"กรุงศรี" ชูกลยุทธ์ One Retail หนุนลูกค้ารายย่อยแตะ 15 ล้านราย
"กรุงศรี" ปรับทิศทางธุรกิจใหม่ ภายใต้กลยุทธ์ "Krungsri One Retail" มุ่งเน้นการเติบโตยั่งยืน มั่นใจบรรลุความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ใน 3 ปี
ปัจจุบันทั่วโลกและประเทศไทย เผชิญแรงกดดัน ทั้งดอกเบี้ยขาขึ้น ภาวะเงินเฟ้อสูง ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย และการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินเข้าสู่ดิจิทัล ล้วนส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นับเป็นความท้าทายของ "ธุรกิจการเงินไทย" ในระยะ 3 ปีข้างหน้า
สะท้อนจากสถาบันการเงินชั้นนำอย่าง "กรุงศรี" ที่ได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ ภายใต้กลยุทธ์ "Krungsri One Retail" หนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และพร้อมก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินหลักสำหรับธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลตามเป้าหมาย รวมถึงผสานจุดแข็งของบริษัทในเครือรวมกันเป็นหนึ่งได้อย่างลงตัว
พงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ถึงการนำทัพทรานส์ฟอร์มภายใต้กลยุทธ์ "Krungsri One Retail" ว่า ทุกธุรกิจในเครือของกรุงศรีจะเห็นภาพตรงกันถึงประโยชน์ของ "Krungsri One Retail" ที่จะผสานจุดแข็งร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ แน่นอนว่าลูกค้าคือผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ขณะเดียวกัน ลูกค้าก็จะมีความผูกพันกับกรุงศรีมากขึ้น ทั้งลูกค้าเดิมและคนที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าใหม่ในอนาคต เราได้เห็นโอกาสสร้างการเติบโตในแบบที่อยากจะเป็นคือ หากเราเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ลูกค้าไว้ใจได้ก็เชื่อว่ากรุงศรีจะกลายเป็นผู้นำทางการเงินในทุกบริการได้เช่นกัน
"เรามั่นใจว่า กลยุทธ์ Krungsri One Retail เดินมาถูกทางแล้ว สะท้อนจากหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จคือ ผลประกอบการ 9 เดือนในปีนี้ของ กรุงศรี เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื่อว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้ายังต้องเผชิญความท้าทายอยู่ แต่กลยุทธ์นี้จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตของเราและจะเพิ่มการถือครองผลิตภัณฑ์ทางการเงินของลูกค้าให้มากขึ้น"
พงษ์อนันต์ กล่าวต่อว่า โมเดลการทรานส์ฟอร์มของธุรกิจการเงินแต่ละแห่งแตกต่างกันไป สำหรับธุรกิจในเครือของกรุงศรี เดินออกจากธนาคารมานานแล้ว โดยเห็นปัญหาและโอกาสเติบโตแบบของตัวเองที่ได้มากกว่า ไม่ใช่แค่ 1 บวก 1 ได้เท่ากับ 2 แต่ต้องทำให้ได้มากกว่า 2 เพราะการเติมเต็มจากกลยุทธ์ "Krungsri One Retail" ปัจจุบัน ทุกบริษัทในเครือยังมีความยืดหยุ่น คล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนในภาวะต่าง ๆ ได้ เพื่อสร้างจุดแข็งร่วมกัน ตอบโจทย์ลูกค้า และเดินไปสู่เป้าหมายได้
พงษ์อนันต์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ "Krungsri One Retail" ต่อจากนี้ กรุงศรี จะยังมุ่งเน้นผสานจุดแข็งจากทุกธุรกิจในเครือ ผ่าน 4 แนวทางหลัก ดังนี้
- เพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบ 360 องศา (One Retail Data Analytics) ช่วงที่ผ่านมาสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทุกบริษัทในกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยในเครือกรุงศรีแล้ว และกำลังนำเข้าระบบแพลตฟอร์มข้อมูล "One Retail" มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในทุกแง่มุม เพื่อให้เข้าใจลูกค้าอย่างรอบด้าน และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตรงความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ผ่านช่องทางและในเวลาที่เหมาะสม
- การให้ความรู้และคำแนะนำทางการเงิน (One Retail Financial Advisory) กรุงศรีมุ่งเป็นพันธมิตรหรือที่ปรึกษาทางการเงินที่ลูกค้าไว้ใจสำหรับลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลผ่านโครงการให้ความรู้ทางการเงินและการลงทุนครบทุกมิติ โดยนำเสนอผ่านรายการออนไลน์ต่าง ๆ เช่น รายการ Krungsri THE COACH, Double Espresso และ Krungsri Exclusive x Krungsri THE COACH รวมถึงความร่วมมือระหว่างกลุ่มธนาคารกรุงศรีและบริษัทบริหารจัดการกองทุนระดับโลกอย่าง "BlackRock" เพื่อขยายมุมมองด้านการลงทุนผ่าน "One Krungsri Investment View" ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ากลุ่มที่มีสินทรัพย์สูง (High Net Worth)
- สร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น (One Retail Innovative Financial Solution) จะใช้ทักษะความเชี่ยวชาญของกรุงศรี พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อมุ่งตอบโจทย์ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น เช่น KSS iGlobal แอปพลิเคชันซื้อขายหุ้นต่างประเทศสำหรับคนรุ่นใหม่, Krungsri Finnoventure Private Equity Fund กองทุนรวมนวัตกรรมใหม่ที่เน้นลงทุนในสตาร์ทอัพในไทย, Kept Together ฟีเจอร์ใหม่ในการออมเงิน, บัตร Krungsri NOW และบัตร XU บัตรเครดิตดิจิทัล, First Choice SnapCash สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล, แอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อยานยนต์ และความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อต่อยอดบริการและนำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า เช่น Grab เป็นต้น
- พัฒนาช่องทางให้บริการแบบไร้รอยต่อ เพื่อประสบการณ์ลูกค้าที่ดี (One Retail Channel) โดยกรุงศรีได้พัฒนาช่องทางสาขาเป็นรูปแบบ "One Retail Branch" เพื่อผสานความร่วมมือระหว่างธนาคาร, กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และกรุงศรี ออโต้ ให้มีบริการอยู่ในสาขาเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้แบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และยังพัฒนาช่องทางดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มและโมบายแอปพลิเคชันที่มีอยู่ ทั้ง KMA, KEPT, UCHOOSE และ GO โดยจะเชื่อมต่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้เสมือนเป็นแอปฯ เดียวกัน รวมทั้งให้บริการใหม่ ๆ ที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าผ่านการผสานช่องทางออนไลน์และสาขา เช่น การให้บริการเปิดบัญชีผ่านโมบายแอปพลิเคชันที่สามารถยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงศรีและบริษัทในเครือ รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ
พงษ์อนันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรามั่นใจจะสามารถบรรลุความสำเร็จตามเป้าหมายของกลยุทธ์ "Krungsri One Retail" ที่วางไว้ภายในปี 2567 คือ 1. ขยายฐานลูกค้ารายย่อยก้าวสู่ 15 ล้านราย หรือเติบโตเฉลี่ย 7.5% ต่อปี 2. เพิ่มขีดความสามารถด้านการให้บริการและเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการช่องทางดิจิทัล (Mobile Users) สู่ 12 ล้านราย หรือเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี และ 3. เติบโตและขยายธุรกิจรายย่อยในกลุ่มประเทศ AEC คาดหวังกำไรสุทธิอยู่ที่ 10% ของกลุ่มกรุงศรีทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ยังสามารถเติบโตตามเป้าหมายดังกล่าว