‘เศรษฐา’ เร่งมาตรการ ‘Direct PPA’ ‘เอกชน’ ซื้อไฟโดยตรง หนุน ‘พลังงานสะอาด’
‘เศรษฐา’ สั่งพลังงาน เร่งมาตรการ ‘Direct PPA’ ’ ซื้อไฟพลังงานสะอาดโดยตรงเพื่อการลงทุน ’หลังสหรัฐฯถามความคืบหน้า ชี้ช่วยหนุนพลังงานสะอาด และการลงทุนใหม่ๆในประเทศไทย
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ว่าตามที่รัฐมนตรีการค้า สหรัฐอเมริการ (Ms. Gina M Raimondo) นำคณะนักธุรกิจที่ปรึกษาการส่งออกของประธานาธิบดี มาเยี่ยม หารือรัฐบาลเพื่อความร่วมมือโดยเฉพาะการลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของประเทศไทย
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ได้มีการหารือกันนั้นคือต้องากรความชัดเจนของด้านพลังงานทดแทน อันได้แก่เรื่องของ “direct PPA” ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่เรารับปากว่าจะมีมาตรการชัดเจนก่อนสิ้นปี
ดังนั้น จึงขอสั่งการให้ก.พลังงาน เร่งจัดทำมาตรการเพื่ออนุญาตและส่งเสริมให้เอกชนสามารถทำสัญญาซื้อขายไฟกันโดยตรงกับผู้ผลิตพลังงานสะอาด/พลังงานทดแทน (direct PPA) และเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ในการประชุม กพช.ในเดือน มี.ค.ปี 2566 กพช. เห็นชอบให้รับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นดังกล่าว เพื่อนำมาเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่เพิ่งเปิดรับซื้ออยู่ 5,203 เมกะวัตต์ ในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565
ทั้งนี้ การเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น 3,668.5 เมกะวัตต์ นั้น จะมาจากโซลาร์ฟาร์ม 2,632 เมกะวัตต์ จากรอบแรกที่รับซื้อ 2,368 เมกะวัตต์, พลังงานลม 1,000 เมกะวัตต์ จากรอบแรกรับซื้อ 1,500 เมกะวัตต์, ก๊าซชีวภาพ 6.5 เมกะวัตต์ รอบแรกไม่มีผู้ผ่านคุณสมบัติ และขยะอุตสาหกรรม 100 เมกะวัตต์ จากรอบแรกเปิดรับ 200 เมกะวัตต์ แต่มียอดรับซื้อที่ 100 เมกะวัตต์ จึงจะเพิ่มอีก 30 เมกะวัตต์ รวมเป็น 130 เมกะวัตต์