลอกของพวกเธอ ถ้าดูไปแบบมีหัวใจ Empathy จะพบว่า ถ้าเป็นเราเจอแบบนี้ ก็อาจมีเผลอไผลกลายเป็นเหยื่อได้เหมือนกัน

เมื่อสาวโปรไฟล์ใช้ได้ การศึกษาดี หน้าตาไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ เปิด Tinder เจอคนที่แมตช์ คนๆ นั้นช่างหน้าตาดี น่าสนใจ พูดคุยกันก็ไปแสนจะใส่ใจเรา ลองสืบค้นประวัติในอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น พบว่ามีคนตามใน IG จำนวนวมาก ฐานะหรือก็ถึงขั้นเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทเพชรใหญ่โต ติดอันดับมหาเศรษฐี คนระดับนั้น มาสนใจคนธรรมดาอย่างเรานี่ 

ภาพของนิยายนิทานพาฝันที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตกระตุ้นให้ชวนคิดเคลิ้ม แต่ความฝันก็กลายเป็นความจริง เมื่อทุกสิ่งบนออนไลน์ ขยายมาสู่ออฟไลน์ในชีวิตจริง ไม่มีเรื่องของรูปปลอม แบบที่ในโปรไฟล์หล่อเริ่ด ตัวจริงอัปลักษณ์ หรือการแหวกหญ้าให้งูตื่นตั้งแต่ต้น ทุกสิ่งอย่างล้วนเหมือนฝันที่เป็นจริง

รู้ตัวอีกที อะไรที่เป็นนิยามของความโรแมนติกแบบไม่ธรรมดาก็ถาโถมเข้ามา ทั้งการนัดพบพาไปเลี้ยงอาหารที่โรงแรมหรู ชวนเดินทางไป Business Trip ที่ต่างประเทศด้วยกันผ่านเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว มีเมนูอาหารเป็นคาร์เวีย แม้บางครั้งอยู่คนละประเทศ เมื่อฝ่ายหญิงบ่นว่าอยากเจอ ก็บินมาหา แม้ต้องเดินทางไปทำงานที่ไหนไกลตา ก็รายงานตัวตลอด ทั้งส่งข้อความ ส่งรูป วีดิโอ โลเคชั่น อัปเดตว่าอยู่ที่ไหน กับใคร เรียกว่าแม้ (เหมือนว่า) ธุรกิจและชีวิตจะยุ่งแค่ไหน ก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง เพราะจริงใจ แคร์ในความสัมพันธ์ ให้รู้สึกว่า เราคือคนสำคัญ

สำคัญขนาดไหน สำคัญขนาดจะลงเอยเป็นคู่ชีวิต เป็นแม่ของลูก ขนาดให้ไปช่วยเลือกหาอพาร์ตเมนท์ที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน และสำคัญขนาดที่กล้าบอกถึงเรื่องราวอันตรายที่อาจจะพบเจอ รวมถึงเมื่อมีปัญหาในชีวิต ก็คิดถึงเราเป็นคนแรกๆ ซึ่งตามประสาคนที่ (เชื่อว่า) เรารักกัน ก็ควรจับมือเคียงข้างกันทั้งในยามสุขและทุกข์ไม่ใช่หรือ

เรื่องราวการหลอกระดับบุญทุ่มตุ๊กตาทองของคนหล่อพร้อมขั้นเทพยังมีอีกเป็นขั้นๆ อย่างแยบยล อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเปิดโปงในช่วงแรก นอกจากมีผู้คนก่นด่ามิจฉาชีพแล้ว ก็ยังประณามหยามเหยียดเหยื่อทั้งสาม ที่ยอมให้เรื่องราวและข้อมูลของเธอเป็นวิทยาทานต่อผู้คน ว่าพวกเธอช่างโง่เขลาเบาปัญญา รักไม่ลืมหูลืมตา โลภ ตบท้ายการสมน้ำหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ดูจะใจร้ายเกินไป

ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย มีความฝันเกี่ยวกับความรักที่สวยงาม อยากมีใครซักคนมาสวมแหวน สวมมงกุฎ แต่กลายเป็นต้องเจอกับ 18 มงกุฎ เสียใจ เสียทรัพย์มหาศาล เป็นบทเรียนราคาแพง สะท้านโลก แต่เรื่องราวของเธอ ก็เป็นอุทาหรณ์ที่ดีมาก ให้กับผู้คนอีกมากมาย

กลับมาที่เราเอง เราเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นได้ โดยไม่ต้องเอาชีวิต (และเงิน) เป็นเดิมพัน และเมื่อเห็นว่าใครล้ม ก็ไม่จำเป็นต้องก่นด่าทับถมเสมอไป ผงไม่เข้าตา เราเองก็อาจไม่รู้ คนที่ยอมเปิดเผยความผิดพลาด (หรือความดูไม่ฉลาด) ของตัวเอง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่น ก็มีส่วนที่น่านับถือน้ำใจ 

ทุกวันนี้ โลกออนไลน์วุ่นวายพอแล้ว ก่อนโพสต์อะไร นอกจากเช็กว่าข้อมูลนั้นจริงมั้ย มีประโยชน์กับใครมั้ย แล้วอาจต้องใช้หัวใจเราชั่งดูด้วยว่า เมื่อคนที่ชีวิตผิดพลาดเหล่านั้น ได้เห็นข้อความของเราแล้ว หัวใจที่กำลังร้าวรานนั้น จะค่อยๆ ประสานดีขึ้น หรือแตกกระจาย สลายลง!