‘Fast Fashion’ ก็รักษ์โลกได้ H&M X HKRITA รีไซเคิลเศษหนังลด ‘ขยะแฟชั่น’
ปัญหาขยะจาก “Fast Fashion” ยังส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง แต่ล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่ “reProLeather” ที่สามารถรีไซเคิลเศษหนังให้กลับมาใช้ใหม่และย่อยสลายได้ รันวงการ Fast Fashion ให้รักษ์โลก
Key Points:
- ขยะจาก “Fast Fashion” ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีขยะเพิ่มมากขึ้นตามมา
- ล่าสุด “H&M” หนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์จากฮ่องกง พัฒนาเทคโนโลยี “reProLeather” เพื่อรีไซเคิลเศษหนังที่มาจากอุตสาหกรรมแฟชั่น
- การ “รีไซเคิลเศษหนัง” สามารถลดผลกระทบจากกระบวนการฟอกหนังโดยเฉพาะปัญหาน้ำเสีย โดยแผ่นหนังชิ้นใหม่ที่ได้จากการรีไซเคิลจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและย่อยสลายได้
ปัญหาเรื้อรังที่เกิดจากอุตสาหกรรม “Fast Fashion” ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ “สิ่งแวดล้อม” เนื่องจากปัจจุบันกระแสแฟชั่นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับหลายประเทศ แต่ก็ตามมาด้วยปัญหา “ขยะ” ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อเสื้อผ้าตกรุ่นก็จะถูกกำจัดทิ้งหรือขายต่อทันที
ไม่ใช่แค่ “เสื้อผ้า” หรือ “พลาสติก” เท่านั้นที่ทำให้ขยะ Fast Fashion มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การผลิต “เครื่องหนัง” เพื่อนำมาใช้ใน “อุตสาหกรรมสิ่งทอ” ก็ส่งผลเสียไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะทำให้เกิดน้ำเสียและสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตราย
ดังนั้นหากเราสามารถนำ “เครื่องหนัง” ที่ตกรุ่นไปแล้วมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ก็จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ โดยเฉพาะขยะที่เกิดขึ้นจาก Fast Fashion ซึ่งล่าสุดแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง H&M ได้ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์จาก Hong Kong Institute of Textiles and Apparel (HKRITA) พัฒนาเทคโนโลยี “reProLeather” ขึ้นมาเพื่อ “รีไซเคิลเศษหนัง”
- “Fast Fashion” กับปัญหาขยะล้นโลก
Fast Fashion กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากดีไซน์ทันสมัย ตามกระแสแฟชั่น ราคาถูก เข้าถึงง่าย ทำให้ถูกใจเหล่าแฟชั่นนิสต้าได้ไม่ยาก แต่ด้วยกระแสแฟชั่นที่มาไวไปไว ผู้บริโภคจึงซื้อของใหม่บ่อยๆ ของเก่าทิ้งไปหรือขายต่อเป็นสินค้ามือสอง ซึ่งก็จะกลายเป็นขยะในที่สุด
ข้อมูลจาก The Guardian ระบุว่า ประมาณร้อยละ 40 ของเสื้อผ้าจากตลาดมือสองในประเทศกานากลายเป็น “ขยะ” แม้ว่าบางส่วนถูกรวบรวมโดยบริการจัดเก็บขยะ แต่ก็ยังมีบางส่วนถูกนำไปเผาทิ้ง หรือกลบฝังแบบผิดวิธี โดยกานากลายเป็นประเทศปลายทางของขยะจาก “Fast Fashion” ทำให้ล่าสุดกานาต้องเผชิญกับวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก
อ่านข่าว :
ขยะ ‘Fast Fashion’ ถล่มโลก สร้างมลพิษในแหล่งน้ำธรรมชาติ ‘กานา’ โดนหนักสุด
โดยเฉพาะแหล่งน้ำธรรมชาติที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยมลพิษ ทำให้ประชาชนเข้าถึงน้ำสะอาดได้น้อยลง ดังนั้นการลดปัญหาขยะจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยเฉพาะเสื้อผ้า Fast Fashion จึงเป็นหนึ่งในทางออกของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในเบื้องต้น
- “reProLeather” เทคโนโลยีรีไซเคิลเศษหนัง หวังลดขยะ Fast Fashion
แต่ในอนาคตขยะจาก Fast Fashion เหล่านั้นอาจลดลงไปได้บางส่วน เพราะล่าสุด “H&M” แบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของขยะอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มาจากเสื้อผ้าที่ตกรุ่น
ล่าสุด “H&M” ร่วมมือกับ นักวิทยาศาสตร์จาก Hong Kong Institute of Textiles and Apparel (HKRITA) ในโครงการ “Planet First” เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า “reProLeather” ซึ่งเป็นการรีไซเคิลเศษหนังเก่าให้กลับมาดูเหมือนใหม่ เพื่อนำกลับมาใช้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นได้อย่างคุ้มค่า ที่สำคัญสามารถย่อยสลายได้ เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
เนื่องจากการผลิตเครื่องหนังทำให้เกิดน้ำเสียและสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตราย เช่น โครเมียม เป็นต้น ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการฟอกหนังดิบ
สำหรับวิธีการ “รีไซเคิลเศษหนัง” เริ่มจากนำหนังที่ใช้แล้วหรือเศษหนังเก่า มาฉีกให้กลายเป็นชิ้นเล็กๆ จนได้เส้นใยหนังที่มีความบริสุทธิ์สูง
หลังจากนั้นจึงกำจัดโครเมียมออกจากเส้นใยหนัง ซึ่งเส้นใยหนังที่แยกออกมาจะทำปฏิกิริยากับสารยึดเกาะทางชีวภาพ เช่น น้ำตาลหรือโปรตีน ก่อนที่เส้นใยเหล่านั้นจะเชื่อมต่อกันและก่อตัวเป็นหนังใหม่ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำและย่อยสลายได้
แม้ว่า “reProLeather” จะเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการพัฒนา แต่หากประสบความสำเร็จก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของอุตสาหกรรม “Fast Fashion” โดยเฉพาะการลดปัญหาขยะที่เกิดจากการกำจัดเสื้อผ้าเก่าๆ ที่กำลังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ในปัจจุบัน
อ้างอิงข้อมูล : HKRITA, H&M Foundation, The Guardian และ New Atlas