โบราณสถานใน ‘กรีซ’ กำลังจะจม โลกร้อนหนุนระดับน้ำทะเลขึ้นสูง

โบราณสถานใน ‘กรีซ’ กำลังจะจม โลกร้อนหนุนระดับน้ำทะเลขึ้นสูง

แหล่งมรดกโลกอารยธรรมกรีกโบราณ อายุหลายพันปี บนเกาะดีลอส ในกรีซ กำลังจะจมน้ำ ภายในอีกไม่กี่ทศวรรษ และยังคงไร้ทางแก้

KEY

POINTS

  • ดีลอส” (Delos) เกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งของกรีซที่มีโบราณสถานจากอารยธรรมกรีกอายุมากกว่า 2,000 ปี กำลังจะจมในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในบางส่วนของเกาะมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 20 เมตร และน้ำจะกัดกินฐานกำแพง จนทำให้กำแพงก็จะพังทลายลง  
  • ขณะเดียวกันในตอนนี้กรีซกำลังเผชิญหน้ากับ “คลื่นความร้อน” ทำให้อากาศทะลุ 43 องศาเซลเซียส รัฐบาลต้องประกาศปิด “อัครปุระเอเธนส์” (The Athens Acropolis) ตั้งแต่ช่วง 12.00 - 17.00 น. 

ดีลอส” (Delos) เกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งของกรีซ เป็นสถานที่สำคัญด้านตำนาน ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ของประเทศกรีซ มีแหล่งโบราณสถานตั้งแต่สมัยอารยธรรมกรีกตั้งเรียงรายอยู่ทั่วเกาะ จนได้รับการคัดเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก แต่ในวันนี้เกาะทั้งเกาะกำลังจมลงช้าๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การค้นพบทางโบราณคดีบนเกาะดีลอส นับเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อาคารอายุกว่า 2,000 ปีตั้งเรียงรายอยู่ทั่วเกาะ แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีก ตัดกับภาพผืนน้ำทะเลที่กำลังค่อยๆ คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวอาคารขึ้นเรื่อยๆ ภายในอีกไม่กี่สิบปี อาคารเหล่านี้จะหายไปตลอดกาล เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อันเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

“ภายใน 5 ปีดีลอสอาจจะหายไปจากแผ่นที่โลก” เวโรนีก ชานโคว์สกี้ ครูใหญ่โรงเรียนโบราณคดีแห่งเอเธนส์ (EFA) ของฝรั่งเศส ผู้ทำหน้าที่ขุดค้นแหล่งโบราณสถานในเกาะตลอดช่วง 150 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ใบอนุญาตจากรัฐบาลกรีซ กล่าว

น้ำทะเลกัดกร่อนโบราณสถาน

ความเสียหายทางโครงสร้างจากน้ำทะเลกัดเซาะเริ่มแสดงให้เห็นแล้ว ในหมู่อาคารที่เชื่อว่าเป็นสถานที่ขายสินค้า และคลังสินค้าในช่วง 100-200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้

ฌอง-ชาร์ลส์ มอเร็ตติ นักวิจัยจากสถาบันรัฐฝรั่งเศส เพื่อการวิจัยสถาปัตยกรรมโบราณ (IRAA) ผู้ร่วมขุดโบราณสถานบนเกาะมากว่า 40 ปี กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาว น้ำจะเข้าท่วมโซนอาคารร้านค้า น้ำเหล่านี้จะกัดกินฐานกำแพง พอเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ กำแพงก็จะพังทลายลง

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในบางส่วนของเกาะมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 20 เมตร

การศึกษาในปี 2023 จากมหาวิทยาลัยอริสโตเติล ในกรีซ พบว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นรวมกับความชื้นในระดับสูง อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์ประกอบทางเคมีของวัสดุบางชนิดที่ใช้ในสิ่งก่อสร้างบนเกาะ ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานมรดกทางวัฒนธรรมของโลก

“เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ สิ่งก่อสร้างเหล่านี้สามารถทนต่ออุณหภูมิที่เฉพาะเจาะจง” เอฟสตาเธีย ทรินกา นักวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยาและภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยอริสโตเติล กล่าวกับ Kathimerini Daily เมื่อต้นปีนี้

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวมักชอบเข้าไปในเขตห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าเดิม และมีนักโบราณคดีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมาอยู่ดูแลโบราณสถานในช่วงหน้าร้อนที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่าเกาะดีลอส เป็นบ้านเกิดของอะพอลโล เทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ศิลปะ และการรักษาโรค และอาร์ทิมิส น้องสาวของอะพอลโล ผู้เป็นเทพีแห่งการล่า ซึ่งทั้งสองพี่น้องเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโอลิมปัส ได้รับการเคารพนับถือจากทั้งชาวกรีก และชาวโรมัน

ในช่วงที่เทพอะพอลโล และอาร์ทิมิสได้รับการบูชามากที่สุด ผู้แสวงบุญ และพ่อค้าจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมายังเกาะดีลอส จนกลายเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านมากกว่า 30,000 คน แต่ด้วยความนิยมของเกาะนี้ก็กลายเป็นหายนะ ดีลอสถูกปล้น 2 ครั้ง ในช่วงร้อยปีก่อนคริสต์ศักราช หลังจากนั้นไม่นานเกาะนี้ก็ถูกทิ้งร้างโดยสิ้นเชิง

การกัดเซาะของน้ำทะเล ทำให้นักโบราณคดีต้องใช้คานไม้เพื่อยึดผนังอาคารอายุหลายพันปีบางส่วน แต่ด้วยความซับซ้อน และโครงสร้างของอาคารที่ค่อนข้างเปราะบาง การจะบูรณะจึงจำเป็นผ่านความเห็นชอบจากหลายฝ่าย

อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ เมืองชายฝั่งทั้งหมดในกรีซจะจมลงในทะเล จากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 

 

“กรีซ” เจอคลื่นความร้อน

ขณะเดียวกันในตอนนี้กรีซกำลังเผชิญหน้ากับ “คลื่นความร้อน” ทำให้อากาศทะลุ 43 องศาเซลเซียส รัฐบาลต้องประกาศปิด “อัครปุระเอเธนส์” หรือที่คุ้นในชื่อ “อะโครโพลิส” (The Athens Acropolis) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดของกรีซ ตั้งแต่ช่วง 12.00 - 17.00 น. ซึ่งมาตรการนี้อาจจะขยายต่อไปอีก หากอุณหภูมิยังคงสูง

อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 รัฐบาลเคยสั่งปิด อะโครโพลิส เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากที่กรีซเผชิญกับคลื่นความร้อนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

เจ้าหน้าที่ใช้โดรนที่มีกล้องตรวจจับความร้อนบินรอบกรุงเอเธนส์เพื่อตรวจจับอากาศ และให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข ก่อนหน้านี้เกิดเพลิงไหม้โรงงานเครื่องครัว และภาชนะบรรจุอาหาร ส่งควันดำหนาทึบขึ้นสู่ท้องฟ้า 

นอกจากนี้ ทางการยังสั่งปิดโรงเรียนระดับประถมศึกษาและโรงเรียนอนุบาลทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด ขณะที่กระทรวงแรงงาน ได้แนะนำให้พนักงานภาครัฐทำงานจากที่บ้าน

ส่วนกรุงเอเธนส์ ประกาศหยุดเก็บขยะเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อป้องกันความร้อน และจะเปิดพื้นที่ติดเครื่องปรับอากาศ 7 แห่งให้ประชาชนได้เข้าไปพักผ่อนคลายร้อน


ที่มา: AP NewsNeos KosmosPhys

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์