‘เบลเยียม’ แจกต้นไม้ให้ประชาชนปลูก เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง
เบลเยียมผุดไอเดีย เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ด้วยการแจกต้นไม้ให้ประชาชนนำไปปลูก พร้อมเสนอจัดทำสวนหน้าบ้านให้ฟรี แถมเงินสำหรับซื้อถังเก็บน้ำไว้รดน้ำต้นไม้อีกด้วย
เมืองแอนต์เวิร์ป ในเบลเยียม ริเริ่มแคมเปญ “Neighbourhood in Bloom” (Buurt in Bloei) ซึ่งจะแจกต้นไม้ 2,000 ต้น ให้แก่ชาวเมืองที่มีพื้นที่ว่างสำหรับปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง และเป็นความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญ เช่น คลื่นความร้อน น้ำท่วม และมลพิษทางอากาศ
ต้นไม้ที่นำมาแจกนี้มีด้วยกันหมด 23 สายพันธุ์ ซึ่งถูกคัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเมือง และช่วยบรรเทาผลกระทบจาก “เกาะความร้อนในเมือง” ปรากฏการณ์พื้นที่ในเมืองต่าง ๆ จะเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมในชนบท
ประชาชนที่สนใจจะรับต้นไม้ไปปลูก จะต้องกรอกแบบสอบถามสั้น ๆ เกี่ยวกับพื้นที่จะนำต้นไม้ปลูกและปริมาณแสงแดด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละสถานที่ และมั่นใจได้ว่าต้นไม้เหล่านี้จะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนที่สุด โดยสามารถรับต้นไม้ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2567
แอนต์เวิร์ปมีเป้าหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและน่าอยู่มากขึ้นสำหรับชาวเมือง นอกจากจะแจกต้นไม้แล้ว สภาเมืองยังเสนอจะสร้างสวนหน้าอาคารให้แก่ชาวเมืองที่สนใจอยากมีสวนไว้หน้าบ้านของตัวเอง ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านใจกลางเมืองสามารถขอไม้ดอก พุ่มไม้ ไม้เถา และต้นไม้นานาชนิดจากสภาเมืองได้ฟรี
สภาจะช่วยจัดสวนให้ ตั้งแต่การปูกระเบื้องทางเท้า การลงดิน และการปลูกต้นไม้ รวมถึงมีเงินให้เจ้าของสวนซื้อถังเก็บน้ำฝน เพื่อไว้ใช้สำหรับรดน้ำต้นไม้ในสวนอีกด้วย นับเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนชาวเมืองต้องช่วยกันบำรุงรักษาสวนให้สวยดังเดิม
หากชาวเมืองต้องการคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการปลูกและดูแลต้นไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เทศบาลกำหนด สามารถเข้าไปอ่านได้ในเว็บไซต์ของเมืองจะมีข้อมูลระบุไว้ละเอียด เช่น ต้นไม้ที่สูงเกิน 2 เมตร ควรอยู่ห่างจากเขตที่ดิน 2 เมตร เว้นแต่เจ้าของจะตกลงเป็นอย่างอื่นกับเพื่อนบ้าน
หากเจ้าของต้องการโค่นต้นไม้ด้วยเหตุผลบางประการ จะต้องยื่นขอใบอนุญาตพิเศษจากเทศบาล และจะได้รับอนุญาตเฉพาะในกรณีที่ต้นไม้ตรงตามเงื่อนไขเท่านั้น และต้นไม้ที่ถูกโค่นจะถูกนำไปผลิตเป็นสนามเด็กเล่นตามธรรมชาติต่อไป
โครงการจัดสวนนี้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2565 โดยในเวลานั้นทางสภาเมืองได้ประดับตกแต่งรถรางสาย 1 ให้ทุกพื้นที่ในรถเต็มไปด้วยต้นไม้ มีต้นไม้ห้อยลงมาจากเพดาน และผนังระหว่างหน้าต่าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวเมืองลองทำสวนและมีส่วนร่วมในการทำให้สภาพแวดล้อมเป็นสีเขียว ซึ่งจะทำให้มีสุขภาพดีขึ้น
ด้วยความเชื่อที่ว่าถ้าหากรถรางยังสามารถกลายเป็นสวนเคลื่อนที่ได้ แล้วทำไมพื้นที่อื่น ๆ ในเมืองถึงจะเป็นสวนไม่ได้ ? ชาวเมืองแอนต์เวิร์ปมีแรงบันดาลใจจนสร้างสวนแนวตั้งหน้าอาคารมากกว่า 200 แห่ง พื้นที่ปลูกต้นไม้ 170 แห่ง และซุ้มดอกไม้ 100 แห่งทั่วเมือง
แคมเปญ “Neighbourhood in Bloom” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเมืองในการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถของพลเมืองด้านการเป็นผู้นำและผู้ดูแลสภาพแวดล้อมในเมือง
โครงการนี้ยังช่วยปรับปรุงสุขภาพและความปลอดภัยของทุกชีวิตในเมืองหลวงอีกด้วย ต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการระบายความร้อนในเมือง ปรับปรุงคุณภาพอากาศ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่จำเป็นสำหรับสัตว์ป่าในท้องถิ่น
การศึกษาพบว่า การใช้เวลาในพื้นที่สีเขียวสามารถปรับปรุงสุขภาพจิตและยกระดับอารมณ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าดูนกทำรัง ส่องกระรอก หรือแค่ดูแลต้นไม้ การมีส่วนร่วมกับธรรมชาติในสภาพแวดล้อมในเมืองสามารถช่วยให้หลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองได้
แอนต์เวิร์ปกำลังก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น เมืองนี้สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับเมืองต่าง ๆ ในยุโรปหรือทั่วโลก เมื่อผสมผสานการมีส่วนร่วมของชุมชนและการดูแลสิ่งแวดล้อม แอนต์เวิร์ปกำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างสุขภาพดีให้แก่ประชาชน สามารถเกิดขึ้นได้จริง และไม่ได้ยากจนเกินไป
ที่มา: Euro News, The Mayor 1, The Mayor 2, Thred