“บิล เกตส์” บอกอย่าวิตกเกินกับภาวะโลกร้อน
“บิล เกตส์” เพิ่งออกมาบอกชาวโลกว่าอย่าวิตกเกินไปนัก กับเรื่องเกี่ยวเนื่องกับความร้ายแรงของความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ก่อนการประชุมใหญ่เกี่ยวกับด้านนี้ขององค์การสหประชาชาติ ครั้งที่ 28 ณ เมืองดูไบ ในช่วงปลายเดือนนี้ต่อกับต้นเดือนหน้า
เป็นที่ทราบกันดีว่า เขาเป็นมหาเศรษฐีที่มิได้พูดอย่างเดียว หากลงมือทำอย่างจริงจัง รวมทั้งการสนับสนุนงานและกิจการด้านต่างๆ ของชาวโลก ด้วยเงินทุนนับหมื่นล้านดอลลาร์มาเป็นเวลานาน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บิล เกตส์ เขียนบันทึกลงในเว็บไซต์ (blog) ที่ใช้สื่อสารกับผู้สนใจในแนวคิดและกิจกรรมของเขาว่า จริงอยู่ปรากฏการณ์ด้านต่างๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ จำพวกไฟป่าและน้ำท่วมใหญ่ ทำให้เกิดข่าวพาดหัวรายวัน และจะเป็นข่าวใหญ่ต่อไป
แต่ความก้าวหน้าด้านต่างๆ ทำให้มีความหวังมากขึ้นว่ามนุษย์เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายของการป้องกันมิให้โลกร้อนจนเราอยู่ไม่ได้ และความก้าวหน้าครอบคลุมมากกว่าด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีราคาถูกลงอย่างต่อเนื่อง ความก้าวหน้าเหล่านั้นรวมกันเป็นนวัตกรรมโดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี.
บิล เกตส์ ตระหนักดีว่าจะถูกโจมตีเมื่อพูดถึงการเน้นเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา เขาจึงอ้างว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมก็มีความสำคัญก่อนการพูดถึง 2 ด้านที่เขากำลังสนับสนุนอยู่
กล่าวคือ ด้านการมองหาเทคโนโลยีใหม่เพื่อใช้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนหมด ซึ่งเขาทำผ่านบริษัทพัฒนาพลังงาน และด้านการใช้ทรัพยากร รวมทั้งเงินทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทำผ่านมูลนิธิการกุศลในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ซึ่งบริษัทพัฒนาพลังงานของเขาเข้าร่วมโดยการสนับสนุนเงินทุนเป็นส่วนใหญ่ให้แก่บริษัทต่างๆ
บิล เกตส์ นำตัวอย่างนวัตกรรม 5 ด้านมาเสนอ คือ ด้านการผลิตสินค้า ซึ่งมีนวัตกรรมในด้านการผลิตเหล็กกล้า โดยการใช้ไฟฟ้าที่ได้มาจากการผลิตโดยปราศจากก๊าซเรือนกระจกแทนถ่านหิน และการผลิตปูนซีเมนต์แบบปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ หรือแบบดึงคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากอากาศ
ด้านการผลิตไฟฟ้า โดยการใช้ปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ ซึ่งเสี่ยงต่ออันตรายต่ำมากและมีกากน้อย นอกจากนั้น การพัฒนายังมีการผลิตไฟฟ้าจากการรวมอะตอม หรือ fusion ซึ่งตรงข้ามกับการแตกอะตอมเอาพลังงานนิวเคลียร์
ด้านเกษตรกรรม โดยการผลิตอาหารด้วยการลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่ใช้กันอยู่ทั่วไป และผลิตอาหารชนิดใหม่ขึ้นมาเป็นทางเลือกแทนชนิดเก่าที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสูง
ด้านการขนส่ง โดยการผลิตแบตเตอรี่ที่มีศักยภาพสูงขึ้นสำหรับใช้ในรถยนต์ ในรถโดยสารขนาดใหญ่และแม้แต่ในเรือ นอกจากนั้น ยังมีวิธีการลดก๊าซเรือนกระจกจากการใช้เครื่องบินอีกด้วย
ด้านการก่อสร้าง โดยการใช้กระจกหน้าต่างชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและสารชนิดใหม่ในการปิดรูรั่วทั่วไปในอาคารในด้านการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บิล เกตส์ไม่ได้พูดถึงความเกี่ยวเนื่องกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศโดยตรง หากพูดถึงการพัฒนามนุษย์ในภาวะที่โลกร้อนขึ้น
เรื่องนี้เป็นการต่อยอดงานที่มูลนิธิการกุศลของเขาทำมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2543 โดยแยกออกเป็นการสนับสนุนการผลิตอาหารในประเทศยากจนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปอีก และการลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ
ซึ่งเขามองว่าเป็นความเหลื่อมล้ำที่โหดร้ายที่สุดพร้อมๆ กับการกำจัดความยากจนขั้นสูงสุด
บิล เกตส์ เป็นมหาเศรษฐีที่ทุ่มเททั้งพลังกาย พลังปัญญา และพลังทรัพย์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาของโลก สิ่งที่เขาทำมีความสำคัญยิ่งและน่าชื่นชม อย่างไรก็ดี การมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่น่าเพียงพอ
จริงอยู่เขาอ้างถึงความสำคัญของการเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์เรา แต่เขาไม่พูดถึงว่าจะเปลี่ยนอย่างไรบ้าง ถ้าเขาทุ่มเทค้นหาคำตอบในด้านนี้ในแนวเดียวกับที่ทุ่มเทให้ด้านเทคโนโลยี โลกจะมีคำตอบที่กระจ่างมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งอาจจะเป็น “เศรษฐกิจพอเพียง” ก็ได้
นอกจากนั้น ยังมีอีกด้านหนึ่งซึ่งเขาไม่พิจารณา นั่นคือมนุษย์เรามักไม่รู้ว่าเทคโนโลยีที่ประดิษฐ์ขึ้นมานั้น จะมีผลร้ายอย่างไรบ้างหรือไม่ เมื่อนำไปใช้ตามจุดมุ่งหมายของเรา ผลร้ายอาจไม่ปรากฏทันที เมื่อมันปรากฏเป็นที่ประจักษ์ เราต้องค้นหาวิธีแก้ซึ่งเป็นกระบวนการลูกโซ่ที่อาจไม่มีวันสิ้นสุด.