เข้าใจธรรมชาติของคนแต่ละยุค
ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ภายในครอบครัวก็จะเห็นปัญหาที่ไม่แตกต่างกันนักในการสื่อสารระหว่างพ่อแม่กับลูกที่เป็นเด็กรุ่นใหม่
การสื่อสารกับพนักงานรุ่นใหม่หลายครั้งจบลงที่ความเข้าใจผิด เพราะผู้สื่อสารกับผู้รับสารที่อยู่ในวัยแตกต่างกัน จึงมีมุมมองทางความคิดและตีความต่อบริบทที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกันจนทำให้การทำงานเกิดการสะดุดติดขัดอยู่เป็นประจำ
หลายคนอาจท้อถอยในการทำงานร่วมกันระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ เพราะรู้สึกเหมือนพูดกับมนุษย์ต่างดาวที่ทำอย่างไรก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งเคยเกริ่นไว้ใน “Think out of The Box” บ้างแล้วว่า แท้จริงแล้วการปรับให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันนั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหากเราเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ให้ดีขึ้น
เพราะปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ลองมองย้อนมาดูภายในครอบครัวเราก็จะเห็นปัญหาที่ไม่แตกต่างกันนักในการสื่อสารระหว่างพ่อแม่กับลูกที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ เพราะไม่ว่าพ่อแม่ต้องการอะไร ลูกๆ ก็ดูเหมือนจะทำในสิ่งตรงกันข้ามไปเสียหมด
เพราะธรรมชาติของพ่อแม่ที่เติบโตมาในยุคที่สังคมไม่มีความสลับซับซ้อนมากเท่าในปัจจุบันนี้ รูปแบบในการดำเนินชีวิตจึงมีแต่ความเรียบง่าย เช่นการเรียนก็มีเพียงไม่กี่คณะไม่กี่สาขาวิชา เช่นเดียวกับการทำงานก็มีอาชีพให้เลือกเพียงไม่กี่อย่าง
การจะใช้รูปแบบชีวิตแบบเดิมของตัวเองมาใช้กับลูกจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้สังคมปัจจุบันที่สลับซับซ้อนมากกว่าเดิมหลายๆ เท่า ยิ่งตีกรอบให้ลูกก็ยิ่งทำให้ทะเลาะเบาะแว้งกันเพราะต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
แม้ว่าพ่อแม่จะมีเจตนาที่ดีต่อลูกเสมอ แต่ความคิดเห็นและเป้าหมายขีวิตที่ตั้งเป้าไว้ให้ลูกนั้นอาจไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ความต้องการของพ่อและแม่จึงไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดเสมอไป และนั่นอาจไม่ตรงกับความต้องการของลูกเลยแม้แต่น้อย
เช่นเดียวกับพนักงานในองค์กรธุรกิจ รวมไปถึงลูกค้าของเราที่ไม่ได้มีมิติทางความคิดเรียบง่ายเหมือนในอดีต โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่แต่เดิมมีบริษัทชั้นนำอยู่เพียงไม่กี่แห่ง มีมาตรฐานระบบให้เลือกไม่มากนัก ความต้องการของลูกค้าจึงไม่มีความสลับซับซ้อนมากเหมือนทุกวันนี้
การนำเสนอระบบใหม่ๆ จึงมักเน้นเพียงความสามารถของเทคโนโลยีว่าทำอะไรได้บ้างก็เพียงพอ ต่อการตัดสินใจของลูกค้า ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่ลูกค้ามีทางเลือกจากบริษัทเล็กๆ จำนวนมากทั่วโลกที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าในมิติที่แตกต่างกัน
การสื่อสารกับคนรุ่นใหม่จึงต้องเข้าใจความต้องการของคนแต่ละวัยที่แตกต่างกัน กับพนักงานก็ต้องให้เขามองเห็นผลประโยชน์ของตัวเองให้ชัดเจนว่าเขาจะได้อะไร บริษัทจะได้อะไร เป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา และเป็นความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ที่มักเน้นผลประโยชน์ของตัวเองมาก่อนเสมอ
กับลูกค้าก็ต้องให้เขาเห็นว่าเขาจำเป็นต้องใช้ระบบอะไรเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับตัวเองได้ เพราะเมื่อลูกค้ามองเห็นความสำเร็จของตัวเองว่าจำเป็นต้องใช้ระบบของเราเป็นส่วนประกอบการตัดสินใจซื้อก็ย่อมเกิดขึ้นได้ง่ายและเร็วขึ้นมาก