จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ตลาดยังไม่วางใจ แต่เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามา
จับตาการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน หลังพยายามออกนโยบายฟื้นฟู และเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติม ทำให้เริ่มเห็นแรงซื้อจากนักลงทุนกลับเข้ามา แต่จะช่วยดันดัชนีเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ได้หรือไม่ ต้องติดตาม
ในช่วงที่ผ่านมา ทางการจีนได้พยายามออกมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายหลังจากการเปิดประเทศในเดือนมกราคม 2023 และปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงยืดเยื้อ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของจีน ได้กระตุ้นให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้ทางการจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยใน การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมานั้น ทางการจีนได้ส่งสัญญาณที่จะออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุน และฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ เร่งสร้างเสถียรภาพการจ้างงาน กระตุ้นอุปสงค์การอุปโภคบริโภค พร้อมกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อให้ เศรษฐกิจจีน สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ในปีนี้ โดยสามารถสรุปแนวทางที่รัฐบาลจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ดังนี้
แม้ตลาดหุ้นจีนยังเคลื่อนไหวในกรอบ แต่เริ่มเห็นแรงซื้อของนักลงทุนกลับเข้ามาบ้าง
เมื่อรัฐบาลจีนออกประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยังส่งสัญญาณที่จะออกนโยบายและมาตรการเพิ่มเติม ส่งผลให้มีแรงซื้อ หุ้นจีน กลับเข้ามา โดยเริ่มมีเงินลงทุนไหลเข้าตั้งแต่ในช่วงประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2023 ที่นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน เข้าพบผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีหลายราย พร้อมทั้งยังให้คำมั่นว่า กลับมาจะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีอีกครั้ง รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นให้การสนับสนุนบริษัทอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แม้จะมีข่าวหน่วยงานกำกับจีนเตรียมจะออกเกณฑ์เพิ่มเติม ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้มือถือนานกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน แต่คาดว่าผลกระทบต่อภาคธุรกิจจะมีอยู่จำกัด ในขณะที่ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ผู้อำนวยการสำนักนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า ทางธนาคารฯ จะใช้เครื่องมือนโยบายต่างๆ ผ่านการลดอัตราส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
การส่งสัญญาณและการออกมาตรการของรัฐบาลจีนในช่วงที่ผ่านมานั้น ถือเป็นปัจจัยหนุนให้มี Fund Flow ไหลเข้ากองทุน KraneShare CSI China Internet ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีน ประกอบไปด้วย หุ้นขนาดใหญ่ของจีนในTop Holding ได้แก่ Alibaba (สัดส่วน 9.14%), Tencent (สัดส่วน 8.93%), Meituan (สัดส่วน 8.17%), Pinquito (สัดส่วน 7.62%), Baidu (สัดส่วน 6.11%) และ JD.com (สัดส่วน 3.94%)
ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2023
เริ่มเห็น fund flow เริ่มกลับเข้ามาผ่าน ETF ที่ลงทุนในบริษัทจีน แต่ถือว่ายังน้อย เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2022 - ต้นปี 2023 ที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นการเปิดประเทศของจีน
ที่มา: Bloomberg
หลังจากนี้ยังคงต้องรอดูผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของ รัฐบาลจีน จะทำให้เห็นการเร่งตัวขึ้นของดัชนีเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ได้หรือไม่ ในขณะที่ท่าทีของรัฐบาลจีนยังคงเลือกใช้เม็ดเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่ เพื่อต้องการให้เกิดเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ยังคงเชื่อว่าหากเศรษฐกิจจีนยังชะลอลงไปอีก รัฐบาลจีนมีความพร้อม และศักยภาพเพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินในระดับที่มากขึ้นได้
ที่มา : Bloomberg, Financial Times, CNBC และ Reuters
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และเว็บไซต์ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds