'OR' ลุยสร้างนิเวศ 'EV' ทุ่ม 8 พันล้าน ดันฟาสต์ชาร์จ หนุนลดคาร์บอนภาคขนส่ง
“ปตท.” ลุยลงทุนหนุนลดคาร์บอนชูเทคโนโลยี CSS เลิกธุรกิจถ่านหิน โออาร์ดันธุรกิจอีวีลงทุนรวมกว่า 8 พันล้านบาท ให้ครบ 7 พันหัวจ่าย ดัน CAFÉ Amazon Park 600 ไร่ที่ลำปางศูนย์วิจัยกาแฟใหญ่สุดในประเทศ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ “โออาร์” เปิดเผยภายในงานเปิดตัวสำนักข่าว Climate Center ของฐานเศรษฐกิจในหัวข้อเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Energy Transition) ว่าตามนโยบายการเป็นกลางทางคาร์บอนของไทยที่จะบรรลุเป้าหมายในปี 2050 ทำให้ภาคเอกชนในประเทศต้องปรับตัวเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว รวมถึงในเวทีระดับโลกได้มีการพูด และกำหนดเป้าหมายร่วมกันในเวที COP 28 ว่าจะต้องมีการเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด 3 เท่าภายในปี 2030
ในภาพรวมของกลุ่ม ปตท.มีการลงทุนเพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากการลดการทำธุรกิจที่มีการปล่อยคาร์บอน เช่น การทยอยขายธุรกิจถ่านหินออกไปจากพอร์ตธุรกิจจนเกือบหมดแล้ว ขณะเดียวกันมีการเร่งลงทุนธุรกิจที่ช่วยลดคาร์บอนคือ การลงทุนเทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน (CCS) ซึ่งจะช่วยกักเก็บคาร์บอนที่ปล่อยออกมาลงไปสู่ใต้ดิน
ขณะที่ในส่วนของการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งโออาร์จะเข้าไปมีส่วนในการช่วยลดคาร์บอนในส่วนนี้ควบคู่กับนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งจากแผนของภาครัฐที่กำหนดให้มีหัวชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถอีวีประมาณ 12,000 หัวจ่ายทั่วประเทศ
ปัจจุบันโออาร์มีการติดตั้งสถานีชาร์จแบตควิกชาร์จครบแล้ว 77 จังหวัด กว่า 1,700 จุดชาร์จ จำนวนประมาณ 7,000 หัวจ่ายที่เป็นควิกชาร์จ โดยเป็นการลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท และมีสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์กว่า 1,450 สถานี ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศควบคู่กับการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนให้กับประเทศด้วย
“ตอนนี้โออาร์ไม่ได้พูดถึงการลงทุนในธุรกิจน้ำมันมากเท่าไรแล้ว แต่เราพูดถึงการทำสถานีบริการน้ำมันของเราให้เป็น OR space community ร่วมกับการทำ OR mobility solution ถามว่าตอนนี้ธุรกิจอีวีเป็นธุรกิจที่เราลงทุนมาก ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามความเปลี่ยนแปลงว่าจะมีเชื้อเพลิงใหม่ๆ เข้ามาหรือไม่ เช่น ไฮโดรเจน รวมทั้งการเริ่มทำเรื่องของน้ำมัน อากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF ที่เริ่มมีข้อบังคับให้มีการใช้เครื่องบินมากขึ้นเรื่อยๆ” นายดิษทัต กล่าว
นอกจากนั้นโออาร์ยังให้ความสำคัญกับการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟรวมทั้งจะมีการลงทุนในโครงการ CAFÉ Amazon Park ซึ่งจะเป็นศูนย์วิจัยกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่ 600 ไร่ ที่ จ.ลำปาง โดยเป็นพื้นที่สีเขียวเพิ่ม 300 ไร่
ซึ่งกาแฟนั้นถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีราคาดี และช่วยดูแลธรรมชาติ และรักษาป่าต้นน้ำ ซึ่ง CAFÉ Amazon Park จะเป็นพื้นที่สีเขียว 100% โดยที่ผ่านมา ในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรที่ปลูกกาแฟโดยมีการส่งเสริมกิจกรรม Sustainable Plantation :Fair Trade Coffee Beans. มีพื้นที่ดำเนินการ 10 จังหวัด ครอบคลุม 23 พื้นที่ปลูกกาแฟ สนับสนุนการรับซื้อกาแฟสารให้เกษตร 6,109 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,100 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
