ธุรกิจคิดเปลี่ยนโลก ด้วยแผนพลังงานสะอาด
ธุรกิจ ดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซ อย่าง Amazon ได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง The Climate Pledge ในปี 2562 โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 ซึ่งเร็วกว่าข้อตกลงปารีสถึง 10 ปี
ปัจจุบัน มีผู้ร่วมลงนามในความมุ่งมั่นนี้เกือบ 400 ราย ซึ่งรวมถึง Best Buy, IBM, Microsoft, PepsiCo, Siemens, Unilever, Verizon และ Visa
ทั้งนี้ Amazon ยังคงพัฒนาเครือข่ายการขนส่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขนส่งและการจัดหาทางเลือกทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งปัจจุบัน Amazon มียานพาหนะขนส่งไฟฟ้าหลายพันคันจาก Rivian หรือ รถยนต์จาก Rivian Automotive, Inc. ซึ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งเมื่อ 2009 ทั้งโรงงานผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งAmazon ก็ร่วมเป็นเจ้าของหนึ่งของ Rivian
นอกจากนี้ ในกว่า 100 เมืองและภูมิภาคในสหรัฐ Amazon ยังมีรถตู้ไฟฟ้ามากกว่า 3,000 คันที่จัดส่งพัสดุให้กับลูกค้าในยุโรป และพันธมิตรด้านรถยนต์ไฟฟ้าหลายแห่งในเอเชีย-แปซิฟิก และบริษัทยังลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาบริการ และโซลูชันการลดคาร์บอนผ่านกองทุน The Climate Pledge Fund ด้วย
ล่าสุด Amazon ประกาศว่าในปี 2565 บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 8.3 กิกะวัตต์ (GW) ผ่านโครงการใหม่ 133 โครงการใน 11 ประเทศ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดของ Amazon มีมากกว่า 20 กิกะวัตต์ ซึ่งสามารถสร้างพลังงานเพื่อจ่ายไฟให้กับบ้านเรือน 5.3 ล้านหลังในสหรัฐ หรือ 15.3 ล้านหลังในยุโรป
สำหรับการซื้อพลังงานหมุนเวียนของ Amazon ยังคงเพิ่มโครงการใหม่ๆ จากพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์บนกริดที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งรวมถึงศูนย์ข้อมูลของ Amazon Web Services (AWS) ศูนย์ปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ (fulfillment centers) ของ Amazon และร้านค้าที่ตั้งอยู่ทั่วโลกด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การซื้อพลังงานหมุนเวียนเหล่านี้ยังทำให้ Amazon ก้าวเข้าสู่การขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2568 มากยิ่งขึ้น ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมถึง 5 ปี ที่ตั้งไว้ว่าจะสำเร็จภายในปี 2573 นอกจากนั้น ในปี 2565 บริษัทได้ประกาศโครงการใหม่ในออสเตรเลีย แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น โปแลนด์ สิงคโปร์ สเปน และสหรัฐ และได้เริ่มดำเนินการในบราซิล อินเดีย และอินโดนีเซีย ด้วยโครงการพลังงานหมุนเวียน 25 โครงการใหม่ที่เปิดใช้งานในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีโครงการทั้งหมด 401 โครงการทั่วโลก รวมถึงฟาร์มกังหันลม และฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ 164 โครงการ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา 237 โครงการในโรงงานของ Amazon ซึ่งคาดว่าจะผลิตพลังงานสะอาดได้ 56,881 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) ในแต่ละปีเมื่อพร้อมใช้งานแล้ว
“ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดในปี 2565 Amazon เป็นผู้นําในการซื้อพลังงานสะอาด และเพิ่มความมุ่งมั่นในการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นสองเท่า” มิแรนดา บัลเลนติน ซีอีโอของ Clean Energy Buyers Association (CEBA) กล่าว “ความมุ่งมั่นของ Amazon ในการลดคาร์บอนแสดงให้เห็นผ่านความเป็นผู้นําใน Deal Tracker Top 10 ของ CEBA ในกลุ่มสมาชิกของเรา และในระดับโลก”
ในขณะที่เอเชียยังคงเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหิน และก๊าซ การลงทุนเหล่านี้โดย Amazon ในพลังงานลม และแสงอาทิตย์ แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการไฟฟ้าหมุนเวียนขององค์กรขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้
ดังนั้น การทำงานร่วมกับ Amazon และสมาชิก ACEC รายอื่นๆ จะเพิ่มปริมาณพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในภูมิภาคนี้
จากความพยายามมุ่งมั่นสู่การเปลี่ยนโลก ในบทบาทของภาคธุรกิจ อย่าง Amazon กำลังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้พลังงานสะอาดสามารถเป็นพลังงานหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์