“เทคโนโลยี R&D และความใส่ใจ” กุญแจไขความลับ“เกษตรยั่งยืน”

“เทคโนโลยี R&D และความใส่ใจ”    กุญแจไขความลับ“เกษตรยั่งยืน”

การต่อสู้ของภาคการเกษตรที่รุนแรงในปัจจุบัน คือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องคิดวิจัยและพัฒนา ไม่ใช่เพื่อเอาชนะ แต่เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน คือเป้าหมายใหญ่ ซึ่ง บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ให้ความสำคัญ

วีรพล เจริญพานิช ผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจครอปซายน์ ประเทศไทย กัมพูชา พม่า บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไบเออร์เห็นด้วยกับการปลูกข้าวโพดหลังนา ที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมอยู่ และควรเดินหน้าอย่างจริงจังทั้งเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และขยายพื้นที่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตทดแทนการนำเข้า ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวสาลี โดยปีที่ผ่านมามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ2-3 แสนไร่ คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 5 แสนไร่

 

วีรพล ไบเออร์ไทย

“เทคโนโลยี R&D และความใส่ใจ”    กุญแจไขความลับ“เกษตรยั่งยืน”

ดังนั้นแนวโน้มธุรกิจด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ยังสามารถขยายได้อีกมาก ซึ่งศักยภาพของเกษตรกรไทยมีความพร้อมที่จะพัฒนาเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตเมล็ดพันธุ์ในเอเชียแปซิฟิก (Seed Hub Center) แต่ต้องอยู่ภายใต้การส่งเสริมที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการใช้สารเคมี ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมกับช่วงเวลาและใช้อย่างถูกวิธี ซึ่งจะมีส่วนในการรักษาดิน ไม่มีการตกค้างและไม่สร้างภาวะโลกร้อน

“ ในอดีต ต้องยอมรับว่าเกษตรกรไทยมีการใช้สารเคมีจำนวนมาก เพราะความไม่เข้าใจ ทำให้ดินเสียมีต้นทุนเพิ่มขึ้นแบบเสียเปล่า ไบเออร์เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น จึงตั้งหน่วยบริการและเข้าไปอบรม ส่งเสริมเกษตรกรกระจายอยู่ทั่วประเทศเพื่อเป็นข้อมูลทั้งโรคระบาด การใช้สารเคมี สภาพอากาศ เมล็ดพันธุ์ สภาพดิน ความชื้นในดิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ปรับปรุงสายพันธุ์ได้อย่างตอบโจทย์ ในขณะที่ยังแนะนำเกษตรกรได้ พบว่าปัจจุบันเกษตรกรของไทยมีพัฒนา และมีศักยภาพมากที่สุดเพื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบเดียวกัน “

ทั้งนี้ศักยภาพของเกษตรกรในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยังพบว่ามีการพัฒนาเร็วขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันของภาวะโลกร้อน ที่ทำให้การเพาะปลูก ทำได้ยากขึ้น แรงงานภาคการเกษตรที่อายุมาก มีน้อย คนรุ่นใหม่ไม่สนใจ การค่าจ้างแรงงานปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจัยการผลิตมีราคาแพง

ทั้งหมดนี้เป็นแรงกดดันให้เกษตรกรต้องปรับตัว โดยจะเห็นได้ว่ามีการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะโดรน ฉีดพ่นสารเคมีทางการเกษตร เป็นทางเลือกที่ได้ผลอย่างแม่นยำ ใช้เวลาน้อย และดีต่อสุขภาพเกษตรกร ลดการสัมผัสโดยตรง ซึ่งมีเกษตรกรบางส่วนที่สนใจธุรกิจบริการโดรนฉีดพ่นมากขึ้น เนื่องจากได้ผลตอบแทนคืนทุนได้ภายใน 2 เดือนเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันค่าจ้างโดรนปรับตัวลดลงเดิม ไร่ละ 100-150 บาท เหลือเฉลี่ยเพียงไร่ละ 50 บาทเท่านั้น

ความนิยมใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรที่มากขึ้นนี้เอง ทำให้ไบเออร์ต้องพัฒนาสารอารักขาพืชที่เหมาะสมกับโดรน ด้วย ทั้งสูตรแห้งและสูตรน้ำ โดยสารบางตัวการผสมน้ำแล้วทำให้เกิดความหนืด การนำไปใช้กับโดรนจะทำให้สารเหนียวติดฝาและเครื่องอาจจะชำรุดได้

“ การใช้เทคโนโลยีทางการเกษตร และฐานข้อมูล มีความสำคัญที่จะจูงใจให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่ภาคการเกษตรมากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานรายได้ที่จูงใจด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดไม่แกว่งมาก ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของเกษตรกรที่ผลิตสินค้าได้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และคาดว่าสถานการณ์ผลผลิตล้นตลาดจะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป  “

ทั้งนี้ ไบเออร์ ไทย มีห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย ตั้งอยู่ที่ จังหวัดพิษณุโลก ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร สามารถออกใบรับรองสุขอนามัยพืชและใบรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งต่อ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “ทุกคนมีสุขภาพดี และไม่ขาดแคลนอาหาร” (Health for all, Hunger for none) ที่ไบเออร์ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต โดยทำงานร่วมกับเกษตรกรเครือข่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งเมล็ดพันธุ์ผักที่มีคุณภาพ โดยไบเออร์มีศูนย์การผลิตเมล็ดพันธุ์ผักตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นและสกลนคร

ไบเออร์ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในภาคเอกชน ให้การสนับสนุนกรมวิชาการเกษตรในการผลักดันนโยบายและการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทยให้เป็น World Leader of Tropical Seed ด้วย