ไทยยูเนี่ยน ทุ่ม 7.2 พันล้าน ดันแผนยั่งยืน ดึงความเชื่อมั่นผู้นำอาหารทะเล

ไทยยูเนี่ยน ทุ่ม 7.2 พันล้าน ดันแผนยั่งยืน  ดึงความเชื่อมั่นผู้นำอาหารทะเล

ไทยยูเนี่ยน วางกลยุทธ์ความยั่งยืน 2030 ทุ่ม 7.2 พันล้านบาท เดินหน้า 11 พันธกิจ ทะลุเป้าปี 73 สู่ผู้นำธุรกิจอาหารทะเลที่ทั่วโลกเชื่อถือมากที่สุด

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ไทยยูเนี่ยน  ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2565 พร้อมรายละเอียดความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในระหว่างปี และวางกรอบการทำงานโดยละเอียดของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ที่ตั้งเป้าหมายไปจนถึงปี 2573 ด้วยการตั้งงบประมาณสำหรับการดำเนินงานถึง 7,200 ล้านบาท หรือ 200 ล้านดอลลาร์ โดยตั้งเป้าหมายที่ท้าทายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับห่วงโซ่มูลค่าธุรกิจอาหารทะเลทั้งโลก 

 

ไทยยูเนี่ยน ทุ่ม 7.2 พันล้าน ดันแผนยั่งยืน  ดึงความเชื่อมั่นผู้นำอาหารทะเล

รายงานความยั่งยืนฉบับนี้มีการรายงานข้อมูลเชิงลึกของไทยยูเนี่ยนในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลกในปี 2565 เป็นการทำงานในฐานะหนึ่งในบริษัทอาหารทะเลชั้นนำ และผู้ผลิตปลากระป๋องปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดของโลก

“ที่ไทยยูเนี่ยน เราตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลที่ผู้คนทั่วโลกเชื่อถือมากที่สุด และเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เราต้องเดินหน้าไปสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรม และรายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่าไทยยูเนี่ยนมีการพัฒนา และดำเนินโครงการ และกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารทะเลไปในทางที่ดีขึ้น เราตระหนักดีว่ายังมีเรื่องให้ฟันฝ่าอีกมาก แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อในเรื่องความยั่งยืน ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อเดือนที่แล้วเราได้ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® อีกครั้งโดยเป้าหมายใหม่ถึงปี 2573”

 

สำหรับผลงานด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นในช่วงปี 2565 ของไทยยูเนี่ยน  เช่น 

 

· เริ่มใช้หลักการ Employer Pays Principle ซึ่งนายจ้างจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสรรหาทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าแรงงานจะไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ทำงาน

· มีการส่งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ทั้งระยะสั้น และระยะยาวให้องค์กร Science Based Targets Initiative เพื่อตรวจสอบและอนุมัติ

· ร่วมมือกับองค์กร Sustainable Fisheries Partnership เพื่อพัฒนาด้านความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของไทยยูเนี่ยน

· จัดทำการตรวจประเมินสภาพการทำงาน และสวัสดิภาพของแรงงานบนเรือเบ็ดราว

· เผยแพร่รายงาน Task Force on Climate-related Financial Disclosures (TCFD) หรือ คณะทำงานเพื่อพัฒนากรอบการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ของบริษัทเป็นครั้งแรก

· ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลง 7% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564

· เพิ่มการรับซื้อปลาทูน่าจากเรือประมงที่มีอุปกรณ์ตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์ และมีผู้สังเกตการณ์ จาก 71 เปอร์เซ็นต์ในปี 2564 เป็น 79 เปอร์เซ็นต์

ไทยยูเนี่ยน ทุ่ม 7.2 พันล้าน ดันแผนยั่งยืน  ดึงความเชื่อมั่นผู้นำอาหารทะเล

นายอดัม เบรนนัน ผู้อำนวยการกลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราภูมิใจกับความคืบหน้าในการทำงานด้านความยั่งยืนในปีที่ผ่านมา และรายงานความยั่งยืนฉบับนี้ยังระบุในรายละเอียดของการทำงานในแต่ละด้านว่าได้ผลตามตัวบ่งชี้ และเป้าหมายอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ บริษัท ยังพร้อมเดินหน้ากับกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 และ 11 พันธกิจที่เป้าหมายต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับผู้คน และโลกของเราได้”

 

โดยผลงานด้านความยั่งยืนในปีที่ผ่านมา ของไทยยูเนี่ยน ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตั้งแต่ได้รับการจัดอันดับโดย ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน และได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร และได้คะแนนสูงสุด และได้รับคัดเลือกจาก S&P Global ให้อยู่ใน The Sustainability Yearbook 2023 ซึ่งมีแค่ 1% จากกว่า 7,800 องค์กรเท่านั้น นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์